ผลิตเมล็ดพันธุ์ขาย ลุยได้ก็มีรายได้

“ถ้าไม่ลงมือทำ จงอย่าถามถึงความสำเร็จ อย่าไปท้อและไม่ต้องรอโชคชะตา”

คำกล่าวจากปราชญ์ชาวบ้านท่านหนึ่ง ที่ย้ำเตือนทุกครั้ง เมื่อเราท้อ เมื่อเราหมดกำลังใจ เกษตรทางรอด วันนี้ จะไปพารู้จักอาชีพหนึ่งที่หลายคนมองว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ก็มีคนทำได้ และเริ่มทำแล้ว มีรายได้ดีเสียด้วย เกษตรกรไทยส่วนใหญ่จะชอบทำตาม ไม่ยอมเป็นต้นแบบ เพราะกลัวว่าทำไป ลงมือไปแล้วจะไม่ประสบผลสำเร็จ ขาดทุน ที่สำคัญอุปสรรคอย่างหนึ่งคือ บิดามารดา ที่ส่งเราเรียนจนได้ดิบได้ดี มีเงินเดือนในบริษัทใหญ่โต มีคำถามมากมายว่า เรียนตั้งสูงเงินเดือนตั้งเยอจะมาเป็นเกษตรกรทำไม

คิดไว้แล้วเจออุปสรรค บางคนถึงกับไปไม่เป็น เพราะรักพ่อแม่ไม่อยากเถียง ก็ปล่อยไป ปล่อยทุ่งนาที่อยากเปลี่ยนก็หยุดไป เกริ่นมาตั้งนานก็หอหักดิบเลยว่าต้องลุยต่อ ดีกว่าไปกินเงินเดือนในเมืองใหญ่ กลับมาบ้านอีกทีก็เกษียณตัวเองเสียแล้ว เมื่อเราไม่เริ่มต้นก็จะไม่ได้ลงมือทำสักที เป็นลูกจ้างเขา เหนื่อยก็ทำให้เขา จะกี่ปีก็เป็นของเขาสู้ทำเพื่อตัวเรา หาทางรอดแบบยั่งยืนดีกว่า การปลูกพืชเพื่อเอาเมล็ดพันธุ์ไปขาย ถือว่าเป็นอาชีพที่ได้รับความสนใจสามารถสร้างรายได้ไม่ธรรมดา

การผลิตเมล็ดพันธุ์พืช เป็นการเพิ่มปริมาณเมล็ดพันธุ์ดีให้มีมากขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสให้เกษตรกรได้ใช้ พันธุ์พืชที่ดีในการเพาะปลูก เพื่อเพิ่มผลผลิตและรายได้ให้มากขึ้นและตรงความต้องการของผู้บริโภคหรือผู้ใช้ผลผลิตนั้น เมื่อกล่าวถึงเมล็ดพันธุ์ที่ดีคือ เมล็ดพันธุ์ที่ตัวเมล็ดเองมีคุณภาพดีและเป็นพันธุ์ที่มีสมรรถนะการให้ผลผลิตสูงคุณภาพของเมล็ดพันธุ์ที่ดีจะต้องมีองค์ประกอบ 4 ประการนี้ คือ

  1. คุณภาพทางพันธุกรรม (genetic quality) คือ เมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพตรงตามพันธุ์เมื่อปลูกแล้วจะมีลักษณะปรากฏ (phenotype) เป็นไปตามที่ genotype ที่ต้องการของพันธุ์กําหนด คุณภาพทางพันธุกรรมของเมล็ดพันธุ์ที่ดี จะมาจากกระบวนการผลิตเมล็ดพันธุ์ในสภาพแปลงที่ดีด้วย
  1. คุณภาพทางกายภาพ (physical quality) หมายถึง คุณภาพของเมล็ดพันธุ์ที่ปรากฏให้สัมผัสได้ เช่น มีลักษณะภายนอกดี ขนาดและรูปร่างสม่ำเสมอ ไม่มีสิ่งเจือปนไม่แตกหักหรือร้าว ไม่มีโรคและแมลงทําลาย เป็นต้น เมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพทางกายภาพดี จะเป็นพื้นฐานทางด้านสินค้าและการตลาดของเมล็ดพันธุ์ด้วย
  1. คุณภาพทางสรีรวิทยา (physiological quality) เป็นคุณภาพที่เกี่ยวกับกระบวนการทางสรีรวิทยา ได้แก่ การงอก และความแข็งแรงของเมล็ด รวมทั้งความคงทนของการเก็บรักษาด้วย
  2. ปราศจากโรคและแมลง (phytosanitary quality) เมล็ดพันธุ์ที่ดีต้องสะอาด ไม่มีโรคและศัตรูใดๆ ติดมากับเมล็ดพันธุ์

นี่คือพื้นฐานในการเก็บเมล็ดพันธุ์เพื่อขาย คุณสมบัติแบบนี้แหละเป็นที่สนใจจากต่างประเทศเป็นอย่างมาก การที่ทำพื้นฐานไว้ก่อนเพื่อจะได้ทำมาตรฐานไว้ ว่าลูกค้าต้องการเมล็ดพันธุ์แบบไหน การทำเมล็ดพันธุ์พืชขาย ก็ต้องดูระยะเวลาของพืชและชนิด พืชนี้มีอยู่เก็บเกี่ยวกี่เดือน คำว่าเก็บเกี่ยวคือตั้งแต่ปลูกจนเก็บเมล็ดแก่เมล็ดที่ได้คุณภาพ ไม่ใช่ผลที่จะเอาไปกินนะครับ ในพื้นที่หลายพื้นที่ในประเทศไทยที่ปลูกแล้วส่งขายก็จะมีการทำที่แตกต่างกันออกไปตามใจลูกค้า ชาวบ้านเกษตรกรบางคนบางท่านไม่เข้าใจปลูกตัวฝักยาว ได้ยาวได้สวยก็อยากเก็บขาย ไม่ใช่นะครับ เพราะเราจะต้องเก็บเมล็ดของถั่วฝักยาวเพื่อเป็นเมล็ดพันธุ์ วัตถุประสงค์ของเกษตรกรไม่เหมือนกัน บางท่านอยากทำเพื่อเอาเมล็ดก็ต้องชัดเจนไปเลย บางท่านปลูกเพื่อกินขายผลก็ต้องชัดเจนกันไปเลย

