ควงจีนปั้นไทยฮับอัญมณีโลก เล็งคลอดมาตรฐานสกัดปลอมแปลง ถกขาย 2 เว็บดังหวังยอดพุ่งเท่าทุเรียน

จีไอทีเตรียมร่วมมือสถาบันอัญมณีจีนทำมาตรฐานตรวจสอบพลอยสี สกัดของปลอม เพิ่มความน่าเชื่อถือ หนุนนักท่องเที่ยวจีนซื้อกลับประเทศ เดินหน้ายกระดับขายผ่านเว็บไซต์ไป่ตู้-ทีมอล เครือ  อาลีบาบา หวังยอดขายพุ่งเหมือนทุเรียน จับมือ ททท.ดันเส้นทางสายอัญมณีและเครื่องประดับในพื้นที่แหล่งผลิต

นางดวงกมล เจียมบุตร ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ จีไอที เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังจัดทำรายละเอียดความร่วมมือระหว่างสถาบันจีไอทีกับสถาบันอัญมณีของจีน และ CGICP ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบเอกสารปลอมแปลงแห่งชาติของจีน เพื่อทำมาตรฐานคู่ระหว่าง 2 ประเทศในการตรวจสอบพลอยสี และเป็นมาตรฐานที่ยอมรับทั้ง   2 ประเทศ เช่น เฉดสีของพลอยสีแต่ละชนิด การเรียกชื่อที่ตรงกัน เป็นต้น แล้วออกเป็นใบรับรองให้กับ  ผู้ผลิตและผู้ค้าได้ใช้เป็นมาตรฐานอ้างอิง ซึ่งกำหนดจะลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ในเดือนกรกฎาคมนี้

นางดวงกมล กล่าวว่า ความร่วมมือนี้จะทำให้เกิดความคล่องตัวในการตรวจสอบและป้องกันปัญหาการปลอมแปลง หรือเกิดปัญหาระหว่างผู้ซื้อ-ผู้ขาย สร้างความน่าเชื่อถือให้มากขึ้น และยังเป็นการเพิ่มมูลค่าการค้าตลาดอัญมณีและพลอยสีของไทย เนื่องจากชาวจีนนิยมซื้อเครื่องประดับไทยที่ทำมาจากไพลินและทับทิม และผลิตในไทย โดยจะมีความร่วมมือสร้างมาตรฐานคู่จะทำกับประเทศอื่นๆ ต่อไป เช่น ญี่ปุ่น ทั้งนี้การที่เริ่มจับมือกับจีนก่อน เพราะจากตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยต่อปีกว่า 10 ล้านคน พบว่าเป้าหมายที่มาท่องเที่ยวไทย อันดับแรกคือ

มารับประทานอาหารไทย ซื้อเครื่องสำอางไทย และซื้อเครื่องประดับและอัญมณีไทย

นางดวงกมล กล่าวว่า จะร่วมมือกับแหล่งจำหน่ายพลอยสีของไทย เช่น จันทบุรี เพื่อเปิดเป็นศูนย์กลางประมูลและซื้อขายพลอยสีรวมถึงกำลังหารือให้เป็นพื้นที่ได้สิทธิประโยชน์หากมีการเข้าซื้อขายในพื้นที่นี้ และพื้นที่ผลิตเครื่องประดับในจังหวัดต่างๆ เพื่อต่อยอดการทำธุรกิจในประเทศและส่งออก เน้นให้ความรู้ถึงแนวโน้มความต้องการของตลาด ควบคู่กับการจัดทำรับรองบาย วิท คอนฟิเด้นซ์ (Buy with Confidence) เช่น สุโขทัย ตราด  นครศรีธรรมราช เป็นต้น ซึ่งได้ลงพื้นที่มาต่อเนื่อง และมีเป้าหมาย   15 จังหวัด

“จากนี้จะยกระดับการค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทย โดยกำลังเจรจานำสินค้าไทยเข้าซื้อขายบนอินเตอร์เน็ต ไป่ตู้ (Baidu) เว็บไซต์ของจีน ที่คนใช้มากที่สุดอันดับ 4 ของโลก รวมถึงซื้อขายบนเว็บไซต์  ทีมอล เครืออาลีบาบา เหมือนที่ประสบความสำเร็จแล้วกับการขายทุเรียนหมอนทอง ข้าว และสินค้า   โอท็อป” นางดวงกมล กล่าวและว่า ในปีงบประมาณ 2562 คาดว่าจะใช้งบประมาณ 140 ล้านบาท ส่วนหนึ่งจะใช้กับการเพิ่มการสร้างช่างเทคนิคในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ อีกแผนงานรองรับการผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางอัญมณีและเครื่องประดับโลกตามนโยบายรัฐบาลภายในปี 2565

ด้าน นายราเชนทร์ พจนสุนทร ประธานบริหารสถาบันจีไอที กล่าวว่า จีไอทีได้ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผลักดันให้เกิดเส้นทางสายอัญมณีและเครื่องประดับในพื้นที่ที่เป็นแหล่งผลิต เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวไทยปีละกว่า 35 ล้านคน จะผลักดันให้นักท่องเที่ยวรู้สึกว่ามาเที่ยวเมืองไทยต้องซื้ออัญมณีและเครื่องประดับเป็นของใช้ของฝาก เหมือนกับไปฝรั่งเศสต้องซื้อน้ำหอม หรือไปอิตาลี ต้องซื้อเครื่องหนัง เป็นต้น

ที่มา : ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน