“แปซิฟิค” โชว์นวัตกรรม ข้าวโพดพันธุ์ดี

“ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์” นับเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างอาชีพและรายได้ให้กับเกษตรกรจำนวนมาก ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์กว่า ร้อยละ 94 ถูกใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ทุกวันนี้ประเทศไทยมีความต้องการใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพิ่มขึ้นทุกปี แต่ผลิตได้น้อย ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องพึ่งพาการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เข้ามาใช้ในประเทศทุกปี 

ทุกวันนี้เกษตรกรไทยส่วนใหญ่นิยมปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สายพันธุ์ลูกผสม เพราะให้ผลผลิตและคุณภาพสูงกว่าพันธุ์ผสมเปิด ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์พันธุ์ลูกผสม จึงเป็นหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยเพิ่มผลผลิตคุณภาพดีที่มีลักษณะทางการเกษตรสม่ำเสมอ ทั้งขนาดฝัก ความสูงฝัก ความสูงต้น อายุถึงวันออกไหม และเก็บเกี่ยว

เมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์พันธุ์ลูกผสม มีอายุเก็บเกี่ยว 100-120 วัน โดยทั่วไปเกษตรกรนิยมปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปีละ 2 ครั้ง ข้าวโพดรุ่นแรก เริ่มปลูกในช่วงฤดูฝน (เมษายน-มิถุนายน) เก็บเกี่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาว (สิงหาคม-พฤศจิกายน) ข้าวโพดรุ่นนี้มักเจอฝน ทำให้ข้าวโพดมีความชื้นสูง เสี่ยงต่อการเกิดเชื้อราและสารอะฟลาท็อกซิน ส่วนข้าวโพด รุ่น 2 นิยมปลูกช่วงฤดูแล้ง (ธันวาคม) เก็บเกี่ยวช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ของปีถัดไป

บริษัท แปซิฟิคเมล็ดพันธุ์ จำกัด ได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมากกว่า 43 ปี มีการวิจัยและปรับปรุงพันธุ์ให้เหมาะสมกับการปลูกในประเทศไทย โดยมีเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่จำหน่ายเชิงการค้าและได้รับความนิยมหลากหลายพันธุ์ในปัจจุบัน เช่น แปซิฟิค 339 แปซิฟิค 999 ซุปเปอร์ แปซิฟิค 777 แปซิฟิค 139 ฯลฯ นอกจากนี้ บริษัทยังส่งออกเมล็ดพันธุ์ไปจำหน่าย 18 ประเทศทั่วโลก เช่น อินเดีย บังกลาเทศ ปากีสถาน ศรีลังกา เวียดนาม ลาว พม่า อินโดนีเซีย กัมพูชา เปรู ปารากวัย เอกวาดอร์ โบลิเวีย เป็นต้น

เมื่อเร็วๆ นี้ ทาง บริษัท แปซิฟิคฯ ได้จัดงานมอบรางวัล “ยิ่งขาย ยิ่งรวย ด้วยแปซิฟิค” และงานสาธิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ณ สถานีวิจัยและพัฒนา บริษัท แปซิฟิคเมล็ดพันธุ์ จำกัด อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี เพื่อให้ผู้แทนจำหน่ายและพี่น้องเกษตรกรได้ทราบความก้าวหน้าในการพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ และมีความมั่นใจในคุณภาพเมล็ดพันธุ์ของบริษัท

สินค้าใหม่ที่ได้รับความสนใจจากผู้แทนจำหน่ายและเกษตรกรจำนวนมากในงานดังกล่าว ได้แก่ “เมล็ดพันธุ์ข้าวโพดแปซิฟิคพันธุ์ 779” จุดเด่นคือ ให้ผลผลิตสูง ระบบรากและลำต้นแข็งแรง ไม่หักล้มง่าย เปลือกหุ้มสุดถึงปลายฝัก เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่สูงและมีฝนชุก ทนทานต่อการหักล้มและทนทานต่อปัญหาฝักเป็นเชื้อราได้ดีพอสมควร

และ “เมล็ดพันธุ์ข้าวโพด พันธุ์แปซิฟิค 789” จุดเด่นคือ ฝักใหญ่ทรงกระบอก ลำต้นแข็งแรง ให้ผลผลิตสูงมาก เหมาะปลูกในพื้นที่ราบลุ่มทั่วไป รวมทั้งปลูกหลังฤดูทำนา ตอบสนองกับสภาพภูมิอากาศในแต่ละพื้นที่ เพิ่มศักยภาพการผลิตและช่วยให้เกษตรกรมีรายได้ที่ดีขึ้นในอนาคต

คุณพาโชค พงษ์พานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท แปซิฟิคเมล็ดพันธุ์ จำกัด กล่าวว่า การทำไร่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้ประสบความสำเร็จทั้งแง่คุณภาพและผลผลิต ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย คือการเลือกใช้เมล็ดพันธุ์คุณภาพดี 50% ที่เหลืออีก 50% อยู่ที่ระบบการจัดแปลงปลูก เช่น จำนวนแปลงปลูกต่อไร่ การควบคุมวัชพืช ปริมาณน้ำฝน การระบาดของโรคและแมลง เป็นต้น

แปลงปลูกข้าวโพดสาธิตของบริษัทที่มีการดูแลจัดการอย่างเป็นระบบ จะได้ปริมาณข้าวโพดเลี้ยงสัตว์คุณภาพดี สูงสุดถึง 2 ตัน ต่อไร่ เมื่อเกษตรกรนำไปปลูกในแหล่งผลิตทั่วไป หากมีการดูแลจัดการอย่างเหมาะสม จะได้ผลผลิตไม่ต่ำกว่า 670 กิโลกรัม ต่อไร่ อย่างแน่นอน