5 จังหวัด ริมโขง ลุ้นระทึกระดับน้ำพุ่งสูง เริ่มท่วมร้านค้า-พืชผักเน่าเสีย

“เลย” น้ำโขงจ่อล้นตลิ่ง แพไม้ไผ่ถูกพัดเสียหาย

วันที่ 1 สิงหาคม รายงานข่าวระบุว่า จ.เลย ซึ่งมีอำเภอติดแม่น้ำโขง 2 อำเภอ มี อ.เชียงคาน อ.ปากชม พบว่า และที่ อ.ปากชม บริเวณด่านพรมแดนถาวร บ้านคกไผ่ น้ำโขงได้ท่วมสูง และไหลแรงมาก เริ่มจะเข้าท่วมพื้นที่บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมือง ทำให้ร้านค้าถูกน้ำท่วม และแพที่ทำจากไม้ไผ่ทำเป็นซุ้มอาหาร ถูกน้ำพัดและท่วมเสียหายไปหลายหลัง

นางแดง ทองแก้ว เจ้าของ ร้านปลาเผาคกไผ่ อ.ปากชม จ.เลย กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการร้านอาหารแถวริมฝั่งโขง บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมือง บ้านคกไผ่ เริ่มประสบปัญหาระดับน้ำโขงสูงตลอด จากการสังเกตประมาณ 1 ชั่วโมง น้ำจะขึ้น 3-5 เซนติเมตร ขณะนี้น้ำโขงสูงขึ้นมาก ทำให้ร้านค้าหรือกระท่อมที่ใช้รับประทานอาหาร ที่อยู่ริมน้ำโขง ถูกน้ำดันขึ้นมาและพัดไปหลายหลังได้รับความเสียหาย

ซึ่งบริเวณบ้านคกไผ่จะเป็นแก่ง และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ไม่รู้อีกว่าน้ำโขงยังไม่มีท่าทีว่าจะลดมีแต่เพิ่มขึ้น ในช่วงนี้หลายร้านคงได้หยุดกิจการไปก่อน แต่ยังมีร้านอาหารที่ห่างจากริมฝั่งยังคงเปิดขายตามปกติ

แพร้านอาหารริมน้ำ จ.เลย

“หนองคาย”น้ำโขงทะลุ 11 ม.ปิดประตูระบายน้ำแล้ว
วันที่ 1 สิงหาคม รายงานข่าวระบุว่า ระดับน้ำโขงที่ไหลผ่าน จ.หนองคาย ยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดระดับน้ำโขงวัดที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ มีระดับอยู่ที่ 11.22 เมตร ทำสถิติสูงสุดในรอบปี 61 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ถึง 67 ซม. ต่ำกว่าตลิ่งเพียง 98 ซม. และยังมีแนวโน้มสูงขึ้นอีก เนื่องจากระดับน้ำโขงทางตอนเหนือคือที่สถานีเชียงคาน จังหวัดเลย วันนี้ยังคงมีระดับสูงขึ้น 24 ซม. เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ จากระดับน้ำโขงที่มีระดับสูง ได้เริ่มไหลเข้าปากท่อระบายน้ำภายในเทศบาลเมืองหนองคายแล้ว ทำให้เทศบาลเมืองหนองคาย ได้ปิดปากท่อระบายน้ำเกือบทั้งหมดแล้ว

และน้ำโขงยังได้หนุนเข้าลำห้วยสาขาเพิ่มมากขึ้น ล่าสุดชลประทานจังหวัดหนองคาย ได้ปิดประตูระบายน้ำของลำห้วยหลวงทั้ง 3 บาน เพื่อไม่ให้น้ำโขงไหลเข้าในลำห้วยไปท่วมพื้นที่การเกษตรทั้งใน 1 อำเภอของจังหวัดหนองคาย และ 6 อำเภอ ของจังหวัดอุดรธานี ที่ติดกับลำห้วยหลวง กว่า 3 หมื่นไร่

ประกอบกับช่วงนี้มีฝนตกต่อเนื่องทั้งในพื้นที่จังหวัดหนองคายและจังหวัดอุดรธานี ทำให้มีน้ำไหลลงลำห้วยหลวงเพิ่มมากขึ้นจนมีระดับสูง ชลประทานจังหวัดหนองคาย จึงได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 10 นิ้ว และ 12 นิ้ว จำนวน 10 เครื่อง เร่งสูบน้ำจากลำห้วยหลวงลงในแม่น้ำโขงแทน โดยจะทำการสูบต่อเนื่อง วันละ 22 ชั่วโมง สามารถสูบน้ำจากลำห้วยหลวงลงในแม่น้ำโขงได้วันละประมาณ 3 แสนลูกบาศก์เมตร หากไม่สูบน้ำลงแม่น้ำโขงจะทำให้น้ำล้นท่วมพื้นที่ทางการเกษตร

