กรมส่งเสริมสหกรณ์ Kick Off ไทยนิยมยั่งยืน สนับสนุนงบกลางปี 1,791.5341 ล้านบาท ให้สหกรณ์การเกษตรสร้างอุปกรณ์การตลาด และแปรรูปผลผลิตการเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่า

กรมส่งเสริมสหกรณ์ เดินหน้าโครงการไทยนิยมยั่งยืน หลังได้รับงบกลางปี 1,791.5341 ล้านบาท อุดหนุนสหกรณ์การเกษตร 302 แห่ง ใน 67 จังหวัด จัดสร้างอุปกรณ์การตลาดและเครื่องแปรรูปผลผลิตการเกษตร เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า เน้นข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพารา และมันสำปะหลัง สั่งสหกรณ์จังหวัดเตรียมพร้อมระดับพื้นที่ ติดตามการดำเนินงานให้โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ มุ่งหวังสร้างประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกร

นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อเป็นการ Kick off โครงการไทยนิยมยั่งยืน ไปยังสหกรณ์จังหวัดทั่วประเทศ เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวพร้อมเพรียงกัน ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้รับการจัดสรรงบกลางปี วงเงิน 1,791.5341 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนสหกรณ์การเกษตร 302 สหกรณ์ในพื้นที่ 67 จังหวัด ดำเนินการจัดสร้างอุปกรณ์การตลาดและแปรรูปผลผลิตการเกษตร เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า ซึ่งประกอบด้วย 4 โครงการหลัก ได้แก่ โครงการพัฒนาสถาบันเกษตรกรจัดเก็บพืชผลทางการเกษตร จำนวน 146 สหกรณ์ วงเงิน 1,017.9172 ล้านบาท จัดสร้างฉาง ลานตาก โกดัง สำหรับรวบรวมและชะลอผลผลิตข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ไม่น้อยกว่า 7 แสนตัน โครงการรวบรวมและแปรรูปยางพารา วงเงิน 340.4299 ล้านบาท รวบรวมยางพารา 150,000 ตัน โครงการแปรรูปผลผลิตการเกษตร วงเงิน 410.6206 ล้านบาท เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าการเกษตร 56,000 ตัน และโครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกร วงเงิน 22.2789 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมการประกอบอาชีพให้กับชาวบ้านที่ได้รับการจัดสรรที่ดินไม่น้อยกว่า 10,320 ราย และสนับสนุนการดำเนินธุรกิจการวบรวมและการแปรรูปผลผลิตให้กับสหกรณ์พื้นที่เป้าหมาย 6 จังหวัด

ขณะนี้การดำเนินโครงการอยู่ในขั้นตอนกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งสหกรณ์สรรหาผู้รับจ้างได้แล้ว        กว่า 91% โดยได้เน้นย้ำให้ทุกสหกรณ์ดำเนินการตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างอย่างเคร่งครัด และให้มีความรอบคอบ และเมื่อได้ผู้รับจ้างแล้ว ต้องตรวจดูร่างสัญญาก่อนจะลงนามในสัญญาจ้างและมีการกำหนดแบ่งจ่ายเงินเป็นงวดโดยดูความสมเหตุสมผล ซึ่งได้สั่งการให้ทุกจังหวัดส่งเจ้าหน้าที่ลงไปกำกับดูแลกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและการก่อสร้างอุปกรณ์การตลาดเป็นรายสหกรณ์ว่าถูกต้องตามแบบหรือไม่ และให้รายงานผล แบบ Real Time พร้อมทั้งให้ส่งข้อมูลวิเคราะห์การใช้ประโยชน์ของอุปกรณ์การตลาดที่ได้รับการสนับสนุนเป็นรายสหกรณ์ ภายใน วันที่ 8 มิถุนายน 2561 นี้ เพื่อให้มั่นใจว่าสหกรณ์จะมีการใช้ประโยชน์จริงและส่งผลต่อการรองรับผลผลิตจากเกษตรกรที่เป็นสมาชิก และให้ดำเนินการด้วยความโปร่งใส ภายใต้ “ความถูกต้อง เป็นธรรม ได้ประโยชน์” ซึ่งการก่อสร้างอุปกรณ์การตลาดและเครื่องมือแปรรูปผลผลิตการเกษตร กำหนดให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2561 และในระหว่างเดือนพฤษภาคม-กันยายน 2561 จะจัดอบรมถ่ายทอดความรู้ในการใช้อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ที่ถูกต้องให้กับฝ่ายจัดการและเจ้าหน้าที่สหกรณ์ เพื่อใช้สำหรับการรวบรวมผลผลิต เก็บรักษา รอจำหน่าย การแปรรูป การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ และขยายช่องทางตลาด  และคาดว่าอุปกรณ์การตลาดและเครื่องมือต่างๆ จะเสร็จทันรองรับฤดูกาลผลผลิตตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 เป็นต้นไป