เพียงทำในสิ่งที่ชอบ สู่การสร้างชีวิตที่มีเป้าหมาย ตอน ไม้ประดับความฝัน

 

ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันว่าเทคโนโลยีสารสนเทศด้านสื่อออนไลน์เกี่ยวข้องกับวิถีการดำเนินชีวิตของคนยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการสนทนาทั้งที่เป็นทางการและไม่ทางการก็สามารถติดต่อกันโดยผ่านช่องทางสื่อเครือข่ายสังคมชนิดต่างๆ หรือแอปพลิเคชั่นที่ช่วยให้เกิดความสะดวกสบายในการติดต่อสื่อสารกันแม้ระยะทางไกล และการคุยแบบเห็นหน้า (Face time) หรือการประชุมที่ใช้ระบบ (VDO Conference) ที่ช่วยประหยัดค่าเดินทางมาประชุมในต่างประเทศหรือต่างพื้นที่ หรือการใช้วิดีโอถ่ายทอดสดที่สามารถทำได้อย่างง่ายเพียงแค่มีโทรศัพท์มือถือเท่านั้น 

การสื่อสารเหล่านี้ล้วนแล้วเป็นการใช้สื่อเครือข่ายผ่านทางอินเตอร์เน็ต ดังนั้น การเชื่อมต่อกันของโลกจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป การติดต่อซื้อขายจึงเกิดการแข่งขันทางตลาดออนไลน์ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว การขายสินค้าออนไลน์เป็นช่องทางการขายสินค้าที่ได้รับความนิยมเพราะสามารถขายสินค้าโดยไม่เสียพื้นที่ค่าเช่าร้านซึ่งมีพื้นที่จำกัดและค่าจ้างลูกจ้างมาเฝ้าหน้าร้าน

เนื่องจากค่าเช่าร้านเป็นปัจจัยต้นทุนสูงและเป็นต้นทุนคงที่ที่ต้องจ่ายทุกเดือน ซึ่งต่างจากการขายสินค้าทางออนไลน์นั้นไม่ต้องเสียค่าเช่าพื้นที่ขายเพราะสามารถขายสินค้าได้ฟรี พร้อมทั้งสามารถเพิ่มรูปภาพของสินค้า ระบุรายละเอียดของสินค้า ราคาสินค้า รวมถึงโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดความสนใจให้กับลูกค้าได้อย่างไม่จำกัดจำนวน ซึ่งนับว่าเป็นช่องทางที่เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่มีทุนทรัพย์น้อยหรือคิดที่จะเริ่มทำธุรกิจ

ปัจจุบันจะสังเกตว่าพบการเสนอขายสินค้าต่างๆ มากมายบนช่องทางนี้ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่มีขนาดเล็กจนสินค้าขนาดใหญ่ เช่น บ้าน คอนโดมิเนียม หรือที่ดิน ทุกอย่างสามารถนำมาขายบนช่องทางนี้ ซึ่งตัวดิฉันเอง (คุณกรกต มรรคสมุทร และ คุณวสันต์ แสงอินทร์) ได้เห็นมองโอกาสนี้ในการเป็นช่องทางการตลาดออนไลน์ในการขายไม้ประดับเพื่อสร้างรายได้และสร้างประสบการณ์จากการเป็นเจ้าของธุรกิจที่เป็นของตัวเอง

โดยเริ่มการต้นไม้ออนไลน์มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 จากการโพสต์ขายพืชกินแมลง เช่น หม้อข้าวหม้อแกงลิง, หยาดน้ำค้าง, พิงกุย, กาบหอยแครง, ซาราซีเนีย เป็นต้น ผ่านทางเว็บไซต์ขายพืชกินแมลงซึ่งมีพื้นที่สำหรับขายได้ฟรีและยังคงเปิดขายจนถึงปัจจุบัน

จุดเริ่มต้นของการสร้างธุรกิจขายไม้ประดับทางออนไลน์

ตอนคุณกำลังเริ่มจะสร้างสิ่งใหม่ในสิ่งชีวิตมักจะได้ยินเสียงดูแคลนต่างๆ ไหม ถ้าได้ยินเสียงเหล่านั้นแสดงว่าคุณมาถูกทางแล้ว ที่เหลือก็แค่ทำมันให้สำเร็จ