หนองคายเร่งสูบน้ำป้องกันท่วม

“มุกดาหาร” แม่ค้าตลาดอินโดจีนอพยพขึ้นที่สูง
ขณะที่ จ.มุกดาหาร พบว่า ระดับน้ำโขงในพื้นที่จังหวัดมุกดาหารยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระดับน้ำโขงที่หน้าศูนย์สำรวจอุทกวิทยาที่ 3 มุกดาหาร สูง 12.70 เมตร ซึ่งเกินระดับน้ำขั้นวิกฤต 12.50 เมตร ขึ้นมาแล้ว 20 เซนติเมตร ทำให้น้ำโขงเริ่มไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนประชาชนที่ตั้งอยู่บริเวณริมตลิ่งแม่น้ำโขงในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งประกอบด้วย 3 อำเภอ คือ อำเภอเมืองมุกดาหาร อำเภอหว้านใหญ่ และอำเภอดอนตาล รวมทั้งบริเวณตลาดอินโดจีน เขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร โดยในส่วนของตลาดอินโดจีนชั้นใต้ดินน้ำได้เริ่มเอ่อล้นเข้ามาในพื้นตลาด ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 31 กรกฎาคม

นายอดุล ศิริมันต์ หัวหน้าฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองมุกดาหาร ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองมุกดาหาร นำกระสอบทรายมาวางกั้นน้ำโขงไว้ไม่ให้ทะลักเข้ามาในพื้นที่ตลาด แต่น้ำโขงยังคงซึมผ่านเข้ามาได้ จนผู้ประกอบการค้าที่อยู่ใกล้กับบริเวณประตูต้องเก็บรวบรวมสินค้าใส่ถุงโดยมีเจ้าหน้าที่ช่วยยกขึ้นไปวางไว้บริเวณด้านบนตลาด

ขณะที่ในวันนี้ยังคงมีเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดมุกดาหารเดินทางมาประจำอยู่ที่ศาลาเรารักมุกดาหารเพื่อคอยเฝ้าระวังเนื่องจากมีอุปกรณ์เครื่องจ่ายกระแสไฟฟ้าอยู่ภายในบริเวณตลาดอินโดจีนชั้นใต้ดินอยู่เป็นจำนวนมาก และหากน้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นในระดับที่อาจส่งผลกระทบต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าก็จะตัดกระแสไฟฟ้าทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายขึ้นได้

มุกดาหารร้านค้าหนีน้ำ

ท่วมพื้นที่เกษตร”บึงกาฬ”

ด้าน จ.บึงกาฬ พบว่า ระดับน้ำในแม่น้ำโขงได้เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้มีน้ำล้นตลิ่งแม่น้ำโขง ไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านแล้ว 2 อำเภอ คือ อำเภอเมืองบึงกาฬ และอำเภอบึงโขงหลง บางแห่งมีระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร โดยเฉพาะที่บ้านท่าดอกคำ ม.1 ต.ท่าดอกคำ อ.บึงโขงหลง ระดับน้ำได้ล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านของ นายเอกชัย ก้อนแพง อายุ 48 ปี เจ้าหน้าที่ทหารรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ต้องช่วยกันขนย้ายสิ่งของขึ้นไว้ในที่สูง เพื่อป้องกันความเสียหาย ส่วนพื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมกว่า 500 ไร่

ทั้งนี้ จังหวัดบึงกาฬ ยังมีอีก 2 อำเภอ ที่อยู่ติดกับแม่น้ำโขง คือ อำเภอปากคาด และบุ่งคล้า ซึ่งยังไม่ได้รับรายงานว่ามีน้ำโขงล้นตลิ่งแต่อย่างใด มีเพียงน้ำโขงหนุนลำน้ำสาขาจนทำให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรบางส่วนเท่านั้น ซึ่งทางจังหวัดได้แจ้งเตือนให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชม. หากถึงขั้นวิกฤตให้รีบแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที

บึงกาฬทหารช่วยขนเครื่องมือเกษตร

“อำนาจเจริญ”นาข้าวจม-พืชสวนเริ่มเน่า
นอกจากนี้ จ.บึงกาฬ นายประจักร กลิ่นอ้ม นายกเทศมนตรีตำบลชานุมาน กล่าวว่า น้ำโขงสูงขึ้นมาก เช้านี้วัดได้ 11.30 เมตร หากถึง 12 เมตร น้ำโขงจะถึงจุดวิกฤตล้นตลิ่งทันที สาเหตุจากมีฝนตกอย่างต่อเนื่องและน้ำเหนือไหลหนุนมาสมทบตลอดเวลาจากทางด้านจังหวัดนครพนมและมุกดาหาร และนับได้ว่าสูงที่สุดในรอบ 15 ปี ก็ว่าได้ เพราะปีที่ผ่านๆ มา ไม่หนุนสูงขนาดนี้เลย อีกอย่างน้ำที่ไหลเอ่อลงมาจากทางสปป. ลาว

และน้ำโขงในช่วงนี้มีสีออกแดงขุ่นข้นไม่ควรลงเล่นและอาบน้ำโขง ส่วนพืชผลทางการเกษตรที่เกษตรกรปลูกไว้ตามริมฝั่งแม่น้ำโขง เช่น พริก มะเขือ มะละกอ กล้วย มะนาว ข้าวโพด ผักชนิดต่างๆ กำลังเน่าตายระนาว รวมทั้งนาข้าวก็จมอยู่ใต้น้ำกว่า 4 หมื่นไร่ สร้างความเสียหายเป็นอย่างยิ่ง และน้ำในลำแม่น้ำโขงจะสูงขึ้นทุกวัน วันละ 40-50 ลูกบาศก์เมตร บางวันสูงขึ้น 70-80 เมตร

น้ำโขงอำนาจเจริญ