เกษตรกรสุราษฎร์ธานี เลี้ยง-เพาะพันธุ์หอยโข่ง เป็นอาชีพเสริม สร้างรายได้ช่วงโควิด-19

ปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าสัตว์น้ำหลายชนิดในธรรมชาติมีจำนวนลดน้อยลง เมื่อเทียบกับสมัยก่อนที่อาจหาได้ง่ายนำมาประกอบอาหาร อย่างเช่น ปูนา หอยขม หอยโข่ง แต่ด้วยปัจจัยการทำเกษตรและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป จึงทำให้สัตว์น้ำเหล่านี้มีจำนวนที่ลดน้อยลง หรือไม่เพียงพอต่อการนำมาบริโภค ทำให้มีผู้มองเห็นวิกฤตนี้สร้างโอกาสทางธุรกิจสำหรับสร้างรายได้ด้วยการเพาะพันธุ์สัตว์น้ำที่มีจำนวนลดลงเป็นสินค้าที่สามารถเกิดรายได้เป็นอย่างดี

คุณมณฑล มังกรแก้ว

คุณมณฑล มังกรแก้ว หรือ คุณหนุ่ม อยู่บ้านเลขที่ 60/13 หมู่ที่ 4 ตำบลหัวเตย อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เห็นโอกาสในการสร้างรายได้ด้วยการนำหอยโข่งใต้มาเพาะพันธุ์ จนสามารถเกิดผลผลิตที่สามารถทำการตลาดทั้งจำหน่ายเป็นพ่อแม่พันธุ์ หรือสร้างเป็นสินค้าสำหรับบริโภคแบบมีคุณภาพ ช่วยให้เกิดรายได้หลายช่องทางจากการเลี้ยงหอยโข่งใต้

ไข่หอยโข่งใต้

คุณหนุ่ม เล่าให้ฟังว่า หอยโข่งปักษ์ใต้ หรือ หอยโข่งใต้ มีลักษณะพิเศษไม่เหมือนหอยโข่งทั่วไปในแถบภาคกลาง คือเป็นหอยโข่งที่มีตัวขนาดใหญ่ ซึ่งสมัยก่อนเขาเองยังไม่ได้สนใจที่อยากจะเลี้ยงหอยโข่งใต้ ได้ทำการเกษตรด้านอื่น ต่อมาได้มีเพื่อนมาแนะนำให้รู้จักจึงได้ทำการศึกษาข้อมูลและสืบค้นการเลี้ยงต่างๆ ว่าหอยโข่งใต้มีการเลี้ยงกันในจังหวัดใดบ้างในแถบภาคใต้ จากนั้นจึงได้นำมาทดลองเลี้ยงจนประสบผลสำเร็จในเวลาต่อมา

ลุกหอยโข่งใต้ที่ผ่านการอนุบาล

“พอเราศึกษาข้อมูลได้พอสมควร ไปหาดูตามแหล่งที่เขาเลี้ยง และดูว่ามีที่ไหนบ้างที่สามารถเลี้ยงประสบผลสำเร็จ จากนั้นก็เลยนำเข้ามาทดลองเลี้ยง มีทั้งหาซื้อพ่อแม่พันธุ์จากชาวบ้านที่ไปจับมาจากทะเลน้อย และหาซื้อไข่มาฟักเองบ้าง ซึ่งการเลี้ยงสามารถเลี้ยงได้หลายแบบ บางพื้นที่เลี้ยงในกระชังบก บางที่เลี้ยงในบ่อดิน ส่วนของผมจะเลี้ยงในบ่อดิน และทำกระชังอยู่ตรงกลางบ่อ ไม่ให้หอยสัมผัสดินโดยตรงและง่ายต่อการจับจำหน่าย” คุณหนุ่ม บอก

โดยการเพาะเลี้ยงหอยโข่งใต้ให้ได้ลูกพันธุ์ที่พร้อมจำหน่ายได้ คุณหนุ่ม เล่าวิธีการเลี้ยงและการจัดการให้ฟังว่า จะนำพ่อแม่พันธุ์หอยโข่งใต้มาเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ที่หาซื้อได้ทั่วไป จากนั้นใส่น้ำลงไปภายในบ่อปูนที่เลี้ยงให้มีความสูง ประมาณ 20 เซนติเมตร ปล่อยพ่อแม่พันธุ์หอยโข่งใต้ที่มีอายุประมาณ 1 ปี ลงไปในบ่อปูนที่เตรียมไว้ในปริมาณที่เหมาะสม หลังจากนั้นประมาณ 1 เดือน แม่พันธุ์ก็จะผ่านการผสมพันธุ์และวางไข่ออกมาให้เห็น