ช่วงแรกผู้ปลูก ปลูกพืชกินแมลงเท่านั้น เพราะความชอบส่วนตัวเนื่องจากรูปลักษณ์ที่แปลกตาของพืชกินแมลงและกลไกการกินของพืชชนิดนี้ที่มีความสามารถในการกินสัตว์ขนาดเล็กได้ เพราะมีกลไกเชิงกลในการจับและเคมีที่ปล่อยน้ำย่อยมาเพื่อย่อยสลายแมลง จากนั้นทำการดูดซึมเพื่อหล่อเลี้ยงต้น และที่สำคัญพืชกินแมลงให้เพียงน้ำเท่านั้น ดูแลง่ายไม่ต้องการปุ๋ยเพราะพืชชนิดนี้จะหาธาตุอาหารเองจากการดักจับแมลงที่บินมาเกาะบนน้ำเมือก

จากนั้นก็เริ่มสะสมไม้ประดับต่างๆ เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งกระบองเพชร และขยายพันธุ์พืชด้วยการผสมเกสรดอกด้วยตัวเอง การเพาะเมล็ด การปักชำใบ และปักชำหน่อ ไม้ประดับที่มาขยายพันธุ์ส่วนใหญ่เป็นไม้ใบเพราะดูทรงของใบที่สวยงามอยู่ตลอด ไม่ต้องรอดูความสวยงามเฉพาะตอนออกดอกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น อันนี้ผู้เขียนชอบเป็นการส่วนตัวค่ะ

 

ไม้ประดับส่วนใหญ่ที่ปลูก เช่น ต้นผักเป็ดแดง, ต้นผักเป็ดเขียว, ต้นผักเป็ดสามสี, ต้นสายรุ้ง, ต้นแดงชาลี, ต้นฤาษีผสม, ต้นริบบิ้นชาลี, ต้น Variegated Chinese violet, กล้วยไม้ (พันธุ์สิงโตนักกล้าม), สับปะรดสี, ต้นพวงหยก, ต้นเกล็ดนาคี, ต้น Watercress, ต้นเฟิร์นชนิดต่างๆ, ต้นบีโกเนีย, หมากผู้หมากเมีย, กระบองเพชร, มะพร้าวทะเลทราย เป็นต้น

จนในที่สุดก็ทำให้ภายในบ้านมีต้นไม้เพิ่มมากขึ้นและล้นโรงเรือน การให้น้ำจึงไม่ทั่วถึงต้นพืชทุกต้น เป็นเหตุให้เกิดความคิดที่จะลดปริมาณต้นไม้ให้น้อยลงเพื่อดูแลได้อย่างทั่วถึง โดยเริ่มจากการแจกญาติ แจกเพื่อน และนำมาสู่การขายไม้ประดับออนไลน์ในที่สุดจนสามารถสร้างรายได้จากอาชีพเสริมได้จนถึงปัจจุบัน

การวางแผนการผลิตไม้ประดับคุณภาพ

การจัดการของระบบการให้น้ำ การใส่ปุ๋ย และการเปลี่ยนย้ายกระถางนั้นมีความสำคัญอย่างมาก เพราะพืชแต่ละชนิดนั้นมีความต้องการน้ำและปุ๋ยที่แตกต่างกัน ผู้ปลูกเองก็ทราบจากประสบการณ์ในการปลูกจากการสังเกตพืชที่ปลูก จึงต้องทราบว่าพืชแต่ละชนิดต้องการอะไร ปริมาณเท่าไร

ตัวอย่างเช่น ไม้ประดับกลุ่มผักเป็ดและต้นแดงชาลี นั้นต้องการน้ำในปริมาณมากกว่าพืชชนิดอื่น ควรรดน้ำ 2 รอบ ต้นสายรุ้งและต้นกระบองเพชรนั้นเป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อย ควรรดน้ำ 3 วัน รด 1 ครั้ง หรือวันละ 1 ครั้ง หากมีแดดและลมแรง

หม้อข้าวหม้อแกงลิง

ส่วนพืชกลุ่มเฟิร์นก็เป็นพืชที่ไม่ต้องการปุ๋ยมากนัก หากใส่ปุ๋ยมากเกินไปจะทำให้ต้นโทรม ใบไหม้และตายได้ การเปลี่ยนย้ายกระถางก็จะช่วยทำให้ต้นพืชสามารถเจริญเติบโตได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากข้อจำกัดในการหาน้ำและอาหารของรากภายในกระถางที่มีอย่างจำกัดนั้นเอง

