ราช กรุ๊ป – มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ลงนามความร่วมมือ “โครงการจัดการคาร์บอนเครดิตในป่าเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” ในพื้นที่ป่าชุมชน 10,000 ไร่ มุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน

บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือโครงการจัดการคาร์บอนเครดิตในป่าเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยจะร่วมกันอนุรักษ์ ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ ตลอดจนการจัดการคาร์บอนเครดิตในพื้นที่ป่า ผ่านกลไกการมีส่วนร่วมและการพัฒนาศักยภาพของคนในชุมชน ควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมการนี้ บริษัทฯ และ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยนางสาวชูศรี เกียรติขจรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (ที่ 2 จากขวา) และหม่อมหลวงดิศปนัดดา ดิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ที่ 2 จากซ้าย) ได้ลงนามในสัญญาความร่วมมือ

โครงการจัดการคาร์บอนเครดิตในป่าเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน พื้นที่ป่ชุมชน 10,000 ไร่ และนายนวพล ดิษเสถียร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารองค์กร บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (ขวาสุด) และนายนพงศ์ ดวงมณี ผู้อำนวยการด้านนโยบายสิ่งแวดล้อม มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัม (ซ้ายสุด) ร่วมลงนามเป็นพยาน

ภายใต้โครงการจัดการคาร์บอนเครดิตในป่าเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน บริษัทฯ และมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ร่วมกันดำเนินการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่ชุมชนในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 10,000 ไร่ด้วยการพัฒนาศักยภาพชุมชน ในการรักษา ฟื้นฟูระบบนิเวศและทรัพยากรธรรมชาติป่ชุมช และสนับสนุนชุมชนในการขึ้นทะเบียนโครงการลดก๊ซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program: T-VER ขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (“*อบก.”) เพื่อขอรับรองคาร์บอนเครดิต ซึ่งไม่เพียงช่วยสร้างรายได้แก่ชุมชนเท่านั้น แต่ยังช่วยพัฒนากลไกการมีส่วนร่วมของชุมชนในการดูแลป่าให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน

Advertisement

นางสาวชูศรี เกียรติขจรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือกับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ในโครงการจัดการคาร์บอนเครดิตในป่าเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นส่วนหนึ่งของแผนงานจัดการคาร์บอนเครดิตจากป่าไม้ เพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นแนวทางที่ 3 ของกลยุทธ์รับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของบริษัทฯ ในเบื้องต้น บริษัทฯ มีแผนงานที่จะจัดการคาร์บอนเครติตจากป่าไม้ประมาณ 50,000 ไร่ ภายในปี 2568 สำหรับความร่วมมือกันครั้งนี้ ได้ดำเนินการต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ซึ่งบริษัทฯได้สนับสนุนการจัดการคาร์บอนเครดิตในพื้นที่ป่ชุมชน จำนวน 1,000 ไร่ โครงการนี้นอกจากประโยชน์จากคาร์บอนเครดิตแล้ว ยังช่วยต่อยอดภูมิปัญญาของชุมชนในการจัดการป่าอย่างยั่งยืนตอบสนองเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ 13 ในการสร้างภูมิคุ้มกันให้ชุมชนรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเป้าหมายที่ 15 การปกป้อง ฟื้นฟู และสนับสนุนการใช้ระบบนิเวศบนบกอย่างยั่งยืน จัดการป่าไม้ที่ยั่งยืน ด้วย