เมื่อเห็นแม่พันธุ์หอยโข่งใต้วางไข่ จะนำไข่ที่ได้มาใส่ลงในตะกร้าเพื่ออนุบาล โดยจำลองการฟักให้เหมือนกับธรรมชาติมากที่สุด ประมาณ 10-15 วัน ลูกหอยโข่งใต้ก็จะฟักออกมาเป็นตัวที่มีขนาดเล็ก ในระยะนี้ลูกหอยจะกินสัตว์น้ำขนาดเล็กภายในบ่อ หรือแหนแดงเป็นอาหาร เลี้ยงอยู่ในบ่อปูนอนุบาลประมาณ 2 เดือน เมื่อลูกหอยโข่งใต้มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย ก็จะนำไปเลี้ยงลงในบ่อดินที่เตรียมไว้อีก 4 เดือน หลังจากนั้นจะได้หอยโข่งใต้ที่มีไซซ์ 20-25 ตัว ต่อกิโลกรัม ที่พร้อมจำหน่ายได้

การเลี้ยงในบ่อแบบง่ายๆ

“การทำความสะอาดของบ่อปูนที่เลี้ยงไม่มีอะไรยุ่งยาก เราสามารถนำน้ำออกให้พอเหมาะ จากนั้นใส่น้ำใหม่เข้าไปเลี้ยงได้ทันที ส่วนการเลี้ยงในบ่อดินก็ดูแลทั่วไป อาหารก็ไม่สิ้นเปลืองเรามีอาหารแบบลดต้นทุนที่มีคุณค่าทางอาหารเลี้ยง เพียงแต่ขั้นตอนการอนุบาลเราต้องดูแลให้ดี ผ่านช่วงนี้ไปได้ เราก็ไปเลี้ยงต่อให้โตช่วงนี้เราก็กำหนดได้ว่า จะทำการตลาดแบบไหนต่อไป” คุณหนุ่ม บอก

หอยโข่งใต้

สำหรับในเรื่องการทำตลาดเพื่อจำหน่ายหอยโข่งใต้นั้น คุณหนุ่ม บอกว่า หอยชนิดนี้สามารถกำหนดทิศทางการทำตลาดได้หลายช่องทาง โดยส่วนตัวเขาเองจะมีการทำตลาดทั้งเลี้ยงเพื่อจำหน่ายเป็นพ่อแม่พันธุ์ และลูกหอยขนาดเล็ก การจำหน่ายไข่หอยให้ลูกค้าซื้อไปฟักเอง และที่เป็นสินค้าสำหรับบริโภคคือนำหอยที่เลี้ยงจนสามารถทานได้นำมานึ่งให้สุกจำหน่ายพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ดพร้อมทานได้ทันที

พื้นที่น้อยก็เลี้ยงได้

ซึ่งราคาจำหน่ายไข่หอยโข่งใต้สำหรับนำไปฟักเอง อยู่ที่ฟองละ 10-15 บาท หอยโข่งใต้อายุอยู่ที่ 2-3 เดือน จำหน่ายอยู่ที่ตัวละ 2-3 บาท และไซซ์ขนาด 20-25 ตัว ต่อกิโลกรัม เป็นหอยที่ยังมีชีวิต และผ่านการนึ่งจนสุกพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด จำหน่ายอยู่ที่กิโลกรัมละ 120-150 บาท

หอยนึ่งพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด

“ตอนนี้ผมกำลังเริ่มมีการรวมตัวของชุมชน เพื่อสร้างเป็นกลุ่มผู้เลี้ยงหอยโข่งใต้ขึ้นมา เพื่อให้ทุกคนได้มาสร้างอาชีพร่วมกัน เพื่อที่เราจะได้มีกำลังผลิตในอนาคต พร้อมทั้งมีการทดลองการเลี้ยงให้มีการพัฒนามากขึ้น เพราะฉะนั้นในสถานการณ์โควิดแบบนี้ เราควรทำอาชีพที่สร้างรายได้หลายช่องทาง เพื่อให้เกิดรายได้ ถ้าเรามีการจัดการที่ดี ก็จะช่วยให้เราทำตลาดได้ต่อเนื่องและเป็นอาชีพที่ยั่งยืนได้” คุณหนุ่ม บอก

สำหรับท่านใดที่สนใจในเรื่องของการเลี้ยงหอยโข่งใต้ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ คุณมณฑล มังกรแก้ว หรือ คุณหนุ่ม หมายเลขโทรศัพท์ (081) 756-4847