ผู้เลี้ยงสุกรบุกพณ.ยื่นหนังสือคัดค้านนำเข้าเนื้อหมูสหรัฐ

ผู้เลี้ยงสุกรบุกพณ.ยื่นหนัสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และสมาชิกผู้เลี้ยงสุกรกว่า 100 คน ได้เดินทางมากระทรวงพาณิชย์ และยื่นหนังสือถึงกรมเจรจาการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อคัดค้านการนำเข้าเนื้อสุกรจากสหรัฐฯ ประมาณ 15.00 น.วันที่ 11 กันยายน

นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าวว่า สมาคมฯเป็นห่วงกรณีนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปสหรัฐฯในเวลาอันใกล้นี้ เพื่อลดขาดดุลการค้าของสหรัฐ และมีกระแสข่าวว่ากรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ จะเดินทางไปเจรจาก่อนเพื่อเปิดนำเข้าเนื้อหมูที่สหรัฐฯในวันที่ 12 กันยายน จึงขอคัดค้านไม่ให้มีการนำเข้าเนื้อสุกรจากสหรัฐเลย เนื่องจากมีสารเร่งเนื้อแดง(แร็คโตปามีน)ซึ่งเป็นสารต้องห้ามตามกฎหมายไทย และหากนำเข้ามาจะกระทบเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรของไทย และห่วงโซ่การผลิตพืชเศรษฐกิจอื่นๆ เช่น รำข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ถั่วเหลือง จะเสียหายมูลค่ารวมกันนับล้านล้านบาท

“สมาคมมีการยื่นหนังสือร้องเรียนหลายครั้งแล้วกับกระทรวงพาณิชย์ และนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ได้รับการชี้แจงจากภาครัฐ จึงต้องการให้รัฐบาลไทยยืนยันกับสหรัฐว่าจะไม่มีการนำเข้าเนื้อสุกรอย่างเด็ดขาด หากภาครัฐไม่ตอบสนองต่อข้อเรียกร้อง และหากมีการนำเข้าเนื้อสุกรจากสหรัฐเข้ามาจริง ทางกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรจะตั้งทีมคัดค้านการนำเข้า โดยระดมทุนจากเกษตรกรเลี้ยงสุกรทั้งหมดที่มาร่วมลงชื่อคัดค้าน เพื่อว่าจ้างทนายความเพื่อต่อสู้อย่างถึงที่สุด โดยจะร่วมเป็นโจทก์ฟ้องรัฐบาล ที่ทำให้ประชนชนและเกษตรกรได้รับผลกระทบประมาณ 2 แสนครัวเรือน ”

น.สพ.วิวัฒน์ พงษ์วิวัฒนชัย อุปนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าวว่า หากมีการนำเข้าเนื้อสุกรจากสหรัฐมาจริง ผู้บริโภคต้องรับประทานเนื้อที่ใช้สารเร่งเนื้อแดง และชิ้นส่วนสุกร เช่น เครื่องใน ถือเป็นขยะที่ไม่ควรบริโภค ปัจจุบันประเทศไทยมีการใช้สารเร่งเนื้อแดงลดลงอย่างมาก เหลือเพียงเล็กน้อยที่ใช้และเป็นการลักลอบใช้ สมาคมฯได้ร่วมกับกรมปศุสัตว์อยู่แล้ว ที่จะเข้มงวดในการตรวจจับการใช้สารเร่งเนื้อแดง

นายสุชาติ สินรัตน์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นผู้รับหนังสือข้อเรียกร้อง และกล่าวว่า จะนำหนังสือของสมาคมฯเสนอไปยังอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป

นางสาวศิริรัตน์ ลิ้มพงษ์ นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ สำนักอเมริกา แปซิฟิก และองค์การระหว่างประเทศ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ทุกครั้งที่มีการเจรจากับต่างประเทศ กรมจะพิจารณาร่วมกับหลายหน่วยงาน ทั้งกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงสาธารณสุข