ไก่ตะเภาทองเกษตรศาสตร์ เนื้ออร่อย เหนียวนุ่ม ได้รับความต้องการอย่างต่อเนื่อง

“ไก่ตะเภาทองเกษตรศาสตร์ ผู้บริโภคให้การยอมรับอย่างเป็นวงกว้าง เพราะเนื้อของไก่เป็นเอกลักษณ์ รสชาติดี และด้วยกรรมวิธีการเลี้ยง ขั้นตอนการเลี้ยงไก่ตะเภาทองเกษตรศาสตร์ มีรูปแบบการเลี้ยงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงทำให้ผู้บริโภคให้ความสนใจอย่างมาก และที่สำคัญคุณภาพเนื้อที่มีคุณภาพเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ได้รับการยอมรับจากเชฟจากโรงแรมต่างๆ ให้ความสนใจและนำไปทดลองประกอบอาหารหลายเมนู จึงมีความนิยมอย่างต่อเนื่อง” คุณ ณ นพชัย กล่าว

คุณ ณ นพชัย ผิวเกลี้ยง อยู่บ้านเลขที่ 328 หมู่ที่ 2 ตำบลบ่อสุพรรณ อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ไฟแรงที่ได้เห็นถึงลักษณะพิเศษของไก่ตะเภาทองเกษตรศาสตร์ จึงได้มาทำการเลี้ยงเป็นอาชีพ และช่วยส่งเสริมต่อยอดให้กับเกษตรกรที่สนใจอยากเลี้ยงสร้างรายได้ต่อไป

คุณ ณ นพชัย ผิวเกลี้ยง

ซึ่งไก่พันธุ์ตะเภาทองเกษตรศาสตร์เกิดจากการผสมข้ามพันธุ์ ระหว่างไก่พื้นเมืองของไทยพันธุ์หนึ่งที่เกือบจะสูญพันธุ์ไปแล้ว คือไก่พันธุ์ตะเภาทองกับไก่พื้นเมืองของจีน ชื่อว่าไก่สามเหลือง (ซาอึ้ง) ซึ่งไก่ทั้งสองสายพันธุ์นี้มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน แต่เมื่อนำทั้งสองสายพันธุ์มาผสมกันคือ พ่อพันธุ์ตะเภาทอง แม่พันธุ์สามเหลือง จึงได้เกิดเป็นไก่ตะเภาทองเกษตรศาสตร์ขึ้นมา

ซึ่งลักษณะทั่วไปของไก่ตะเภาทองเกษตรศาสตร์ จะมีรูปร่างสมส่วน สวยงามทั้งเพศผู้และเพศเมีย มีลักษณะหงอนหินประมาณ 85 เปอร์เซ็นต์ และอีก 15 เปอร์เซ็นต์ มีลักษณะหงอนหนอนจักร ขนออกเป็นสีเหลืองทอง แข็งสีเหลือง จะงอยปากเหลือง

แม่ไก่ตะเภาทองเกษตรศาสตร์

คุณ ณ นพชัย เล่าให้ฟังว่า เหตุผลที่มาเลือกเลี้ยงไก่ตะเภาทองเกษตรศาสตร์ เพราะจากที่ได้ทดลองเลี้ยงในช่วงแรกๆ นั้น เป็นไก่ที่ตอบโจทย์ในการที่จะเลี้ยงในสภาพภูมิอากาศแบบในประเทศไทย เพราะสามารถเจริญเติบโตได้ดี ทนต่อโรค และที่สำคัญสามารถเลี้ยงแบบปล่อยบริเวณรอบบ้านได้โดยที่ไม่ต้องขังให้อยู่ในกรง

ซึ่งไก่ตะเภาทองเกษตรศาสตร์ที่เขาเลี้ยงทุกตัว จะเน้นให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมือนธรรมชาติมากที่สุด โดยได้แบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วนๆ คือ มีโรงเรือนนอน พื้นที่สำหรับเดินเล่นและคุ้ยเขี่ย โดยถ้าไก่ได้มีพื้นที่ให้ได้วิ่งเล่นตามแบบนิสัยที่เป็น ก็จะทำให้ไก่มีความแข็งแรง ต้านทานต่อโรคระบาดได้ง่าย

อาหารที่ใช้เลี้ยงส่วนใหญ่จะเน้นเป็นพืชผลทางการเกษตรที่หาได้จากในชุมชน เช่น ใบเตย พืชผักต่างๆ ที่เหลือจากการคัดเกรดมาให้ไก่กิน อาจจะให้กินวันละ 1-2 มื้อก็ได้ ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่หามาได้ในท้องที่ ว่าสามารถหามาได้มากน้อยเพียงใด ถ้าได้มากก็ให้กินวันละ 2 มื้อ และถ้ามีน้อยอาจเปลี่ยนเป็นวันละ 1 มื้อ ไม่มีเกณฑ์ตายตัวมากนักในเรื่องนี้

