ผู้เขียน | ทะนุพงศ์ กุสุมา ณ อยุธยา |
---|---|
เผยแพร่ |
เป็นที่ยอมรับกันว่าหากสนใจมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองอร่อย หวาน หอม ในแบบเกรดพรีเมี่ยม คงไม่ต้องไปหาที่ไหนแล้ว ปักหมุดไปที่ “เนินมะปราง” พิษณุโลก เพราะเป็นแหล่งผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองพรีเมี่ยมที่ดีที่สุดของไทย เพราะชาวบ้านใส่ใจกับการผลิตจึงเป็นมะม่วงที่มีคุณภาพและความปลอดภัย ได้รับการรับรองมาตรฐานการปลูก GAP หรืออาจถึงขั้นส่งขายต่างประเทศ สร้างเม็ดเงินมากมาย
อย่าง “สวนรวงทอง” ที่มี คุณชลธิชา ช่างประดิษฐ์ เป็นเจ้าของสวน ตั้งอยู่เลขที่ 83 หมู่ที่ 13 บ้านวังน้ำบ่อ ตำบลไทรย้อย อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก เป็นสวนมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองที่ได้รับการันตีรางวัลชนะเลิศให้เป็นแปลง GAP ดีเด่น และอีกหลายรางวัลมากมาย ทั้งยังผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองคุณภาพมาตรฐานส่งออก เกรดพรีเมี่ยม
“การปลูกมะม่วงที่ขายทั่วไปมีความเสี่ยงด้านราคาผันผวน ถึงขั้นเสี่ยงขาดทุนหากราคาขายต่ำกว่าทุน ขณะเดียวกัน ถ้าทำมะม่วงคุณภาพเกรดพรีเมี่ยม ไม่ว่าจะขายในหรือต่างประเทศก็มีราคาสูง เพราะตลาดลูกค้ากลุ่มนี้มีความต้องการแล้วมีกำลังซื้อมาก ทำให้ราคาขายสูง” เจ้าของสวนกล่าว
ภายหลังประสบความสำเร็จสามารถส่งผลผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้จากสวนตัวเองไปขายยังประเทศญี่ปุ่น คุณชลธิชาชาวเนินมะปรางผู้ที่ไม่ได้เติบโตมาจากเส้นทางเกษตร แต่มีวิสัยทัศน์ยาวไกลที่ต้องการยกระดับศักยภาพของชาวบ้านของบ้านวังน้ำบ่อที่ยึดอาชีพปลูกมะม่วงอยู่แล้วให้มีมากกว่าเดิม
จึงชักชวนชาวบ้านมาพัฒนาแปลงปลูกให้มีมาตรฐาน GAP พร้อมตั้งเป็น “กลุ่มมะม่วงคุณภาพบ้านวังน้ำบ่อ” หวังสร้างมูลค่ามะม่วงให้เป็นเกรดพรีเมี่ยม มีตลาดรองรับทั้งในและต่างประเทศ แล้วขายได้ในราคาสูง
นับเป็นความสำเร็จโดยเป็นสวนมะม่วงน้ำดอกไม้แห่งแรกในพื้นที่ที่สามารถผลิตมะม่วงคุณภาพได้มาตรฐานเกรดพรีเมี่ยมส่งขายต่างประเทศ จากนั้นชาวบ้านในพื้นที่มีความสนใจและตื่นตัวหันมาปรับปรุงสวนมะม่วงให้มีคุณภาพเพื่อส่งออกกันหลายราย จึงเป็นจุดเริ่มต้นของที่มาของ “กลุ่มมะม่วงคุณภาพวังน้ำบ่อ”
สมาชิก “กลุ่มมะม่วงคุณภาพวังน้ำบ่อ” มีทั้งหมด 40 คน มีพื้นที่ปลูกกว่า 600 ไร่ ปลูกมะม่วงทั้งแบบผลสุกและดิบ ไม่ว่าจะเป็นน้ำดอกไม้สีทอง ฟ้าลั่น รองลงมา โชคอนันต์ เขียวเสวย รวมถึงมะม่วงสี อย่าง R2E2 ปลูกมะม่วงโดยปลูกน้ำดอกไม้สีทองประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ของชนิดมะม่วงทั้งหมด ส่วนเรื่องความรู้ ทักษะ ทางกลุ่มได้รับความกรุณาจากหน่วยงานภาคราชการเข้ามาฝึกฝน อบรม แนะนำกระบวนการปลูกมะม่วงส่งออกตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ
“พวกเราเริ่มทำ GAP กันเมื่อปี 2561 ในตอนนั้นมะม่วงเกรดคุณภาพขายได้ถึงกิโลกรัมละ 70 บาท จากราคามะม่วงที่ขายทั่วไปกิโลกรัมละเพียง 25 บาท ทำให้ชาวบ้านมีกำลังใจมากขึ้น จนถึงวันนี้สมาชิกกลุ่มมีทักษะ ความชำนาญกันเป็นอย่างดี