ทิศทางของแสงก็มีความสำคัญมาก ตำแหน่งการวางของพืชแต่ละชนิดที่ต้องการไม่เท่ากัน จึงมีการจัดโซนไม้ร่มรำไร เช่น พืชกลุ่มเฟิร์น, กล้วยไม้ (สิงโตนักกล้าม), เคราฤาษี, กลุ่มพืชกินแมลง, ต้นพวงหยก, ต้นเกล็ดนาคี และไม้แดด เช่น กลุ่มผักเป็ดชนิดต่างๆ สับปะรดสี, แดงชาลี, กล้วยไม้ (เพชรหึง) เป็นต้น เพื่อให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชแต่ละชนิด ทั้งนี้ ก็เกิดจากการประสบการณ์จากการสังเกตการณ์เปลี่ยนแปลงและทดลอง การลองผิดลองถูก จนในที่สุดก็ทราบถึงความต้องการของพืชแต่ละชนิดที่ปลูกได้

โดยภายในโรงเรือนจะมีการติดตั้งระบบการให้น้ำแบบสปริงเกลอร์ชนิดตั้งเวลา การให้น้ำช่วงเช้าเวลา 08.00 น. และช่วงเย็นเวลา 17.00 น. เพื่อลดปัญหาเรื่องเวลาการให้น้ำและควบคุมปริมาณการให้น้ำ เนื่องจากผู้ปลูกมีงานประจำจึงไม่มีเวลาในการให้น้ำมากนัก และระบบการให้น้ำแบบสปริงเกลอร์จะช่วยประหยัดน้ำได้ดี

ส่วนในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ผู้ปลูกเองทำการตัดแต่งไม้ประดับและการปักชำต้น ปักชำหน่อ เพื่อเพิ่มปริมาณจำนวนกระถาง พร้อมตรวจสภาพแมลงศัตรูพืช โรคพืช รวมทั้งสภาพต้นจากสภาพแวดล้อมต่างๆ

กาบหอยแครง

โดยแบ่งชุดการปักชำชุดที่ 1 เมื่อปักชำจะรอเกิดรากเป็นเวลา 7 วัน และรอสร้างฟอร์มต้นอีก 7 วัน รวมเป็น 14 วัน จึงจะพร้อมขาย แล้วจะทำการปักชำต่อในทุกๆ 7 วัน ซึ่งต้นมาจากต้นแม่พันธุ์ ทำให้มีต้นไม้พร้อมขายในทุกๆ สัปดาห์ และมีฟอร์มต้นที่สมบูรณ์แข็งแรง

โดยใส่ปุ๋ยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ใช้ปุ๋ยสูตรเสมอผสมกับปุ๋ย B1 ในอัตราส่วน 1 : 1 โดยคนส่วนผสมให้เข้ากันและรด พร้อมการให้น้ำด้วยบัวรดน้ำเพราะพืชจะสามารถดูดซึมได้ดีบริเวณผิวใบโดยเข้าทางปากใบของพืช

และหากมีเวลาว่างผู้ปลูกมักจะศึกษาข้อมูลไม้ประดับชนิดอื่นๆ หรือพืชที่สนใจ เพื่อตอบสนองความต่อต้องการของลูกค้าและการตลาด และหาแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าของไม้ประดับด้วยการปรับเปลี่ยนกระถางปลูกที่สวยงามและตกแต่งกระถางต้นไม้ด้วยกระดาษห่อ ริบบิ้นสีต่างๆ เชือกป่าน เป็นต้น เพื่อเพิ่มความน่าสนใจในสินค้าและเพิ่มกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายเพื่อนำมาไปเป็นของฝากหรือของที่ระลึกได้ และสามารถสั่งเพิ่มเพื่อเป็นของชำร่วยในงานต่างๆ ได้

 เคล็ดลับของการบรรจุภัณฑ์ไม้ประดับถึงมือลูกค้าและการจำหน่ายไม้ประดับออนไลน์ 

จากที่กล่าวมาแล้วผู้ปลูกเริ่มจากการขายพืชกินแมลงและไม้ประดับ สื่อเครือข่ายผ่านทางออนไลน์โดยใช้เพจกลางเป็นพื้นที่สำหรับซื้อขายออนไลน์แบบเฉพาะกลุ่ม เช่น เพจไม้กินแมลง (http://www.thaicps.com/thaicpscafe/read.) ในชื่อคุณ san ที่เป็นเว็บไซต์ที่มีการแลกเปลี่ยนซื้อขายเฉพาะพืชกินแมลงเท่านั้น และเปิดขายไม้ประดับผ่านช่องทาง facebook ในชื่อ (https://web.facebook.com/ไม้ประดับราคาไม่แพง) และทาง Instagram ในชื่อ (gamkorrakot)