“ไก่สายพันธุ์นี้ได้มีการปรับปรุงพันธุ์มาเรื่อยๆ เพื่อให้สามารถเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่าตอบโจทย์กับเกษตรกรแน่นอน เพราะช่วงนี้ผมเองก็ได้เล็งเห็นถึงเกษตรกรรายอื่นๆ ที่สนใจอยากจะเลี้ยง จึงได้มีการส่งเสริมให้เกษตรกรที่ทำเกษตรด้านอื่น อาจจะแบ่งพื้นที่สักเล็กน้อยมาเลี้ยงไก่ตะเภาทองเกษตรศาสตร์ เพื่อสร้างรายได้ อย่างน้อยก็ยังมีรายได้จากการทำปศุสัตว์ เมื่อสินค้าทางด้านพืชราคาขายลดลง ซึ่งไก่ตะเภาทองสามารถกินได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นพืชผักสวนครัว ต้นไม้ใบหญ้าในท้องถิ่น ก็นำของเหล่านี้แทนที่เราจะทิ้งก็สามารถนำมาเลี้ยงไก่ได้ ในประมาณ 100-200 ตัว รอบบริเวณบ้าน ก็สามารถทำรายได้ให้กับคนเลี้ยงได้” คุณ ณ นพชัย บอก

โดยกลุ่มตลาดเป้าหมายของการทำตลาดของไก่ตะเภาทองเกษตรศาสตร์ คุณ ณ นพชัย บอกว่า เป็นไก่คุณภาพดีที่เหมาะสำหรับกับคนรักสุขภาพ ซึ่งทางฟาร์มได้ยึดถือรูปแบบการเลี้ยงแบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งผู้บริโภคที่รักสุขภาพให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ถึงในเรื่องของความปลอดภัยที่จะบริโภค รวมถึงการตลาดในระดับโรงแรมต่างๆ ก็ให้การยอมรับ

“ทางฟาร์มเราก็อยู่ในช่วงการปรับการเลี้ยง ให้เข้าสู่ระบบมาตรฐานฟาร์มของกรมปศุสัตว์ เพื่อสร้างการยอมรับและความเชื่อใจของผู้บริโภค รวมถึงระบบโรงเชือดต่างๆ ซึ่งในอนาคตเราได้ทำการติดต่อกับโรงเชือดที่ผ่านมาตรฐานฮาลาล เพื่อกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นมุสลิม เมื่อเราได้มาตรฐานดังกล่าวแล้ว ไก่ตะเภาทองเกษตรศาสตร์จะเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค ได้มากขึ้น ซึ่งอนาคตเรามีแผนการตลาดว่าเราจะผลักดันไก่ตะเภาทองเกษตรศาสตร์เป็นแบรนด์ไก่ชั้นนำ ที่มีจำหน่ายในร้านโมเดิร์นเทรดของประเทศต่อไป ซึ่งตอนนี้อย่างเช่น โรงแรมเซ็นทรัลลาดพร้าว ก็ได้ทำการค้าขายกันอยู่ และมีอีกหลายๆ โรงแรมด้วยที่กำลังติดต่อเข้ามา ร่วมถึงร้านอาหารหลายๆ ร้าน ก็ให้ความสนใจด้วยเช่นกัน” คุณ ณ นพชัย บอก

ต้มยำไก่ตะเภาทองเกษตรศาสตร์
เมนูในห้องอาหารโรงแรม
สินค้าพร้อมส่งจำหน่าย

สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะเลี้ยงไก่แต่ยังไม่กล้าที่จะเลี้ยง คุณ ณ นพชัย ให้คำแนะนำว่า หากสนใจที่อยากจะเลี้ยงไก่ตะเภาทองเกษตรศาสตร์ ถือว่าไม่มีอะไรที่ยุ่งยาก เพราะไก่กินง่ายอยู่ง่าย เจริญเติบโตได้ดี แต่สิ่งที่ต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้สอดคล้องกับเรื่องของการตลาดคือ อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนวิธีการเลี้ยงเพื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัย ตอบโจทย์กับผู้รักสุขภาพของคนในยุคนี้ โดยเลี้ยงแบบถูกมาตรฐาน สามารถตรวจสอบย้อนกลับสินค้าได้ การเลี้ยงไก่ตะเภาทองเกษตรศาสตร์ก็ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณ ณ นพชัย ผิวเกลี้ยง หมายเลขโทรศัพท์ (083) 090-6629

โดยในวันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2560 ทางนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน ได้จัดสัมมนา ไก่เนื้อ ไก่พื้นเมือง สัตว์เศรษฐกิจทำเงิน “แนะนำวิธีการเลี้ยงไก่เชิงการค้า การป้องกันโรคระบาดสัตว์ อุตสาหกรรมแปรรูปไก่เนื้อจนถึงการส่งออก” ณ ห้องประชุมใหญ่ หนังสือพิมพ์ข่าวสด ซึ่งคุณ ณ นพชัยได้มาร่วมสัมมนาในครั้งนี้ด้วย หากมีความสนใจและอยากชมไก่ตะเภาทองเกษตรศาตร์ สามารถมาพบกับเขาได้ภายในงาน ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ (02) 580-0021 ต่อ 2335, 2339, 2342, 2343 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Error! Hyperlink reference not valid.