ตะลึง! พบโครงกระดูกชะนีโบราณ สัตว์เลี้ยงยายจิ๋นซีฮ่องเต้ ที่สูญพันธุ์กว่า 2 พันปี

21 มิ.ย.เว็บไซต์ข่าว บีบีซี รายงานข่าว นักวิทยาศาสตร์สุดตะลึง! หลัง พบโครงกระดูกชะนีโบราณ ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ตั้งแต่ช่วงก่อนยุคโมเดิร์นโผล่กลางสุสานจีนโบราณ

นักวิทยาศาสตร์จากสมาคมสัตววิทยาแห่งลอนดอน ยืนยันว่า ‘จวินจือ อิมพีเรียลลิส’ ชะนีสายพันธุ์โบราณสูญพันธุ์จากการกระทำของมนุษย์

ดร.ซามิล เทอร์วีย์ กล่าวว่า ปกติแล้วสัตว์ในตระกูลลิงไม่มีหางไม่ว่าจะเป็น ชิมแปนซี, กอริลลา, อุรังอุตัง หรือชะนี หลายสายพันธุ์ต้องสูญพันธุ์ไปจากการถูกระรานของมนุษย์ เช่นการล่าสัตว์หรือการบุกรุกที่อยู่อาศัย แต่การค้นพบกะโหลกของ ‘จวินจือ’ ในครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงอีกมุมหนึ่งของการสูญพันธุ์ของชะนีที่แตกต่างออกไป

ZSL

กะโหลกของชะนีโบราณ ‘จวินจือ อิมพีเรียลลิส’ ถูกพบในสุสานของจีน หลังจากที่มันสูญพันธุ์ไปแล้วนานกว่า 2,300 ปีจากมณฑลส่านซี ใกล้กับโครงกระดูกของแมวป่าลิงซ์, เสือดาว และหมีดำ

มีสมมติฐานว่า ชะนีตัวนี้อาจเคยอยู่ในความดูแลของท่านผู้หญิง ‘เซีย’ ที่เป็นยายของจิ๋นซีฮ่องเต้จักรพรรดิคนแรกของจีน ผู้มีบัญชาให้สร้างกำแพงเมืองจีนและสุสานจักรพรรดิฉินที่ 1 เพราะชะนีซึ่งเป็นสัตว์ที่มีลักษณะเด่นในวัฒนธรรมจีนจึงอาจนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงเสริมบารมีของชนชั้นสูง

แบบจำลองคอมพิวเตอร์ที่มีเทคโนโลยีสูงแสดงให้เห็นว่า โครงกระดูกของชะนีตัวนี้เป็นสายพันธุ์ใหม่และเป็นสกุลชะนีที่มีความฉลาดมาก จึงอาจเป็นไปได้ที่มันจะเหลือรอดมาถึงช่วงไม่กี่ร้อยปีก่อน

JESSICA BRYANT ZS

ศาสตราจารย์ เฮเลน นักวิจัยร่วมจากมหาวิทยาลัยลอนดอน กล่าวว่า การค้นพบในครั้งนี้สามารถเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าการสูญพันธุ์ของเผ่าพันธุ์ชะนี เกิดการความต้องการของมนุษย์ที่นำมันมาเป็นสัตว์เลี้ยงส่งผลกระทบโดยตรงอย่างรุนแรงต่อธรรมชาติ

“ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของเราแสดงให้เห็นว่า ปัจจัยเหล่านี้มีผลกระทบโดยตรงต่อเผ่าพันธุ์ชะนีที่กระจายกันอยู่ในป่าทางตอนใต้ของจีน พวกมันถูกจำกัดแหล่งที่อยู่ถูกบุกรุกจนทำให้ ‘จวินจือ อิมพีเรียลลิส’ สูญพันธุ์ไปในที่สุด”