เนื่องจากพื้นที่เหล่านี้สามารถขายสินค้าได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายและสามารถเข้ามาตรวจสอบการสั่งซื้อได้ง่าย เมื่อลูกค้าเกิดต้องการซื้อต้นไม้ก็สามารถติดต่อกับผู้ขายได้โดยตรงทางห้องข้อความ และสามารถสอบถามข้อมูลในการปลูกเลี้ยงพืชหรือรายละเอียดต่างๆ ซึ่งผู้ปลูกก็จะเข้ามาตอบข้อซักถามรายละเอียดต่างๆ และทำการจองในระบบให้ลูกค้า จากนั้นลูกค้าจะโอนเงินเข้าบัญชี จากนั้นผู้ปลูกก็ทำการจัดส่งสินค้าพร้อมตอบกลับข้อมูลการขนส่งและเลขที่ขนส่งสินค้าซึ่งจะบวกค่าขนส่งเพิ่มอีก 80 บาท ต่อ 1 ครั้งของการขนส่ง (ในกรณีที่สินค้ามีน้ำหนักไม่เกิน 1 กิโลกรัม) หากมีน้ำหนักมากกว่านี้จะคิดตามราคาขนส่งจริงจากทางไปรษณีย์

การเปิดขายออนไลน์ข้อดีคือสามารถเข้ากลุ่มผู้คนได้มากโดยไม่จำกัด ได้กลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย และได้รายได้อย่างต่อเนื่อง แต่ส่วนที่ยากที่สุดของการขายไม้ประดับนั้นไม่ใช่การนำเสนอขาย แต่เป็นการจัดขนส่งสินค้าทางไปรษณีย์ที่ต้องระมัดระวัง เพราะต้องคำนึงถึงต้นไม้ให้กระทบกระเทือนน้อยที่สุด เพื่อให้ลูกค้าได้สินค้าตรงตามความต้องการ สินค้าไม่เสียหายระหว่างการขนส่ง ทำให้เกิดการความประทับใจซื้อซ้ำและกลายเป็นลูกค้าประจำในที่สุด

ส่วนเทคนิคการห่อไม้ประดับและพืชกินแมลงนั้นก็มีความแตกต่างกัน เพราะด้วยรูปลักษณ์ทางกายภาพของใบและวัสดุที่ใช้ปลูก ในกรณีการห่อเพื่อขนส่งของพืชกินแมลง วัสดุปลูกควรชื้นแต่ไม่แฉะ เพื่อให้ต้นไม้ยังพอมีน้ำสำหรับดูดซึมได้และไม่แฉะจนซึมออกไปนอกกล่องขนส่ง

อันดับแรกงดการให้น้ำพืชกินแมลงเป็นเวลา 3 วัน เพื่อลดความชื้นของวัสดุปลูก แต่ยังคงมีความชื้นบริเวณรอบรากของพืชใส่ทั้งต้นพืชพร้อมวัสดุปลูก จากนั้นนำมาห่อด้วยกระดาษที่สามารถปกปิดส่วนของใบเลี้ยงได้ทั้งหมดและติดกระดาษที่ห่อแล้วติดด้วยสก็อตช์เทปเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกระดาษห่อ จากนั้นห่ออีกชั้นด้วยถุงพลาสติกใส มัดปากถุงให้พองเพื่อกันกระแทกขณะขนส่ง ซึ่งพืชสามารถอยู่ได้นานถึง 7 วัน

ส่วนการห่อเพื่อขนส่งไม้ประดับนั้นก็คล้ายกับพืชกินแมลง เริ่มจากงดการให้น้ำเป็นเวลา 1 วัน จากนั้นนำต้นพืชออกจากกระถางแล้วทำการร่วนดินออกให้เหลือแต่ส่วนของต้นเปล่าแต่ยังคงมีดินติดบริเวณโคนต้นให้พอประมาณ พอมีความชื้นให้รากได้สามารถดูดซับความชื้นได้ในช่วงการขนส่ง ซึ่งพืชสามารถอยู่ได้เป็นระยะเวลา 7 วัน เมื่ออยู่ในกล่องขนส่ง จากนั้นห่อด้วยกระดาษทั่วไป อาจใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อและห่อด้วยถุงพลาสติกพองลมมัดด้วยหนังยางเพื่อกันการกระแทกในระหว่างขนส่ง

