ฝรั่งหัวใจเกษตร ถ่ายทอดวิถีชาวสวน จนเป็นไอดอล บนโลกออนไลน์

ถ้าหากกล่าวว่าการเกษตรเป็นสิ่งที่อยู่ในสายเลือดของคนไทย ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัยคำกล่าวนี้ก็ถือว่ายังเป็นจริงอยู่เสมอ ยิ่งเป็นผู้ที่เติบโตมาจากต่างจังหวัดด้วยแล้ว ไม่ว่าจะผ่านไปแห่งหนตำบลใดก็ตาม เกษตรกรรมก็คือสิ่งที่ต้องพบเห็นผ่านสายตาในทุกโมงยามของชีวิต อย่างน้อยก็ทำให้ได้อยู่ในความทรงจำตลอดเวลา และยิ่งครอบครัวที่มีอาชีพทางการเกษตรสร้างรายได้ด้วยแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ทายาทของครอบครัวจะมาช่วยการต่อยอดและพัฒนาการทำเกษตรที่อยู่ในสายเลือดให้ดียิ่งขึ้น เพื่อทุกคนจะได้ทำกินอยู่บนพื้นที่ของตัวเองได้อย่างยั่งยืน

คุณเจนนิเฟอร์ อินเนส-เทเลอร์ หรือ คุณเจน สาวลูกครึ่งหน้าใสชาวจังหวัดอุดรธานีตั้งแต่กำเนิด เธอเป็นคนรุ่นใหม่ที่ได้กลับมาช่วยครอบครัว ต่อยอดในเรื่องของการทำเกษตรให้มีระบบมากขึ้น แม้จะจบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ จากมหาวิทยาลัยมหิดล แม้ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับด้านการเกษตรเลย แต่สายเลือดเกษตรกรที่อยู่ภายในตัวของเธอทำให้รักการทำเกษตร พร้อมทั้งนำประสบการณ์ที่ได้ไปอยู่และศึกษาเล่าเรียนจากต่างประเทศมา 2 ปี ทำให้รู้จุดบกพร่องของการทำเกษตรที่คุณพ่อทำอยู่ ว่าต้องวางระบบอย่างไรเพื่อให้มีรายได้สม่ำเสมอตลอดทั้งปี

คุณเจนนิเฟอร์ อินเนส-เทเลอร์ หรือ คุณเจน

เห็นครอบครัวทำการเกษตร

มาตั้งแต่เธอจำความได้

คุณเจน เล่าให้ฟังว่า ย้อนไปเมื่อ 20 กว่าปีก่อนนั้นตั้งแต่ที่เธอจำความได้ การปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ถือเป็นกิจกรรมของครอบครัวที่เธอเห็นมาตั้งแต่เด็ก เพราะคุณพ่อเป็นที่ปรึกษาให้กับ FAO เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเกษตรโดยเฉพาะ ซึ่ง “อุดรออร์แกนิคฟาร์ม” ที่เธอเห็นมาตั้งแต่เด็กนั้น เกิดจากน้ำพักน้ำแรงที่คุณพ่อค่อยๆ สร้างมากับคุณแม่ เพราะคุณพ่อของเธอเรียนจบด้านการเกษตรมาจากประเทศอังกฤษ พร้อมทั้งจบปริญญาโททางด้านการเลี้ยงสัตว์ เมื่อได้มาอยู่ที่ประเทศไทยจึงเกิดแนวความคิดที่อยากจะอยู่กับธรรมชาติมากขึ้น จึงได้มาทำการเกษตรและเลี้ยงสัตว์เชิงอินทรีย์มาจนถึงปัจจุบันนี้

คุณเจนกับคุณพ่อ

“หลังจากที่คุณพ่อทำงานมาเรื่อยๆ ก็เริ่มเกิดแรงบันดาลใจที่อยากจะทำฟาร์มเป็นของตนเอง และซึ่งการเลี้ยงโคเนื้อก็ถือว่าเป็นสัตว์ที่ท่านชอบเป็นอย่างมาก หลังได้มีครอบครัวแล้ว ก็ค่อยๆ เริ่มสร้างฟาร์มในฝันอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ แต่แรกๆ เริ่มจากปลูกพืชก่อน พอขยับขยายฟาร์มมากขึ้น ก็เริ่มทดลองซื้อโคเนื้อเข้ามาเลี้ยง โดยปรับให้ทุกอย่างลงตัวที่สุด จึงเป็น “อุดรออร์แกนิคฟาร์ม” ที่เห็นจนถึงทุกวันนี้ค่ะ” คุณเจน บอก

