พณ.ดันธงฟ้าเป็น ‘โชห่วย-ไฮบริด’ ขายสินค้าชุมชนโอท็อปออนไลน์ผ่านแอพฯมือถือ

‘พาณิชย์’ ปิ๊งไอเดียเติบโต 2 ทาง ดันร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ขายสินค้าชุมชน โอท็อป และเอสเอ็มอี ทางออนไลน์ ยกระดับเป็นร้าน ‘โชห่วย-ไฮบริด’ แค่มี โทร.มือถือ ดาวน์โหลดแอพฯ เริ่มใช้งาน       1 สิงหาคม นี้

นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เปิดเผยว่า เร่งยกระดับธุรกิจ ค้าส่งค้าปลีกให้มีความแข็งแกร่ง โดยขยายช่องทาง การตลาด เพื่อเพิ่มรายได้และลดต้นทุนค่าใช้จ่าย โดยใช้ระบบอี-คอมเมิร์ซเข้ามาช่วยบริหารจัดการ โดยให้ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ จำหน่ายสินค้าชุมชน โอท็อป และเอสเอ็มอี ผ่านช่องทางออนไลน์ด้วย เป็นการยกระดับให้กลายเป็น ‘ร้านโชห่วย-ไฮบริด’ ทำให้เกิดรายได้แก่ร้านค้าอีกทางหนึ่ง เพียงเจ้าของร้านค้ามีโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต และดาวน์โหลดติดตั้งแอพพลิเคชั่น ‘โชห่วย-ไฮบริด’ ของกระทรวงพาณิชย์ ก็สามารถขยับสถานะเป็นพ่อค้า-แม่ค้าไฮเทคได้แล้ว

เบื้องต้นจะคัดเลือกสินค้าจากผู้ประกอบการสินค้าชุมชน โอท็อป และเอสเอ็มอี ที่ผ่านการส่งเสริมจากกระทรวงเป็นสินค้าที่มีศักยภาพ ผู้ผลิตมีกำลังการผลิตเพียงพอต่อคำสั่งซื้อจากร้านค้าทั่วประเทศ ยอมรับเงื่อนไขจัดส่งสินค้า และการรับชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ จะได้รับเงินหลังจากผู้ซื้อสินค้าได้รับสินค้าแล้ว โดยผู้ผลิต สินค้าต้องเป็นผู้รับภาระต้นทุนการจัดส่งสินค้า และได้ส่วนต่างกำไร (Margin) จากการจำหน่ายสินค้า

ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่เข้าร่วมโครงการ จะดาวน์โหลด และติดตั้งแอพพลิเคชั่น ‘โชห่วย-ไฮบริด’ ด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) และป้องกันไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องดาวน์โหลดแอพฯ ดังกล่าวไปใช้งาน ผู้ใช้งาน ของร้านค้าต้องได้รับการยืนยันตัวตนจากพาณิชย์ก่อน จึงจะเข้าสู่ระบบการซื้อขายสินค้าชุมชนออนไลน์ได้ วันที่ 19 กรกฎาคมนี้ จะมีการอบรมผู้ผลิตสินค้าชุมชนโอท็อป และเอสเอ็มอี เรียนรู้วิธีการใช้แอพฯ นำสินค้าเข้าสู่ระบบ รองรับการสั่งซื้อจากร้านค้าธงฟ้า

เบื้องต้นนำร่องใช้กับร้านค้าธงฟ้าประชารัฐในเขตกทม. ประมาณ 1,400 ร้านค้า ระยะเริ่มแรก แอพพลิเคชั่นใช้ได้เฉพาะระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เท่านั้น ระยะถัดไป จึงจะใช้ระบบ IOS ได้ โดยแอพพลิเคชั่น ‘โชห่วย-ไฮบริด’ ใช้งานได้ตั้งแต่ 1 ส.ค.นี้เป็นต้นไป

ในปี 2560 ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกทั้งประเทศ ซื้อขายกว่า 1.83 ล้านล้านบาท หรือ 13.9% ของ GDP ประเทศไทย เป็นอันดับ 3 รองจากภาคบริการ 32.6% ภาคการผลิต 27.7% จ้างงาน 2.9 ล้านคน    หรือ 27.5% ของทั้งประเทศ ซึ่งเป็นอันดับ 2 รองจากภาคบริการ (44.8%)

ที่มา : ขอบคุณข้อมูลจากข่าวสด