ในส่วนพืชกระบองเพชรนั้น ล้างเพียงรากให้เหลือเพียงต้นเปลือยแล้วห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ จัดลงกล่องก็สามารถส่งทางไปรษณีย์ได้ เนื่องจากเป็นพืชที่ไม่ต้องการน้ำมาก เมื่อจัดการเรื่องการห่อสินค้าแล้ว ผู้ปลูกแนะนำให้ส่งแบบ EMS เพื่อลดการสูญเสียเนื่องจากการส่งทางไปรษณีย์นั้นเราไม่ทราบถึงสภาพแวดล้อมในการขนส่งในเรื่องของความร้อนรอบข้าง

เล็บครุฑด่าง

ส่วนวันที่ทำการจัดส่งต้นไม้ก็มีความสำคัญ ผู้ปลูกจะจัดส่งสินค้าก่อนวันพุธหรือไม่เกินช่วงเช้าของวันพุธ ผู้ปลูกเลือกใช้วิธีการส่งเช่นนี้มาจากประสบการณ์การส่งสินค้าด้วยตนเองหลายครั้งพบว่ารอบการจัดส่งสินค้าทางไปรษณีย์นั้นจะมีการกระจายพัสดุในทุกๆ วันพุธ ช่วงเวลาก่อนถึง 10.00 น. รถขนส่งพัสดุจะเข้ารับพัสดุเพื่อกระจายสู่ในต่างจังหวัดและเขตปริมณฑล

ดังนั้น ผู้ปลูกแนะนำควรทำการจัดส่งสินค้าก่อนวันพุธหรือวันพุธช่วงเช้า แต่หากมีการสั่งสินค้ากลางสัปดาห์ ก็สามารถแจ้งทางลูกค้าเพื่อขอส่งสินค้าเป็นวันจันทร์แทน จะเป็นอีกวิธีที่สามารถลดความเสี่ยงหรือความเสียหายในระหว่างการขนส่งได้ และสินค้าจะถึงมือลูกค้าในวันพฤหัสบดี ต้นไม้ที่จัดส่งจึงมีสภาพสมบรูณ์ ดังนั้น จากวางแผนการส่งสินค้าจึงเป็นอีกสิ่งสำคัญ

จากที่ได้เริ่มการขายไม้ประดับออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์พืชกินแมลง (www.thaicps.com), facebook (web.facebook.com/ไม้ประดับราคาไม่แพง), Instagram (gamkorrakot) ที่เป็นช่องทางการขายไม้ประดับและพืชกินแมลง และผู้ปลูกเองต้องการขายจึงใช้ช่วงหลังเลิกงานขายต้นไม้ตามงานต่างๆ ค่ะ เช่น งานเกษตรแฟร์ ผู้ขายจะนำไม้ขนาดกลางและขนาดเล็ก เช่น สับปะรดสี หม้อข้าวหม้อแกงลิง หมากผู้หมากเมีย เป็นต้นเนื่องจากงานเกษตรแฟร์ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มลูกค้าวัยทำงานที่มีความประสงค์มาเพื่อซื้อโดยตรง มักจะต้องการไม้เพื่อไปเป็นประดับ หรือมาซื้อเพื่อขายต่อ จะสามารถมีกำลังซื้อได้สูงกว่ากลุ่มวัยรุ่น

ส่วนถนนคนเดินลาดกระบังที่จัดในทุกวันพฤหัสบดี ส่วนใหญ่มักเป็นกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มนักศึกษา รองลงมาเป็นกลุ่มวัยทำงาน ผู้ขายจะนำไม้ขนาดเล็กและไม้ที่มีลักษณะแปลกตาเพื่อเพิ่มความน่าสนใจและราคาไม่แพงมาวางขาย เพราะกลุ่มวัยรุ่นหรือนักศึกษานั้นส่วนใหญ่พักอาศัยอยู่หอพักจึงมีพื้นที่ไม่มากในการปลูกไม้ขนาดกลาง แต่ไม้กระถางขนาดเล็กก็จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถวางไว้ในห้องได้ ทำให้เกิดความรู้สึกอบอุ่นและพืชยังสามารถดูดซับรังสีที่มีจากอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้อีกด้วย