จนกระทั่งมาเจอเรื่องโควิด-19 กระทบกับการขาย ขณะที่ผลผลิตทยอยออกมาจำนวนมาก จากพื้นที่ปลูกทั้งหมดกว่า 600 ไร่ มีผลผลิตรวมเฉลี่ยกว่า 500 ตัน จำเป็นต้องหาตลาดอย่างเร่งด่วน เพราะในช่วงนั้นราคามะม่วงลดลงเหลือกิโลกรัมละ 5-16 บาท แต่ยังมีความโชคดีที่ส่งขายญี่ปุ่นและยุโรปได้บ้าง ขณะเดียวกัน ได้รับความกรุณาจากเดอะมอลล์กรุ๊ป ให้นำมะม่วงเกรดพรีเมี่ยมเข้าไปขาย
“เมื่อมี 3 ช่องทางนี้ก็เลยบอกกับสมาชิกกลุ่มให้พยายามปรับปรุงและรักษาคุณภาพมาตรฐานไว้อย่างเต็มที่เพื่อระบายสินค้าออกไปตามช่องทางขายดังกล่าว”
แม้จะมีช่องทางดังกล่าวมาช่วย แต่ผลผลิตยังมีอีกจำนวนไม่น้อย จึงเปิดขายทางออนไลน์อีกช่องทาง เป็นสินค้าเกรดพรีเมี่ยมที่บรรจุใส่กล่องที่สวยงาม แข็งแรง ปรากฏว่าช่องทางนี้จะขายดีมาก ลูกค้าสั่งซื้อซ้ำแล้วซ้ำอีก เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ทำงานอยู่ที่บ้านแล้วติดใจคุณภาพมะม่วง ทำให้ประสบความสำเร็จขายได้กว่า 2,000 กล่อง หรือกว่า 10 ตันในช่วงเวลาเพียงเดือนเศษ
“มะม่วงทุกผลใช้ความประณีตคัดสรร แต่ละผลมีความสมบูรณ์ มีความสุกพอดี ทุกผลจะผ่านการคัดและตรวจสอบคุณภาพหรือคิวซีก่อนจะที่บรรจุใส่กล่อง ขนาดกล่องละ 5 กิโลกรัม มีจำนวนมะม่วง 9-15 ผลต่อกล่อง พวกเราหวังให้เป็นมะม่วงเกรดพรีเมี่ยมอย่างชัดเจน ตามคำขวัญของกลุ่มที่ว่า “มะม่วงดีดีมีทั่วไป ถ้าหวานจับใจต้องวังน้ำบ่อ” ลูกค้าจึงสั่งซื้อกันคับคั่ง”
คุณชลธิชาในฐานะประธานกลุ่มมะม่วงคุณภาพบ้านวังน้ำบ่อเผยว่า ถึงแม้ทางกลุ่มสามารถผลิตมะม่วงตามเกณฑ์จนได้รับรองมาตรฐานการปลูกแบบ GAP แล้วก็ตาม แต่การส่งขายตลาดต่างประเทศควรได้รับมาตรฐานโรงบรรจุภัณฑ์ GMP ด้วย เพื่อเป็นที่เชื่อถือยอมรับจากผู้บริโภคในระดับสากล ทั้งนี้ ตลาดต่างประเทศที่เป็นเป้าหมายส่งขาย ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลี จีน ฮ่องกง ดูไบ และประเทศในแถบยุโรป รวมถึงห้างสรรพสินค้าในประเทศอีกหลายแห่ง
ขณะเดียวกัน สมาชิกกลุ่มยังได้มีโอกาสขายมะม่วงในราคาที่ดีขึ้น มีความมั่นคงในอาชีพ มีโอกาสขายผลผลิตโดยตรงกับผู้ส่งออกและห้างสรรพสินค้า โดยไม่ผ่านผู้ค้าคนกลาง จะทำให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้นจากการขายผลผลิตกว่า 70% อีกทั้งยังมีประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อเครือข่ายกลุ่มเกษตรกร สามารถเป็นต้นแบบให้กับเกษตรกรชาวสวนมะม่วงของจังหวัดพิษณุโลกอีก 89,000 ไร่ ปริมาณผลผลิตมะม่วงประมาณ 85,000 ตันต่อไป
“แต่ที่สำคัญต้องการจัดตั้งโรงบรรจุภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน GMP ขึ้นก่อน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับสินค้าหรือผลผลิตคุณภาพจากสวนผ่านการคัดบรรจุในโรงที่ได้มาตรฐาน GMP อย่างแท้จริง ซึ่งจะมีส่วนช่วยทำให้ชุมชนสามารถทำงานได้ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำอย่างสมบูรณ์แบบ ช่วยสร้างมูลค่าสินค้าให้มีมากขึ้น ชาวบ้านจะมีรายได้เพิ่มขึ้น
