กรรไกรตัดกิ่งไม้

กรรไกรเรามีหลายชนิด

ลองร่ายเรียงออกมา จะพบว่ามีกรรไกรตัดเล็บ กรรไกรตัดผม กรรไกรตัดกระดาษ กรรไกรคีบหมาก กรรไกรตัดผ้า กรรไกรตัดสายไฟ และกรรไกรตัดกิ่งไม้ เป็นต้น  แต่ละชนิดใช้งานต่างกันไป แม้บางชนิดจะใช้ร่วมกันได้ แต่ในแง่ของความสะดวก รวดเร็ว และความเหมาะสมนั้น อาจจะไม่เกิดผลดีนัก

อย่างเอากรรไกรตัดกระดาษไปตัดกิ่งไม้เล็กๆ แม้จะตัดได้ แต่กรรไกรก็จะเสียหาย ถ้าทำอย่างไม่ระมัดระวังอาจจะบิ่น ร่อย หัก และเสียหายได้

กรรไกรตัดกิ่งไม้ เราชาวบ้านมีใช้กันมานานแล้ว แม้จะไม่นานขนาดบรรพกาล แต่ก็นานพอที่จะเล่าขานได้ว่า เราใช้คู่กับสวนมายาวไกล

การตัดกิ่งไม้ สมัยเก่าก่อน เราชาวบ้านใช้มีด เพียงแค่ลับมีดให้คม เมื่อต้องการตัดกิ่งไม้ก็บรรจงตัดออกไปได้เลย แต่ถ้าเป็นกรณีแต่งกิ่งต้นไม้ปลูกใหม่ กล้าไม้ หรือดอกไม้ที่บอบบาง บางกรณีเราก็ไม่สามารถใช้มีดคมๆ ตัดได้ เพราะจะทำให้ไม้ของเราชอกช้ำ ผลต่อมาก็คือ กล้าไม้ตาย หรือไม่ก็เฉาไปอีกหลายวัน กว่าจะฟื้นขึ้นมาใหม่

การเอามีดไปตัดกิ่งไม้ที่บอบบางเป็นการใช้เครื่องมือผิดประเภท แม้จะไม่ผิดอะไร แต่ถ้าไม่ระวังให้ดีอาจทำให้เกิดความเสียหาย ได้ไม่คุ้มเสีย

ด้วยเหตุนี้เอง กรรไกรตัดกิ่งไม้ จึงมีความจำเป็นสำหรับชาวสวน และชาวบ้านที่รักชอบในการปลูกต้นไม้ ดอกไม้

หน้าตาของกรรไกรตัดกิ่งไม้ โครงสร้างก็เหมือนๆ กับกรรไกรตัดผ้า กรรไกรตัดกระดาษ และกรรไกรทั่วๆ ไป ผิดกันแต่เพียงมีความหนากว่า และมีด้ามจับกระชับ มั่นคงกว่า ทั้งนี้เพราะว่ากิ่งไม้มีหลายขนาดนั่นเอง

การใช้กรรไกรตัดกิ่งไม้ เราชาวบ้านใช้เมื่อต้องการตัดกิ่งไม้เล็กๆ หรือดอกไม้ อย่างดอกกุหลาบหน้าบ้าน เมื่อเราปลูกเสร็จแล้ว เวลาตัดแต่งกิ่ง เราต้องใช้กรรไกรค่อยๆ ตัดแต่งกิ่งที่ไม่ต้องการออกไป ให้เหลือแต่กิ่งที่สมบูรณ์ไว้ ดอกไม้จะได้เป็นกอสวยงาม

เมื่อกุหลาบออกดอก ถ้าต้องการดอกกุหลาบเราก็ต้องใช้กรรไกรตัดอีกเหมือนกัน นอกจากต้องใช้กรรไกรแล้ว เพื่อความรอบคอบก็ต้องใช้ถุงมือด้วย กุหลาบสวยๆ มักมีหนามแหลมคม พร้อมที่จะทิ่มตำมือเราได้ทุกเวลา

ถือว่าเป็นธรรมดาของโลก ความสวยงามใด ๆ ก็ตาม มักมีเงาร้ายแฝงฝากอยู่เสมอๆ สมัยเรียนมัธยม เพื่อนๆ มักพูดคำเชยๆ แต่สนุกสนานว่า กุหลาบสวยมีหนาม สาวงามมีพิษ เอ่ยออกมาแล้วพากันหัวเราะครื้นเครง

สมัยเรียนมัธยมนั้น  คำกล่าวประเภท กุหลาบสวยมีหนาม สาวงามมีพิษ เราไม่ถือว่าเป็นคำเชยๆ แต่ถือว่าเป็นคำคม แม้เราจะไปแอบจำมาจากพระเอกลิเกที่มาเล่นงานวัด หรือจำมาจากหนังขายยาในลานวัดก็ตาม

เกี่ยวกับกรรไกร สมัยเด็กๆ ยังมีคำคล้องจองตะโกนเล่นกันอย่างสนุกสนานว่า “ยายจันทร์อยู่บ้านข้างวัด ปากแกจัดเหมือนตะไกร เช้าเย็นไม่อยากเห็นหน้า เช้าเย็นไม่อยากเห็นหน้า ปากแกด่าชื่นใจๆ”

กรรไกร เราชาวบ้านบางถิ่นเรียกว่า “ตะไกร” โดยเฉพาะอย่างยิ่งพ่อแก่แม่เฒ่า เมื่อต้องการกรรไกรก็มักจะร้องบอกลูกๆ หลานๆ เป็นต้นว่า “หยิบตะไกรตัดกิ่งไม้มาให้ที”

กรรไกรตัดกิ่งไม้ เราชาวบ้านมักไม่ได้ทำขึ้นมาเอง แต่หาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป ราคาถูก แพง ขึ้นอยู่กับวัสดุที่นำมาผลิต แม้จะเป็นอันเล็กๆ แต่ราคามักจะไม่เล็กตามไปด้วย ไม่เหมือนกรรไกรตัดกระดาษที่หาซื้อได้ง่าย และราคาถูก

เราจะเลือกกรรไกรขนาดไหน ขึ้นอยู่กับงานของเรา ถ้าเพียงใช้ตัดแต่งกิ่งดอกไม้ทั่วไป เราก็เลือกกรรไกรขนาดเล็ก ราคาไม่แพงมาก แต่ถ้าต้องการตัดแต่งกิ่งต้นดอกไม้จำพวกชบา พุดจีบ พุดซ้อน เราก็เลือกขนาดใหญ่ขึ้นมาเล็กน้อย

ถ้าต้องการตัดแต่งกิ่งผลไม้ ประเภทละมุด มะม่วง กระท้อน ลักษณะเช่นว่านี้ถ้าเป็นกิ่งเล็กๆ พอใช้กรรไกรได้ แต่ต้องเป็นกรรไกรขนาดใหญ่ แต่ถ้าต้องการตัดแต่งกิ่งใหญ่ๆ คงต้องเป็นหน้าที่ของมีดคมๆ หรือไม่ก็เลื่อยจะเหมาะงามกว่า

การเลือกเครื่องมือมาใช้ถูกงานตั้งแต่แรก จะทำให้เกิดความราบรื่นในการทำงาน ก็เหมือนเลือกคนที่ใช่มาคู่ชีวิต เกิดความสุขในชีวิตนั่นแล