ดังนั้น สถานที่ที่ขายสินค้าก็มีความสำคัญในการเลือกสินค้าให้เหมาะสมกับกลุ่มคนเพื่อตอบโจทย์ความต้องการได้ ซึ่งผู้ขายจะมีการเวียนไม้ประดับต่างๆ มาขายในแต่ละสัปดาห์ที่แตกต่างกันเพื่อทดสอบตลาดและเพิ่มความน่าสนใจ แต่ยังคงนำไม้ที่มีผลการขายดีมาขาย ซึ่งการขายโดยตรงกับลูกค้านั้นจะทำให้ผู้ขายสามารถตอบข้อซักถามลูกค้าได้โดยตรง และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อได้ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุดและเหมาะสม

และทดลองความต้องการตลาดโดยการสร้างผลงานตกแต่งกระถางหรืองานประดิษฐ์ตกแต่ง ให้เป็นที่แสดงผลงานและทดสอบความต้องการของตลาด พร้อมทั้งได้คำติชมจากลูกค้าโดยตรงเพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขต่อไป ทำให้สามารถสร้างรายได้จากอาชีพเสริมจากหลักร้อยจนเป็นหลักแสนได้ไม่ยาก ขอเพียงมองเป้าหมายให้ชัดเจนและลงมือทำอย่างต่อเนื่อง ถึงจะถึงเป้าหมายช้าแต่อย่างไรก็ถึงเป้าหมายได้แน่นอน

ข้อคิดสำหรับนักการตลาดและผลผลิตทางการเกษตร

การเริ่มต้นทำในสิ่งที่แตกต่างจากสิ่งเดิมที่ทำอยู่นั้นในช่วงแรกนั้นยากและเหนื่อยที่สุด แต่หากเราผ่านช่วงแรกเป็นช่วงที่ยากที่สุดมาได้แล้ว ในส่วนถัดมาก็สามารถผ่านได้เช่นกัน ประสบการณ์จะสอนให้เราแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ ขอเพียงมองทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้เป็นบวกเสมอ มองให้เป็นประสบการณ์หรืออีกหนึ่งความท้าทายที่ต้องผ่านไปให้ได้ และไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรให้ยิ้มไว้เสมอ

ในช่วงแรกของการเริ่มทำธุรกิจออนไลน์ ผู้เขียนพบเจอปัญหาต่างๆ หลายอย่าง จนบางครั้งทำให้ผู้เขียนคิดมองหาอาชีพอื่นที่จะไม่ต้องพบเจอกับปัญหาเหล่านี้ แต่หากมองดีๆ แล้ว ในทุกๆ อาชีพ ทุกๆ สายงาน หรือแม้แต่ในชีวิตประจำวันของเราเองนั้นยังพบเจอกับปัญหาที่เข้ามาในรูปแบบต่างๆ จึงเกิดความคิดที่ว่า ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ต้องเจอปัญหาด้วยกันทั้งนั้น และเส้นทางที่เราเลือกนั้นเป็นเส้นทางที่เราต้องการมาตลอด

การเป็นเจ้าของธุรกิจของตนเอง มีความรู้ความเข้าใจตรงงานเนื่องจากผู้เขียนจบคณะเกษตรศาสตร์ มีความชอบในต้นไม้ ดังนั้น ผู้เขียนจึงทำตามความฝันของต่อไป แม้จะเหนื่อยกว่าคนอื่น ทำมากกว่าคนอื่น แต่จงอย่าลืมว่ากำลังทำอะไรและทำเพื่ออะไร พยายามทบทวนความฝันบ่อยๆ จะทำให้มองเห็นเป้าหมายที่ชัดเจน

เมื่อเจอปัญหาต่างๆ ก็นำมาแก้ไข มาพัฒนา มาปรับปรุงในแบบของตนเอง จนทำเกิดประสบการณ์ใหม่ที่หาไม่ได้จากตำราเรียน แต่เกิดจากการลองผิดลองถูก ดังนั้น เมื่อพบว่าหากทำผิดหรือพลาดอะไรไปทุกครั้ง ให้มองว่าสิ่งเหล่านี้กำลังจะพัฒนาตัวเราให้พบสิ่งที่ถูกที่เหมาะสมในที่สุด

