เผยแพร่ |
---|
วันนี้ 7 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดระยะเวลาเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา ประชาชนที่อาศัยอยู่ตามหมู่บ้านต่างๆ ของ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ตามหมู่บ้าน ต่างๆ ของ ต.ช่องสะเดา อ.เมือง และ ท้องที่ ต.หลุมรัง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ต่างก็ได้รับผลกระทบและความเดือดร้อน จากการที่มีช้างป่าแยกกันเป็นโขลงๆ ละ 10-20 ตัว และได้กระจัดกระจายออกมาจากผืนป่าชั้นใน ลงมาหากินและทำลายพืชไร่ของเกษตรกร ที่มีพื้นที่ติดกับเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ผลไม้ เช่น เงาะ ทุเรียน กล้วย และอื่นๆ ถูกช้างป่าทำลายเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะเกษตรกรในพื้นที่หมู่ 1 บ้านท่าขนุน หมู่ 2 บ้านเสาหงษ์ และหมู่ 3 บ้านปรังกาสี ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ
ส่วนเกษตรกรชาวสวนยางพารา ต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตให้เข้ากับสถานการณ์ เพราะช้างป่าโขลงใหญ่ได้กระจัดกระจายเข้ามาหากินและอาศัยอยู่ในสวนยางเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจากที่คนงานเคยเข้าไปกรีดยางในช่วงเวลาระหว่างตีสี่ตีห้าถึงหกโมงเช้าของทุกวัน ต้องเปลี่ยนเวลาในการเข้าไปกรีดยางในช่วงเวลาตั้งแต่หกโมงเช้าไปจนถึงแปดโมงเช้าแทน โดยคนงานทุกคนก็ต้องเข้าไปอย่างระมัดระวังตัวที่สุด เนื่องจากที่ผ่านมามีชาวบ้านที่เข้าไปกรีดยาง ถูกช้างป่าทำร้ายได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสมาแล้ว และล่าสุดในเวลาค่ำคืนของวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา ชาวบ้านในพื้นที่ 1 ราย ที่เป็นจิตอาสาเฝ้าระวังช้างป่าร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยป้องกันไม่ให้ออกมากินและทำลายพืชไร่ของเกษตรกร ถูกช้างป่าพุ่งเข้าทำร้ายจนเสียชีวิต
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นสร้างความเสียใจให้กับคนในครอบครัว และญาติมิตร นอกจากนี้ยังทำให้ชาวบ้านและเกษตรกรในพื้นที่ต่างก็หวาดกลัวเป็นอย่างมาก
เช่นเดียวกันเกษตรกรที่ปลูกพืชไร่อยู่ในพื้นที่ ต.ช่องสะเดา อ.เมือง และพื้นที่บ้านเขาสิงโต ต.หลุมรัง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ต่างก็ได้รับผลกระทบจากช้างป่าที่อาศัยอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ช้างป่าโขลงใหญ่ได้ออกมาหากินนอกพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เกษตรกรต่างได้รับความเดือดร้อนเป็นวงกว้าง ทรัพย์สินเสียหายเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตามหากต้องการให้คนกับช้างป่าอยู่ร่วมกันได้ หน่วยงานภาครัฐ จะต้องเร่งบูรณาการร่วมกับคนในพื้นที่ เพื่อหาแนวทางในการป้องกันไม่ให้ช้างป่าถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากฝีมือมนุษย์ เพื่อหาแนวทางในการเยียวยาและลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบโดยตรง
ที่มา : มติชนออนไลน์