ขณะนี้โรงคัดบรรจุภัณฑ์ได้ก่อสร้างเสร็จแล้ว เหลือเพียงขั้นตอนการขออนุญาต และหากทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย กลุ่มมะม่วงคุณภาพวังน้ำบ่อก็จะสามารถขับเคลื่อนกิจกรรมอื่นที่วางแผนไว้ได้อย่างครบวงจร เนื่องจากขณะนี้มีลูกค้าจำนวนมากเตรียมสั่งจองสินค้าหลังจากทางภาครัฐมีนโยบายเปิดประเทศ”
กลุ่มมะม่วงคุณภาพบ้านวังน้ำบ่อ ยังเป็นแหล่งเรียนรู้กระบวนการปลูกมะม่วงตั้งแต่เริ่มปลูกไปจนเก็บผลผลิต ทั้งนี้ ทางกลุ่มได้รับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อเข้าโครงการแปลงใหญ่จำนวน 3 ล้านบาท ช่วยให้สามารถพัฒนาและปรับปรุงวิธีการปลูกมะม่วง มีการจัดหาเครื่องมือ อุปกรณ์ที่ทันสมัย เพื่อทำให้กระบวนการผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองเป็นไปอย่างมีคุณภาพ สมบูรณ์ ส่งถึงมือผู้บริโภคอย่างรวดเร็วและปลอดภัย
นอกจากนั้น ยังมีแผนพัฒนาสินค้าไปสู่การแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่า ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่จะช่วยให้มีการจ้างงานเกิดขึ้น จะช่วยทำให้ชาวบ้านมีรายได้ ทำงานอยู่กับครอบครัวโดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปหางานทำในต่างถิ่น แล้วขณะนี้ได้จัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์เตรียมไว้แล้ว อย่างเครื่องอบมะม่วง เครื่องผลิตน้ำมะม่วงพาสเจอไรซ์ เครื่องกวนมะม่วงขนาดใหญ่ เป็นต้น
ในรอบปีผลผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองเกรดพรีเมี่ยมเริ่มวางตลาดราวเดือนกุมภาพันธ์ แล้วจะมีปริมาณผลผลิตมากสุดในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน จนกระทั่งลดลงแล้วหมดในช่วงเดือนพฤษภาคม ทั้งนี้ ผลผลิตที่ออกขายในช่วงฤดูกาลของทุกสวนจะพร้อมกัน เพราะเมื่อผลผลิตออกพร้อมกันจึงมักสร้างปัญหาเรื่องราคาขาย
แนวทางที่คุณชลธิชาวางแผนไว้คือการปลูกมะม่วงนอกฤดูเพื่อให้มีผลผลิตในช่วงเดือนสิงหาคม จะช่วยทำให้ราคาขายสูงเพราะในช่วงนั้นไม่มีผลผลิตมะม่วง ทั้งนี้ เพื่อแก้ปัญหาผลผลิตล้นตลาด ที่ส่งผลต่อราคาลดลง แล้วถือเป็นการช่วยกระจายผลผลิตสู่ตลาดไม่ให้กระจุกอยู่ในเฉพาะในช่วงฤดูเท่านั้น
“การผลิตมะม่วงคุณภาพให้มีรสอร่อย ผิวสวย ผลมีขนาดพอเหมาะ หรือที่เรียกว่าเกรดพรีเมี่ยมเป็นเรื่องไม่ง่าย เพราะต้องดูแลเอาใจใส่ทุกอย่างด้วยความใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโรค แมลงศัตรู สภาพอากาศ วิธีปลูก เก็บผลผลิต กว่าจะมาเป็นมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองที่มีรสหวาน สีสวย ผิวเนียน ผู้ทำงานทุกคนจะต้องผ่านการฝึกฝนจนมีทักษะ ความชำนาญ ขั้นตอนกระบวนการทุกอย่างต้องละเอียดประณีต เป็นการผลิตมะม่วงที่ต้องมีความอดทน เพื่อจะได้มะม่วงคุณภาพเกรดพรีเมี่ยมอย่างแท้จริง” ประธานกลุ่มมะม่วงคุณภาพบ้านวังน้ำบ่อกล่าว
ท่านที่สนใจต้องการมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองเกรดพรีเมี่ยม สั่งจองล่วงหน้าได้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565 หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่โทรศัพท์ 081-627-1745, Facebook: https://www.facebook.com/RoungthongFarm/Website: https://sites.google.com/site/roungthongfarm