การปลูกพืชเอาเมล็ดจะเอาเป็นรอบ ลงทุนเป็นรอบ แล้วแต่ชนิดของพืชที่ต้องการ ถือเป็นอาชีพที่ได้รับความสนใจ มีบริษัทเมล็ดพันธุ์ที่ส่งเสริมการปลูกในเรื่องอย่างนี้ และมีการทำเป็นธุรกิจ มีลูกไร่ที่ชัดเจน แต่ไม่ใช่ว่าทางเลือกทางรอดของเกษตรรุ่นใหม่จะไม่มี เพราะในปัจจุบันโลกใบนี้ต้องการเมล็ดพันธุ์เพื่อออกจำหน่ายไปขายทั่วโลก ประเทศไทยยังผลิตไม่เพียงพอ

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เคยเปิดเผยในงานประชุมเมล็ดพันธุ์พืชแห่งเอเชียและแปซิฟิค ประจำปี 2565 ซึ่งเป็นงานสำคัญของสมาคมเมล็ดพันธุ์พืชภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิค จัดขึ้นทุกปีในประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค เป็นการจัดประชุมธุรกิจเมล็ดพันธุ์ของสมาคมและองค์กรเมล็ดพันธุ์พืชภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิคที่เป็นสมาชิก เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการปรับปรุงพันธุ์พืช การผลิตและการค้าเมล็ดพันธุ์ในระดับภูมิภาค และอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายเมล็ดพันธุ์และการค้าขายอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งส่งเสริมการฝึกอบรมและการแบ่งปันความรู้ในระดับท้องถิ่น ระดับภูมิภาค และระดับโลก เกี่ยวกับการพัฒนาอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ที่สำคัญหลายอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศไทย นี่จึงเป็นการตื่นตัวในแวดวงการสร้างเมล็ดพันธุ์พืช

เกษตรกรอย่างเราต้องทำอย่างไรล่ะครับ ง่ายๆ มีที่ดินประมาณ 2 ไร่ เป็นอย่างต่ำ จะมีเป็น 20-30 ไร่ก็ยิ่งดี มีน้ำเพื่อรองรับการปลูกพืช มีแรงงานเพื่อดูแลเอาใจใส่ในการปลูกตั้งแต่พืชนั้นลืมตามาดูโลก ที่เขียนแบบนี้เพราะพืชพูดไม่ได้แต่พืชต้องกินต้องโต ต้องออกผลผลิต ต้องมีสิ่งบำรุงร่างกายคือปุ๋ย เลี้ยงดีก็ผลผลิตดี สิ่งเหล่านี้แหละครับจะเป็นตัววัดว่าเราไหวหรือไม่ ถ้าเราไหวก็ไปต่อ แรงงานสัมพันธ์หลายอย่าง แรงงานต้องเรียนรู้ในเรื่องเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาด้วย การใช้เครือข่ายก็สำคัญเมื่อมีลูกไล่ การใช้อินเตอร์เน็ตการทำแอปพลิเคชั่นก็ถือว่าต้องมีสิ่งเหล่านี้มารองรับเพราะต่างประเทศอยากรู้ข้อมูลเราก็เสิร์ซหาก็จะเจอเองครับ การตลาดต่างประเทศคือท่านมีลูกหลานเก่งภาษาอยู่ในป่าในดอยก็สามารถทำได้ ที่สำคัญต้องรู้สภาพฟ้าฝน ข้อแนะนำนี้คือข้อแนะนำคนที่ทำตลาดใหม่ๆ ถ้าท่านมีแบบนี้บอกคำเดียวว่าไปโลดแน่นอน

ปัญหาหนึ่งที่จะเจอบ้างก็คือ แม้การผลิตเมล็ดพันธุ์จะมีรายได้ที่มากกว่าการผลิตผลสด แต่กว่าจะได้เงินนั้นก็กินเวลานานกว่า ซึ่งเมล็ดพันธุ์บางประเภทจำเป็นต้องปลูกทดสอบคุณภาพก่อน ก็ต้องอดทนนะครับ นั่นคือจุดเริ่มต้น ถ้าผู้รับซื้อตรวจคุณภาพแล้ว บอกได้ว่าเป็นอาชีพที่ไม่ขี้เหร่เช่นกัน ท่านเกษตรกรต้องวางแผนการผลิตและบริหารจัดการแปลงเพื่อลดต้นทุนและหารายได้ให้ครอบครัว ว่าแปลงไหนจะเอาเมล็ดหรือแปลงไหนจะปลูกขายหมุนเวียนในระบบก็ต้องแบ่งสันปันส่วนให้ดี เกษตรทางรอดในรูปแบบนี้ถือได้ว่า สร้างอาชีพยั่งยืนในอนาคตได้ ลงมือทำคือคำตอบที่ง่ายที่สุดครับ