โดยโคเนื้อที่เลี้ยงทั้งหมดของฟาร์ม คุณเจน บอกว่า จะเน้นให้กินหญ้าที่ปลูกเองทั้งหมดภายในพื้นที่ที่จัดสรรไว้ เพราะเมื่อทำฟาร์มในระบบอินทรีย์ ไม่ว่าจะปลูกพืชหรือเลี้ยงสัตว์ก็อยากให้เป็นแนวเดียวกันทั้งหมด เพราะฉะนั้นโคเนื้อที่เลี้ยงจึงกินแต่หญ้าสดไม่มีอาหารอื่นเข้ามาปะปน จึงทำให้โคเนื้อเมื่อได้อายุจำหน่ายได้ เนื้อที่ผ่านการชำแหละแล้วมีความพิเศษเฉพาะทำให้ลูกค้าสั่งจองทั้งหมด

มีเพื่อนชาวต่างชาติเข้ามาดูงาน

แบ่งพื้นที่ 8 ไร่

ทำเกษตรครบวงจร

เมื่อได้มาทำการเกษตรอย่างเต็มตัวหลังจบการศึกษา คุณเจน บอกว่า การเกษตรไม่ใช่เรื่องไกลตัวหรือยากลำบากสำหรับเธอเลย เพราะว่าสิ่งเหล่านี้ได้เห็นและทำมาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะเป็นการปลูกผักหรือในทุกเช้าต้องเก็บไข่ไก่ที่เลี้ยงไว้ในทุกๆ วัน จึงไม่ได้มองว่าสิ่งเหล่านี้คือการทำงาน แต่มันคือส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิต แม้ไม่ได้เรียนจบตรงสายมาก็ตาม แต่สายเลือดเกษตรกรอยู่ในตัวเธอมาตั้งแต่เกิดและทำให้เธอสนุกกับสิ่งนี้ และมีใจรักที่อยากจะทำการเกษตร ต่อยอดให้ดียิ่งขึ้นจากที่คุณพ่อทำไว้

คุณเจนกับคอกโคเนื้อที่ชอบมาในทุกๆ วัน

เนื่องจากครอบครัวต้องการทำการเกษตรให้ครบวงจรมากที่สุด ในพื้นที่ 8 ไร่หลัก จะแบ่งพื้นที่ปลูกข้าว ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์อย่างเช่นไก่และหมูเอาไว้ด้วย ซึ่งบ่อเลี้ยงปลาก็ได้ขุดสระไว้ด้วยเช่นกัน ส่วนพื้นที่ที่นอกเหนือจากนี้ ก็จะใช้สำหรับปลูกหญ้าเพื่อปล่อยโคเนื้อให้ออกไปแทะเล็มกินในแต่ละวัน โดยแบ่งพื้นที่ปลูกหญ้าสลับกันไปมาเพื่อให้เติบโตทันโคเนื้อกิน

ซึ่งโคเนื้อที่เลี้ยงอยู่ในฟาร์มเป็นโคเนื้อพันธุ์ลูกผสมพื้นเมือง สาเหตุที่เลือกเป็นลูกผสมพื้นเมือง เนื่องจากสามารถทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดีกว่า และที่สำคัญตลาดในพื้นที่นิยมซื้อขายเป็นหลัก จึงทำให้การเลี้ยงต้องดูความต้องการของตลาดเป็นสำคัญ โดยการเลี้ยงจะเน้นให้โคผสมพันธุ์เองตามธรรมชาติ มีโคตัวผู้เป็นพ่อพันธุ์คุมฝูง 1 ตัว คอยผสมพันธุ์ให้กับโคตัวเมียภายในฟาร์มทั้งหมด

โคเนื้อพันธุ์ลูกผสมที่เลี้ยงไว้ในฟาร์ม

ในแต่ละวันจะปล่อยให้โคเนื้อได้ออกไปกินหญ้าในแปลงที่เตรียมไว้ และปล่อยให้อยู่อย่างนั้นตลอดทั้งวัน จึงทำให้การเลี้ยงไม่ได้ยุ่งยากที่จะต้องไปตัดหญ้ามาให้โคกิน แต่จะเน้นให้อยู่และกินหญ้าแบบธรรมชาติมากที่สุด เมื่อโคสาวภายในฟาร์มได้อายุผสมพันธุ์ได้เกือบ 2 ปี พ่อพันธุ์ในฝูงก็จะทำการผสมพันธุ์ให้เองตามธรรมชาติ จากนั้นดูแลการตั้งท้องจนกว่าจะคลอดไปประมาณ 9 เดือน

พื้นที่ปลูกผัก

“การเลี้ยงโคที่นี่ อาหารที่ใช้เลี้ยงจะให้กินหญ้าทั้งหมด ไม่มีอาหารอย่างอื่นเสริมเลย ถ้าช่วงเย็นก็อาจจะให้หญ้าเนเปียร์ที่ปลูกไว้ กับฟางมาให้โคได้กินในคอก ส่วนโคแม่พันธุ์ที่ตั้งท้องก็กินอาหารเหมือนตัวอื่นๆ สามารถปล่อยเดินในทุ่งได้ แต่พอจะคลอดจะแยกออกมาเดี่ยวๆ ให้อยู่ในคอกที่เตรียมไว้ หลังคลอดแล้วก็จะให้อยู่กับแม่ไปตลอด โดยที่เราไม่ต้องเข้าไปยุ่งกับลูกโคมากนัก ก็จะปล่อยให้อยู่กับฝูงและกินนมแม่โคไปแบบนั้น อยากหย่าเมื่อไรเราไม่ได้บังคับเลยค่ะ” คุณเจน บอก

