สุขทุกคำ ธุรกิจเกษตรอินทรีย์ครบวงจร

คุณสมศักดิ์ เจียรสมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท สุขทุกคำ จำกัด อดีตเขาทำงานบริษัทเอกชน ทำหน้าที่เกี่ยวกับศูนย์กระจายสินค้า เขาเห็นความสำคัญของสุขภาพ ชอบเลือกสินค้าที่มีประโยชน์มารับประทาน ต้องการให้ครอบครัวรับประทานอาหารที่ปลอดภัย ต่อมาเมื่อคนไทยเห็นความสำคัญของสุขภาพ จึงค้นหาสินค้าเกษตรอินทรีย์ จนพบกับ “ตะกร้าปันผัก” ของร้าน HealthMe ซึ่งจัดจำหน่ายผักผลไม้อินทรีย์ จึงตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิก รับผักผลไม้และวัตถุดิบประกอบอาหารที่จัดส่งถึงบ้าน สินค้าเกษตรอินทรีย์ได้รับความนิยมมากขึ้น

คุณสมศักดิ์ เจียรสมบูรณ์ พร้อมครอบครัว

ขณะนั้น คุณสมศักดิ์เป็นพนักงานบริษัทเอกชน ทำหน้าที่เกี่ยวกับศูนย์กระจายสินค้า มองเห็นโอกาสทางธุรกิจ จึงตัดสินใจเข้าถือหุ้นธุรกิจ HealthMe จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท สุขทุกคำ จำกัด หลังจากนั้นซื้อกิจการ HealthMe เพื่อบริหารธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ ธุรกิจของบริษัท สุขทุกคำ จำกัด คือการจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ทางเว็บไซต์ https://www.healthmedelivery.com เช่น ผักผลไม้ เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว อาหารทะเล ไข่ไก่ ไข่เป็ด และสินค้าเกษตรอินทรีย์อื่นๆ นอกจากนั้น ยังผลิตและจำหน่ายอาหารพร้อมปรุงพร้อมรับประทานจากวัตถุดิบเกษตรอินทรีย์ รวมถึงบริการรับจัดงานเลี้ยงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยใช้วัสดุจากธรรมชาติเป็นหลัก เช่น ใบตองเป็นบรรจุภัณฑ์อาหาร เช่น ขนมไทย ข้าวเหนียวหมู ข้าวห่อ

เมื่อเริ่มบริหารธุรกิจ บริษัท สุขทุกคำ จำกัด คุณสมศักดิ์เริ่มค้นหาพื้นที่สำหรับทำการเกษตรของตนเองเพื่อปลูกผักผลไม้อินทรีย์ ตกลงเลือกทำไร่เกษตรอินทรีย์ที่ “ไร่สุขทุกคำ” บริเวณอำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ประเทศไทย ด้วยความร่วมมือสมาพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืนพะเยา (SDGsPGS) องค์กรสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรอินทรีย์ บริษัทสามารถปลูกผักผลไม้อินทรีย์ได้จำนวน 1 ไร่ จากพื้นที่ทั้งหมดจำนวน 60 ไร่

อุปสรรคของธุรกิจเกษตรอินทรีย์ประเทศไทย ปัญหาสำคัญของธุรกิจคือ สินค้าเกษตรอินทรีย์มีอายุสั้น (Shelf life) เก็บรักษาสินค้าไว้ได้ไม่นาน เราต้องบริหารจัดการคลังสินค้าให้ดี เหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภค ต้องมีสินค้าตามจำนวนที่ลูกค้าต้องการและสามารถจัดส่งสินค้าอย่างสม่ำเสมอ เมื่อเกิดความเสียหายกับสินค้า เราต้องยอมรับความเสียหายและนำข้อบกพร่องมาแก้ไข หลังจากที่ซื้อกิจการและเข้าบริหารธุรกิจ จำนวนลูกค้าประจำเพิ่มมากขึ้น สินค้าไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค คุณสมศักดิ์ต้องหาสินค้า เช่น บร็อกโคลี่ (Broccoli) และพริกหยวก เพื่อนำมาจัดจำหน่ายให้กับลูกค้าประจำจึงพยายามตอบสนองความต้องการของลูกค้า พวกเขาไม่ต้องการความแปลกใหม่ เขาต้องการสินค้าที่พวกเขาเคยรับประทานเป็นประจำ แต่ต้องเป็นผักผลไม้อินทรีย์ สินค้าประเภทผลก็คือผลไม้ตามฤดูกาลแต่เป็นผลไม้อินทรีย์ มีการจองเป็นพรีออร์เดอร์ (Pre-Order) โดยลูกค้าสามารถสั่งจองและชำระเงินก่อนรับสินค้า ตัวอย่างสินค้า เช่น ลิ้นจี่พันธุ์ฮงฮวย จากจังหวัดพะเยา ทุเรียนพวงมณี จากจังหวัดจันทบุรี เป็นต้น

ปัญหาของเกษตรกรคือ มีสินค้าจำนวนจำกัด จำเป็นต้องรวบรวมสินค้าจากกลุ่มเกษตรกรหลายๆ กลุ่ม เพื่อจัดส่งไปยังบริษัทซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ สุขทุกคำมีแผนร่วมมือกับวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ตำบลแม่ใส จังหวัดพะเยา เพื่อใช้บริการรถยนต์ห้องเย็นขนส่งสินค้าให้เกิดประโยชน์มากที่สุด โดยรถยนต์จะตระเวนรับผักผลไม้อินทรีย์ในพื้นที่จังหวัดพะเยาและจังหวัดใกล้เคียง แล้วเดินทางนำสินค้าสู่กรุงเทพฯ บทบาทสำคัญของบริษัท สุขทุกคำ จำกัด คือการบริหารจัดการผักผลไม้ให้ถึงมือลูกค้า มีสินค้าเกษตรอินทรีย์ส่งถึงให้ลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ โดยแบ่งสินค้าออกเป็น 3 ประเภท คือ 1. สินค้าหาง่ายแต่เป็นที่ต้องการของตลาด เช่น ผักบุ้ง กวางตุ้ง คะน้า 2. สินค้าหายากแต่เป็นที่ต้องการของตลาด เช่น แคร์รอต หอมหัวใหญ่ บร็อกโคลี่ 3. สินค้าขายดีคือ กะหล่ำปลี ผักกาดขาว

ผลิตภัณฑ์ของบริษัท

คุณสมศักดิ์ในฐานะผู้บริหาร มีแผนขยายธุรกิจ จำหน่ายผักผลไม้อินทรีย์ให้โรงเรียนและโรงพยาบาล เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ให้มีรายได้มากขึ้น ปัจจุบันผู้บริโภคเลือกรับประทานสินค้าเกษตรอินทรีย์มากขึ้น รักสุขภาพมากขึ้น เกิดปัญหาสุขภาพในวัยกลางคนมากขึ้น พวกเขารับสารพิษจากอาหารมากเกินไป ตอนนี้พวกเขาเลือกซื้อสินค้าเกษตรอินทรีย์แม้ราคาสินค้าจะสูงขึ้น ปัญหาสำคัญคือ เราจะค้นหาสินค้าคุณภาพให้เจอแล้วจัดส่งสินค้าให้กับผู้บริโภคอย่างไร

ขอบคุณข้อมูลและภาพ ร.ต.อ. ทรงวฒิ จันธิมา (กระจอกชัย) และ ผศ.น.สพ.สมชาติ ธนะ

มะม่วงที่ปลูกในแปลงของบริษัท
ผลผลิตที่ส่งให้กับลูกค้า