และควรมองหาประสบการณ์ใหม่ๆ เสมอเพื่อให้เกิดการพัฒนาตามทันตลาดตลอดเวลา เพื่อให้เกิดการพัฒนาตลอด และสินค้าที่มีต้องมีคุณภาพสม่ำเสมอ หากสินค้าไม่ตรงตามคุณภาพที่กำหนด ให้คัดแยกออกไม่ควรเสียดายแล้วขายให้ลูกค้า เพราะนั้นถือเป็นการเอาเปรียบลูกค้าเพราะลูกค้าคือผู้สนับสนุนให้เราได้มีอาชีพ เติมความฝันของเราให้เป็นจริง ดังนั้น ผู้ขายต้องมีจรรยาบรรณในการขายและยึดมั่นเสมอ หรือมองถึงใจเขาใจเราเป็นหลัก เพียงเท่านี้ก็สามารถมีธุรกิจที่เกิดจากความฝันและสร้างขึ้นจากความเพียรพยายามจนเกิดเป็นความจริงได้

สรุป

ไม้ประดับออนไลน์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่น่าสนใจทางด้านการทำธุรกิจเกษตรหรือเกษตรกรรุ่นใหม่ที่หันมาประกอบอาชีพเกษตรกันมากขึ้น ซึ่งพบว่าประเทศไทยมีการเติบโตทางธุรกิจออนไลน์ ซึ่งจากผลสำรวจล่าสุดของ ETDA ที่มูลค่า E-Commerce ปี 2557 มีมูลค่า 2,033,493.4 ล้านบาท

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของ E-Commerce เป็นผลมาจากการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต จำนวนการใช้สมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการใช้ระบบชำระเงินออนไลน์ที่แพร่หลายมากขึ้น แสดงให้เห็นว่าคนไทยมีความตื่นตัวในเรื่อง E-Commerce

ดังนั้น ธุรกิจออนไลน์ยังสามารถเติบโตขึ้นได้อีกมาก สินค้าทางการเกษตรจึงเป็นอีกสินค้าหนึ่งที่น่าจับตามองเพราะสามารถเติบโตได้มาบนช่องทางธุรกิจออนไลน์นี้ หากมีการจัดการวางแผนเรื่องการขนส่งและบรรจุผลิตภัณฑ์ที่ดี สามารถส่งลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยแล้ว ก็สามารถตอบโจทย์และตรงตามความต้องการตลาดได้

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถนำแนวทางที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เพื่อพิจารณาตามความเหมาะสมเพื่อประกอบธุรกิจออนไลน์หรือเป็นเจ้าของธุรกิจทางการเกษตรด้วยตนเองได้ ที่เกิดการพึ่งพาตัวเองได้ และยังเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการพัฒนาภาคการเกษตรไทย ให้สอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เป็นการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการเพื่อลดต้นทุนที่เกิดขึ้นจากการทำการเกษตรในปัจจุบันได้

หรือสามารถใช้เทคโนโลยีในการทำการเกษตรได้ เช่น การพยากรณ์อากาศออนไลน์ การใช้ Agri-Map หรือการตรวจสอบราคาผลผลิตออนไลน์ ซึ่งถือเป็น Smart farmer ที่สามารถนำต่อยอดไปถึงการใช้เทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาผลผลิตในท้องถิ่นใกล้ตัวนำมาปรับปรุงให้ทันสมัย ใส่ไอเดียแปลกใหม่ สร้างรายได้สู่ตนเองและเข้าสู่ชุมชนได้ เกิดเป็นชุมชนเข้มแข็ง

และสามารถลดการว่างงาน ลดการอพยพเข้าเมืองได้กลับสู่บ้านเกิด เพื่อมาพัฒนาชุมชนโดยใช้สื่อเครือข่ายรูปแบบออนไลน์ เป็นช่องทางการซื้อขาย การตลาด การติดตามข่าวสาร และแหล่งข้อมูลต่างๆ เพื่อมาต่อยอดผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่นให้เกิดประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์เพื่อการพัฒนาภาคการเกษตรไทยให้ก้าวไกล พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงในโลกปัจจุบันและในอนาคต

ทั้งนี้ ผู้เขียนหวังบทความเรื่อง เพียงทำในสิ่งที่ชอบ สู่การสร้างชีวิตที่มีเป้าหมาย ตอน ไม้ประดับความฝัน นั้นจะเกิดประโยชน์สำหรับผู้อ่านไม่มากก็น้อย และหากมีข้อผิดพลาดประการใดผู้เขียนขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