ทุ่งหญ้าอาหารสัตว์

ส่วนในเรื่องของการทำวัคซีนต่างๆ ป้องกันโรคให้กับโคเนื้อ คุณเจน บอกว่า ที่ฟาร์มแห่งนี้ไม่ได้ทำหรือป้องกันโรคด้วยวัคซีนประจำปีอะไร เพราะระบบการเลี้ยงเป็นฟาร์มแบบปิดไม่มีคนนอกเข้ามาภายในฟาร์ม จึงทำให้ไม่ต้องกลัวว่าจะมีโรคเข้ามา และยิ่งการเลี้ยงเป็นแบบปล่อยไล่ทุ่งภายในทุ่งหญ้าที่เตรียมไว้เอง โคเนื้อจึงได้เดินออกกำลังกายอยู่เสมอ จึงทำให้ค่อนข้างมีความแข็งแรง

โคเนื้อตัวผู้ชำแหละขายเอง

ได้มูลค่าต่อตัว มากกว่าขายยกตัว

สำหรับการทำตลาดเพื่อจำหน่ายโคเนื้อในฟาร์มนั้น สื่อโซเชียลมีเดียถือว่ามีความสำคัญมากสำหรับการทำตลาด โดยลูกค้าไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารหรือร้านขายส่งเนื้ออื่นๆ ก็จะติดต่อเข้ามาขอซื้อผลผลิตจากฟาร์มอยู่เป็นประจำ ซึ่งการขายของที่ฟาร์มแห่งนี้จะส่งโคเนื้อตัวผู้ที่อายุครบและน้ำหนักได้เกณฑ์ ไปผ่านโรงเชือดและนำผลิตภัณฑ์ที่ได้ไปส่งขายให้กับลูกค้าเอง

สาเหตุที่ลูกค้าชื่นชอบเนื้อที่ผ่านการเลี้ยงด้วยวิธีนี้ คุณเจน เล่าว่า จากที่เคยส่งตรวจในเรื่องของคุณค่าทางอาหาร เนื้อที่นี่จะมีโอเมก้า 3 ในปริมาณที่เยอะ เพราะโคเนื้อที่นี่กินหญ้าที่ปลูกแบบอินทรีย์ จึงทำให้สิ่งที่กินเข้าไปช่วยส่งเสริมทำให้เนื้อโคที่ผ่านการชำแหละมีคุณภาพ โดยราคาแต่ละส่วนก็จะแตกต่างกันไป ราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 450-850 บาท ซึ่งการขายแบบนี้จะทำให้ได้มูลค่าหรือผลกำไรมากกว่าการขายแบบยกตัว

คุณเจนกับลูกโคที่มาเล่นด้วยเป็นประจำ

“หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย และได้ผ่านการไปอยู่ต่างประเทศมาประมาณ 2 ปี พอได้กลับมาอยู่กับฟาร์มของตัวเองในที่ที่คุ้นเคย รู้สึกว่าชอบบรรยากาศแบบนี้มากกว่า ทุกอย่างมันเป็นธรรมชาติ สิ่งที่เห็นได้ชัดเลยคือเรื่องความเครียด เราไม่ต้องไปอยู่ในเมืองที่วุ่นวายคนเยอะๆ เลยรู้สึกว่าไม่เครียด ตอนนี้ก็มาสานต่อการทำเกษตรของครอบครัว วางระบบฟาร์มให้ดียิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องของการทำสื่อออนไลน์ให้ความรู้ และแปรรูปผลผลิตต่างๆ ให้มีมูลค่า พร้อมทั้งนำปุ๋ยคอกมาปลูกพืชด้วย ก็ถือว่าเรามีการจัดการที่ดี และเป็นธรรมชาติแบบอินทรีย์ เท่านี้ทุกคนในบ้านก็ปลอดภัยจากสารเคมี และมีรายได้ที่ยั่งยืนจากการได้ทำในสิ่งที่รักค่ะ” คุณเจน บอก

ผลผลิตที่ปลูกแบบอินทรีย์

สำหรับท่านใดสนใจในเรื่องของการเลี้ยงโคเนื้อลูกผสมพื้นเมือง หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำฟาร์มแบบอินทรีย์ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ คุณเจนนิเฟอร์ อินเนส-เทเลอร์ หรือ คุณเจน ฟาร์มตั้งอยู่เลขที่ 74 หมู่ที่ 3 บ้านโนนคาม ตำบลเชียงพิณ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี หมายเลขโทรศัพท์ 081-873-4413

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก 27 กันยายน พ.ศ. 2566