ชป. ลดระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม เตรียมพื้นที่รองรับฝนตกหนัก

เขื่อนเจ้าพระยา

กรมชลประทาน ลดระดับน้ำบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม เพิ่มพื้นที่รองรับน้ำ หลังกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศแจ้งเตือนจะมีฝนตกหนักทางตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา

ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศแจ้งเตือนร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่พายุโซนร้อน “เอวิเนียร์” ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก นั้น

ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน

สถานการณ์น้ำใน 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) ปัจจุบัน (6 มิ.ย. 61) มีปริมาณน้ำรวมกัน 12,880 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) หรือร้อยละ 52 ของความจุอ่างฯ รวมกัน มีปริมาณน้ำใช้การได้รวม 6,184 ล้าน ลบ.ม. หรือ คิดเป็นร้อยละ 34 ของปริมาณน้ำใช้การได้ทั้งหมด สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 11,900 ล้าน ลบ.ม.

สำหรับสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ปัจจุบัน (6 มิ.ย. 61) มีปริมาณน้ำไหลผ่านที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ 550 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำยังต่ำกว่าตลิ่ง 7.04 เมตร กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำโดยปรับลดระดับน้ำบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม เพื่อเพิ่มพื้นที่ไว้รองรับปริมาณน้ำที่จะเกิดจากฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบน โดยวันนี้ (6 มิ.ย. 61) เขื่อนเจ้าพระยามีปริมาณน้ำไหลผ่าน 401 ลบ.ม./วินาที หากเทียบกับ ปี 2560 ที่มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ณ เวลาเดียวกัน 699 ลบ.ม./วินาที จะเห็นได้ว่าปีนี้ มีปริมาณน้ำน้อยกว่าปีที่ผ่านมา และยังไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ยังอยู่ในภาวะปกติ

อนึ่ง ในช่วงฤดูฝน ปี 2561 นี้ กรมชลประทาน ได้วางแผนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ โดยให้โครงการชลประทานทุกแห่งตรวจสอบระบบและอาคารชลประทาน ให้สามารถรองรับสถานการณ์น้ำได้อย่างเต็มศักยภาพ การควบคุมปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำให้อยู่ในเกณฑ์เก็บกักที่เหมาะสม พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด สำหรับพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมเป็นประจำให้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำประจำพื้นที่ไว้ด้วย นอกจากนี้ ยังให้บูรณาการประสานการทำงานร่วมกับทางจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำให้ประชาชนได้รับทราบ และเตรียมพร้อมรับมือได้อย่างทันท่วงที