ฟู้ดอินโนโพลิส ปลื้ม MIT เลือกสตาร์ทอัพด้านเกษตรนวัตกรรมอาหารของไทย ต่อยอดและนำเสนอ แผนธุรกิจบนเวทีโลก ที่สหรัฐอเมริกา

MIT สหรัฐอเมริกา/สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) โดยโครงการเมืองนวัตกรรมอาหาร หรือ ฟู้ดอินโนโพลิส นำทีมผู้ชนะเลิศการประกวดแผนธุรกิจระดับโลก 2 รายการใหญ่ คือ Global Social Venture Competition และ MIT Enterprise Forum Thailand ซึ่งเมืองนวัตกรรมอาหาร ร่วมกับ ศูนย์การสร้างผู้ประกอบการที่ขับเคลื่อนโดยนวัตกรรม (IDE Center) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จัดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยได้เดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อก้าวสู่เวทีระดับโลก พร้อมเปิดโอกาสทางธุรกิจ และเชื่อมโยงกับนักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลก นอกจากนี้ ยังได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ MIT Enterprise Forum Thailand (MITEF) ที่สถาบัน เอ็มไอที เป็นผู้จัดขึ้นอีกด้วย โดยทีมที่ได้รับการคัดเลือกของไทย ได้แก่ ทีม AIM Solution ผู้พัฒนาหุ่นยนต์เพื่อใช้เป็นตัวช่วยสำหรับครู ผู้ปกครอง และนักบำบัด ในการฝึกฝนการสื่อสารกับเด็กออทิสติก ทีม Algeaba เทคโนโลยีการเลี้ยงสาหร่าย สำหรับ Future Feed ในอนาคต รวมถึงทีม Fresh and Green ผู้นำเทคโนโลยีเชิงลึกทางด้านวัสดุศาสตร์ ในการสร้างวัสดุย่อยสลายทางชีวภาพ เพื่อเคลือบผักผลไม้สำหรับส่งออกให้มีอายุยาวนานขึ้นหลายเท่าตัว ซึ่งทั้ง 3 ทีม ได้เดินทางไปกับโครงการเมืองนวัตกรรมอาหาร ศูนย์สร้างผู้ประกอบการที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม โดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และพันธมิตรในเครือข่าย เพื่อเข้าร่วมโปรแกรมที่จัดโดยผู้เชี่ยวชาญของ MIT เพื่อต่อยอดแผนธุรกิจ รวมทั้งได้มีโอกาสนำเสนอแผนธุรกิจของตนเอง ในงาน Startup spotlight ที่จัดโดย MITEF อีกด้วย

ดร.อัครวิทย์ กาญจนโอภาษ ซีอีโอ เมืองนวัตกรรมอาหาร กล่าวว่า ความสำเร็จดังกล่าว เริ่มจากความร่วมมือของเมืองนวัตกรรมอาหาร กับศูนย์สร้างผู้ประกอบการที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ม.หอการค้าไทย (IDE center) ที่ได้ดำเนินโครงการพัฒนาสตาร์ทอัพด้านนวัตกรรมอาหาร เพื่อผลักดันนักรบสตาร์ทอัพไทยรุ่นใหม่ไปสู่เวทีโลก โดยทาง เอ็มไอที (MIT) ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญมาให้คำแนะนำ และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการก้าวเข้าสู่สตาร์ทอัพที่มีความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกและสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยอาศัยนวัตกรรมและการคิดแก้ปัญหาใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในวงกว้างได้อย่างแท้จริง จึงทำให้สตาร์ทอัพของไทยได้มีโอกาสก้าวเข้าสู่เวทีโลกในครั้งนี้