มะขามเปียก ปั้นเป็นก้อน ง่ายนิดเดียว เก็บไว้ใช้นานเป็นปี

ในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน เป็นช่วงที่มะขามเปรี้ยวสุก ทุกวันนี้มะขามเปรี้ยวไม่ค่อยพบบ่อยนัก ในช่วงที่มะนาวแพง ดังนั้น ในแต่ละครัวเรือนจึงนิยมใช้มะขามเปียกแทนมะนาวเพื่อให้รสเปรี้ยว ฉะนั้นการที่จะถนอมอาหารให้มีมะขามเปียกไว้ปรุงรสในครัวเรือนได้นานๆ

คุณเดือน เหลาประเสริฐ แกะมะขามทำมะขามเปียกถนอมไว้ใช้ในครัวเรือน

คุณเดือน เหลาประเสริฐ ที่อยู่ 18 หมู่ที่ 2 บ้านกงกลาง ตำบลบ้านกง อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า หลังจากที่เก็บมะขามเปรี้ยวสุกมาแล้ว ต้องแกะเปลือกและเส้นใยออกทั้งหมดแล้วนำไปตากแดดประมาณ 3 วัน นำไปตากให้แห้งเพื่อที่จะแกะเมล็ดง่ายเพราะถ้ามะขามไม่แห้งจะแกะยาก ระยะเวลาการเก็บ มะขามเปียกจะเก็บไว้ปรุงรสได้เป็นปี หลังจากที่แกะเมล็ดออกแล้วก็จะนำมาปั้นเป็นก้อนขนาดเท่ากำปั้นแล้วนำไปแช่เก็บไว้ในตู้เย็น เพราะหากเก็บไว้ด้านนอกมะขามจะดำ คุณเดือน บอกว่า มะขามเปียกในตลาดจะขายกิโลกรัมละ 40 บาท (ยังไม่แกะเมล็ด) แต่ถ้าแกะเมล็ดออกแล้วจะมีราคาแพงกว่านั้น (ราคาก้อนละ 20 บาท ถ้าแกะเมล็ดแล้ว)

มะขามเปียกจะใช้ปรุงเวลาทำต้มยำ น้ำจิ้มลูกชิ้น ใส่ต้ม แกงต่างๆ จะช่วยประหยัดเรื่องค่าใช้จ่ายโดยใช้แทนมะนาวในช่วงมะนาวแพง เวลาจะนำมาปรุงอาหารจะใส่น้ำร้อนหรือผสมน้ำอุ่น หากจะใส่ส้มตำเพื่อเพิ่มความแซ่บ ก็จะแช่น้ำก่อนให้เนื้อมะขามพองก็จะตักน้ำใส่ส้มตำเพื่อให้ได้รสเปรี้ยวแทนมะนาว นอกจากทำอาหารแล้ว มะขามเปียกยังนำไปขัดผิวเพื่อความสวยงามได้อีกด้วย ส่วนเมล็ดก็ไม่ได้ทิ้งจะนำไปคั่วเคี้ยวเป็นของว่างก็ได้

คุณเดือน เล่าอีกว่า สมัยก่อนมีแต่ปอกมะขามไปขายไม่ได้เก็บเหมือนทุกวันนี้เพราะมะขามมีเยอะ แต่ก่อนจะปอกขายที่ตลาดไม่เอาเมล็ดออก เมื่อหลายปีมาแล้ว กิโลกรัมละ 5 บาท ทุกวันนี้เมื่อความเจริญเข้ามาจึงไม่ค่อยมีต้นมะขามเปรี้ยวเพราะคนตัดเยอะ ดังนั้น ทุกวันนี้มะขามไม่ค่อยมีจึงต้องแกะมาตุนไว้ประกอบอาหาร ฤดูมะขามสุกจะอยู่ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ถึงสิ้นเดือนเมษายนก็หมดแล้วต้นมะขามจะออกดอก ถ้าจะแกะทำมะขามเปียกก็ต้องลงมือแกะเวลานี้