วว. ผนึกกำลัง จังหวัดสระบุรี /อบต. ตาลเดี่ยว ส่งเสริมความร่วมมือเชิงบูรณาการ ขับเคลื่อนผลงาน วทน. พัฒนาเทคโนโลยีแก้ไขปัญหาขยะชุมชนอย่างยั่งยืน

(วันที่ 26 มิ.ย. 2561)  นายบัณฑิต เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ดร.อาภารัตน์ มหาขันธ์ รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนา ด้านพัฒนาอย่างยั่งยืน สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  และ นายมงคล สุขศิลา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตาลเดี่ยว ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงการทำงาน “โครงการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและขยะพลาสติกในชุมชนเพื่อการบูรณาการอย่างยั่งยืน” เพื่อขับเคลื่อนนโยบายโครงการจังหวัดสะอาด ในการแก้ไขปัญหาขยะชุมชนด้วยผลงานวิจัยพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) มุ่งสู่การบูรณาการทุกภาคส่วนภายในประเทศอย่างยั่งยืน ในโอกาสนี้ วว. โดยศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมพลังงานสะอาดและสิ่งแวดล้อม นำโดย ดร.เรวดี อนุวัฒนา นักวิจัยอาวุโสและทีมงาน ยังได้จัดโครงการฝึกอบรมระดับเยาวชน ชุมชน และวิสาหกิจชุมชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ ในการจัดการขยะจากต้นทางและการนำกลับมาใช้ใหม่ ลดปัญหามลพิษจากขยะ ทำให้ประชาชนมีสุขอนามัยที่ดี สร้างความตระหนักในการใช้ทรัพยากร การเห็นคุณค่าของการอนุรักษ์ทรัพยากร รวมทั้งถ่ายทอดองค์ความรู้และนวัตกรรมจากผลงานวิจัยที่แล้วเสร็จ ด้าน วทน. ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับขยะชุมชน ให้แก่กลุ่มเป้าหมายทั้งระดับเยาวชน ชุมชน และพื้นที่ใกล้เคียงในเขตตำบลตาลเดี่ยว อำเภอแก่งคอย ในวันที่ 26 มิถุนายน 2561 ณ หอประชุม 60 ปี โรงเรียนแก่งคอย จังหวัดสระบุรี

นายบัณฑิต เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี กล่าวว่า ในนามของจังหวัดสระบุรีมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ วว. เข้ามาขับเคลื่อนโดยการใช้องค์ความรู้ วทน. แก้ไขปัญหาขยะชุมชน ทั้งในรูปแบบการให้องค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ในการคัดแยกขยะต้นทาง รวมถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีเครื่องจักร ซึ่งจังหวัดสระบุรีจัดเป็นพื้นที่หนึ่งในอีกหลายๆ พื้นที่ ที่เป็นเป้าหมายของรัฐบาล ในการแก้ไขปัญหาขยะชุมชน ทั้งขยะเก่าตกค้างสะสมและขยะใหม่ ซึ่งมีปัญหาสำคัญคือ การจัดการขยะชุมชนแบบไม่ถูกวิธี โดยการกองทิ้งกลางแจ้ง ทั้งนี้ จังหวัดสระบุรี มีหน่วยงานองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 109 แห่ง ซึ่งมีความแตกต่างกันของประเภทขยะ ทั้งขยะเมือง ขยะภาคการเกษตร และขยะอุตสาหกรรม จำเป็นอย่างยิ่งที่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่ต้องมีความรู้ในแนวทางการจัดการขยะที่มีลักษณะแตกต่างกัน อีกทั้งจังหวัดสระบุรีเป็นจังหวัดที่มีการขยายตัวเมืองอย่างต่อเนื่อง และการขยายตัวนี้ยังส่งผลต่อปริมาณขยะให้เพิ่มสูงขี้นอย่างต่อเนื่อง จึงมีความเชื่อมั่นว่าพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงการทำงานครั้งนี้ จะสามารถขับเคลื่อนให้ทุกภาคส่วนบูรณาการร่วมกับ วว. เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาขยะของจังหวัดสระบุรีในเขตตำบลตาลเดี่ยว ซึ่งถือเป็นต้นแบบการจัดการขยะขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งแนวทางการขับเคลื่อนของ วว. ยังมีการให้องค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ และงานวิชาการในรูปแบบต่างๆ เข้ามาเป็นเครื่องมือหนึ่งในการฝึกอบรมเพื่อขับเคลื่อนให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมต่อการจัดการขยะชุมชนที่ต้นทางอย่างถูกวิธี และนำองค์ความรู้จากงานวิจัยที่มีอยู่มาบูรณาการเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับขยะชุมชน สร้างรายได้เพิ่มและยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยนวัตกรรม ขับเคลื่อนสู่ประเทศไทย 4.0

