“ผึ้งโพรง” พัทลุงวูบ 30% สภาพภูมิอากาศ-แมลงศัตรู

พัทลุง ถือเป็นหนึ่งในจังหวัดภาคใต้ที่ชาวบ้านนิยมเลี้ยง “ผึ้งโพรงไทย” ตามธรรมชาติ เพื่อเก็บน้ำผึ้งมาขายเป็นรายได้เสริม ดังที่ นายวีระพล ห้วนแจ่ม ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรงและชันโรง ต.ปันแต อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เปิดเผยว่า ขณะนี้พื้นที่ภาคใต้มีคนหันมาเลี้ยงผึ้งโพรงไทยกันจำนวนมาก เนื่องจากตลาดมีความต้องการปริมาณมาก แต่ยังผลิตได้ไม่เพียงพอ โดยตัวเลขรวมเลี้ยงกันอยู่ประมาณ 20,000 รัง เฉพาะ จ.พัทลุง ประมาณ 7,000 รัง เฉลี่ยให้ผลผลิต 2 กก./รัง เป็นขั้นต่ำ คิดเป็นมูลค่าที่ขายได้ประมาณ 10 ล้านบาท/ปี จากราคาขายปลีก ขวดละ 500 บาท แนวโน้มปี 2562 คาดว่าจะมีปริมาณน้ำผึ้งได้มากกว่าปีที่แล้ว

“ตอนนี้กำลังเริ่มต้นฤดูกาลผึ้งอพยพเข้ารังตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงเมษายน ส่วนปริมาณน้ำผึ้งจะได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับภูมิอากาศ โดยปี 2561 ได้ปริมาณลดลง จำนวน 700 ขวด เทียบจาก ปี 2560 ได้ประมาณ 1,000 ขวด เป็นเงินมูลค่า 500,000 บาท ปี 2562 คาดว่าจะมีปริมาณมากกว่าปีที่แล้ว โดยปัจจัยสำคัญการเลี้ยงผึ้งโพรงไทยในพื้นที่ภาคใต้ คือ สภาพภูมิอากาศ เนื่องจากเป็นการเลี้ยงตามธรรมชาติ ไม่ได้โยกย้ายพื้นที่ เมื่อฝนไม่ตกตามฤดูกาล จะส่งผลกระทบต่อต้นไม้ พืชผลไม้ ไม้ป่า ที่เป็นอาหารหลักของผึ้ง ไม่เหมือนทางภาคเหนือ เรื่องแหล่งอาหารสามารถวางแผนรองรับได้”

แหล่งข่าวจากวงการผู้เลี้ยงผึ้งโพรงไทย จ.พัทลุง เปิดเผยว่า ปีนี้น้ำผึ้งโพรงไทยมีปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค เนื่องจากมีการไปเก็บน้ำผึ้งก่อนเวลา ทำให้ผึ้งตัวอ่อนเสียชีวิต จึงขยายพันธุ์ไม่เพียงพอ

ขณะเดียวกันกำลังพบศัตรูของผึ้งที่สำคัญ คือ ไหม ตัวต่อหัวเสือ และมดแดง มาดักจับผึ้งเป็นอาหาร โดยเฉพาะไหมจะมาสานใยรอบๆ บริเวณรังผึ้ง เพื่อดักจับผึ้งเป็นอาหาร ส่งผลให้มีผึ้งตายเป็นฝูง สร้างความวิตกให้กลุ่มผู้เลี้ยงผึ้งโพรงว่า ใยไหมจะไปถูกนางพญา ทำให้เสียหายทั้งรัง และยังมีตัวต่อหัวเสือ ที่เฝ้าอยู่หน้ารังโฉบไล่จับผึ้งเป็นอาหารจนหมดรัง รวมถึงมดแดงก็เช่นกัน จะต้องให้เฝ้าระวังดูแลให้มาก

“ปีนี้คาดว่าจะมีผึ้งจำนวนมากอพยพจากเทือกเขาบรรทัดมาที่ จ.ตรัง สตูล สงขลา ขณะนี้เกสรทุเรียน และละมุด จะมีปริมาณมาก เป็นการส่งสัญญาณว่า จะมีผึ้งโพรงไทยปริมาณมากขึ้น”