ดร. อาภารัตน์ มหาขันธ์ รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนาด้านพัฒนาอย่างยั่งยืน วว. กล่าวว่า ความร่วมมือของ วว. จังหวัดสระบุรี และองค์การบริหารส่วนตำบลตาลเดี่ยว เป็นการนำผลงานวิจัยพัฒนาทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ในชุมชน อยู่ภายใต้การดำเนินงาน “โครงการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและขยะพลาสติกในชุมชนเพื่อการบูรณาการอย่างยั่งยืน” เพื่อผลักดันงาน ด้าน วทน. ไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาขยะชุมชนที่ต้นทาง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล เพื่อสร้างเป็นต้นแบบการคัดแยกขยะชุมชน ทั้งในรูปแบบการฝึกอบรมสร้างองค์ความรู้ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมภายในประเทศ อาทิ เทคโนโลยีการคัดแยกขยะชุมชนและกำจัดกลิ่นโดยระบบกึ่งอัตโนมัติ เทคโนโลยีการคัดแยกชนิดและสีของขยะพลาสติก โดยระบบ NIR พร้อมระบบผลิตเกล็ดพลาสติก และเทคโนโลยีการจัดการสิ่งแวดล้อม เพื่อแก้ไขปัญหาขยะชุมชนทั้งขยะเก่าและขยะใหม่

“…ปัญหาขยะมูลฝอยชุมชนของประเทศไทย นับเป็นปัญหาสำคัญและทวีความรุนแรง จากปัญหาดังกล่าว คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. จึงได้อนุมัติแผนที่นำทางการจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย รวมถึงระเบียบปฏิบัติในการจัดการขยะในประเทศไทย โดยเริ่มด้วยการจัดการขยะชุมชนที่ ตกค้างสะสมหรือขยะเก่า นอกจากนี้ กรมควบคุมมลพิษ ยังได้จัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อแก้ไขปัญหาการกำจัดขยะมูลฝอยที่ไม่ถูกต้องและตกค้างสะสมในพื้นที่ จากข้อมูลของปัญหาดังกล่าว วว. จึงร่วมมือกับ จังหวัดสระบุรี และ อบต. ตาลเดี่ยว เพื่อผลักดันงานวิจัย ด้าน วทน. ไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ วว. ผ่านการดำเนินงานโครงการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและขยะพลาสติกในชุมชนเพื่อการบูรณาการอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นโครงการนำร่องเพื่อแก้ไขและลดปัญหาขยะชุมชน รวมถึงขยะพลาสติกที่เหลือทิ้งโดยนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่และเพิ่มมูลค่า โดยขยายผลในการดำเนินงานทุกด้าน ทั้งด้านเทคโนโลยีและการฝึกอบรม  เพื่อสร้างโอกาสให้กับพื้นที่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ในการสร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างงาน สร้างอาชีพ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน…” ดร. อาภารัตน์ มหาขันธ์ กล่าว

นายมงคล สุขศิลา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตาลเดี่ยว กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนตำบลตาลเดี่ยว จัดเป็น อบต. ขนาดกลาง ที่มีจำนวน 11 หมู่บ้าน โดยมีการผสมผสานระหว่างชุมชนเมือง เกษตรกรรม และอุตสาหกรรม ทำให้ขยะมีองค์ประกอบที่แตกต่างจากเขตอื่นๆ อีกทั้งตาลเดี่ยวจัดเป็นเขตเมืองที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อจำนวนประชากรที่เพิ่มสูงขึ้นและมีปัญหาจากปริมาณขยะที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องมีแหล่งการจัดการขยะที่ถูกวิธี เพื่อสอดรับกับการขยายตัวของเมือง และประชากร ดังนั้น การที่ วว. เข้ามาช่วยขับเคลื่อนภายใต้โครงการ “โครงการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและขยะพลาสติกในชุมชนเพื่อการบูรณาการอย่างยั่งยืนซึ่งมีเป้าหมายด้านการคัดแยกขยะที่ต้นทาง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และส่งเสริมให้เกิดความตระหนักโดยการอบรมให้ความรู้ภายในชุมชนหรือหมู่บ้าน การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยจัดการทั้งขยะเก่า ขยะใหม่ และบำบัดมลพิษ จึงเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ทั้งสามหน่วยงานได้ร่วมกันดำเนินโครงการในครั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาขยะชุมชนโดยใช้องค์ความรู้ วทน. ภายในประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างเป็นต้นแบบให้หน่วยงานท้องถิ่นอื่นๆ ตามหลักการ 3Rs และสร้างมูลค่าเพิ่ม รวมถึงการจัดการมลพิษทางสิ่งแวดล้อม ให้เหมาะสมกับประเภทขยะชุมชนและลักษณะของพื้นที่ที่แตกต่างกันในแต่ละท้องที่