เรียนรู้โมเดลธุรกิจ ‘AMCOVET’ ก้าวสู่ผู้นำ ‘ธุรกิจสุกรครบวงจร’ ด้วยแนวคิด ‘Integrated Solutions’ สร้างความสำเร็จพร้อมความยั่งยืน

‘แอมโก้เวท’ (AMCOVET) ผู้นำด้านการทำฟาร์มสุกรครบวงจรและผู้นำเข้าเวชภัณฑ์สำหรับสัตว์ ที่ประสบความสำเร็จบนเส้นทางธุรกิจยาวนานกว่า 40 ปี จากการยึดมั่นในโมเดลธุรกิจที่มุ่งตอบโจทย์ทุกความต้องการของตลาดด้วยความเข้าใจจริง เพื่อส่งผ่านสิ่งที่ดีที่สุดไปยังลูกค้า จนสามารถครองใจผู้บริโภค และนำพาธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

โครงสร้างธุรกิจ “แอมโก้กรุ๊ป” (AMCOGROUP) แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักคือ ธุรกิจเวชภัณฑ์สัตว์และอาหารสัตว์ในปศุสัตว์ (แอมโก้เวท – AMCOVET),  ธุรกิจการพัฒนาสายพันธุ์สุกรและธุรกิจฟาร์มสุกร
(แอมโก้ฟาร์ม – AMCOFARM) และธุรกิจเวชภัณฑ์สัตว์สำหรับสัตว์เลี้ยง (แอมโก้เพท – AMCOPET)จุดเริ่มต้น ต้องย้อนกลับไปกว่า 40 ปีซึ่งเป็นก้าวแรกของการบุกเบิกธุรกิจเวชภัณฑ์ในปศุสัตว์และการพัฒนาสุกร สายพันธุ์สุกรพันธุ์เดนมาร์ก เริ่มต้นจาก บริษัท แอมโก้เวท จำกัด ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2525 จากการเป็นผู้คัดคัดสรร นำเข้าและจัดจำหน่าย เวชภัณฑ์ อาหารเสริม และวัตถุดิบอาหารสัตว์จากบริษัทชั้นนำทั่วโลก ต่อมาในปี 2526  ได้ขยายธุรกิจสู่การนำเข้าและจัดจำหน่ายสุกรจากแดนบรีด (DANBRED) จากประเทศเดนมาร์ก ผ่านบริษัทย่อยในเครือ (ABCO) จากนั้น ปี 2534 ‘แอมโก้กรุ๊ป’  ต่อยอดธุรกิจด้วยการก่อตั้ง ฟาร์มไทยแดนนิชอินเตอร์เนชั่นแนล (THAI-DANISH INTERNATIONAL FARM) เพื่อเป็นต้นแบบการทำธุรกิจฟาร์มสุกรสมัยใหม่ ที่เน้นกระบวนการจัดการที่มีประสิทธิภาพคู่กับสายพันธุ์สุกรที่ดี เพื่อยกระดับกระบวนการผลิตสุกรขุนในเวลานั้น

ต่อมาจัดตั้ง บริษัท สยามอะโกรเวท จำกัด (SIAM  AGROVET FARM) ธุรกิจร่วมทุนกับผู้พัฒนาสายพันธุ์สุกรระดับแชมป์จากประเทศเดนมาร์ก เพื่อสร้างฟาร์มผลิตสุกรพันธุ์แท้
(DANBRED – YORKSHIRE, LANDRACE, DUROC) และสุกรพันธุ์สองสาย (DANBRED – LY (LANDRACE-YORKSHIRE)) ในประเทศไทย เพื่อผลิตสุกรพันธุ์คุณภาพสูงเทียบเท่ากับถิ่นกำเนิดในเดนมาร์ก ในราคาที่เข้าถึงได้ให้กับเกษตรกรในประเทศไทย และได้รับความเชื่อมั่นในระดับภูมิภาค โดยได้ส่งออกสุกรพันธุ์ที่ผลิตจากฟาร์มสยามอะโกรเวท ไปสู่เกษตรกรในประเทศในกลุ่ม ASEAN

คุณ ศุภณัฐ เจี๊ยบนา ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ ‘แอมโก้กรุ๊ป’ เติบโตเข้าสู่ปีที่ 40 โดยธุรกิจเติบโตอย่างมั่งคง เป็นที่ยอมรับในวงการปศุสัตว์ไทยและอาเซียน เนื่องจากเราเป็นผู้บุกเบิกที่เข้าใจในธุรกิจสุกร จริงใจ…สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร  “ในช่วงแรก ไม่มีใครเชื่อว่าการเลี้ยงสุกรเดนมาร์กในประเทศไทยจะเป็นไปได้ เนื่องจากสภาพแวดล้อม และวัตถุดิบอาหาร ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ทีมวิชาการและทีมแอมโก้ฟาร์มของเรา ได้พยามยามทำเข้าใจและพัฒนาสุกรสายพันธุ์ รวมถึงค้นคว้าหาวิธีการเลี้ยงที่เหมาะสม จนประสบความสำเร็จ ทำให้สามารถเลี้ยงสุกรจากเดนมาร์กในภูมิอากาศแบบร้อนชื้นได้

จากความมุ่งมั่น พยายามทดลองวิธีการใหม่ ๆ ร่วมกับการใช้หลักการบริหารจัดการฟาร์มที่ดีแบบครบวงจร ทําให้สุกรพันธุ์ทุกตัว สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมและดึงศักยภาพทางพันธุกรรมได้สูงสุด ปลายทางได้เนื้อหมูคุณภาพสูง อร่อย เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคและช่วยลดต้นทุนการเลี้ยง เป็นผลดีต่อเกษตรกรผู้ผลิต ความสำเร็จที่เกิดขึ้น ไม่ได้หยุดอยู่แค่เพียงในแง่มุมของผู้ผลิต แต่‘แอมโก้เวท’ ยังรวบรวมองค์ความรู้ที่มี ส่งต่อให้กับวงการปศุสัตว์ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยความมุ่งหวังให้ธุรกิจ คู่ค้า และชุมชน เติบโตไปด้วยกันอย่างมั่นคง

น.สพ.นิธิทัศน์ เจี๊ยบนา ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการและฝ่ายขาย เราให้ความสำคัญกับแนวทางในดำเนินธุรกิจแบบแอมโก้เวท ทีมงานเราได้รับการปลูกฝังในเรื่องคุณภาพและความจริงใจ ต้องมาก่อน คัดสรรเวชภัณฑ์คุณภาพดี มีประสิทธิภาพสูง คุ้มค่า เหมาะกับสภาวะการเลี้ยงให้แก่ลูกค้า เมื่อลูกค้าได้รับสินค้าที่ดีและมีคุณภาพ ส่งผลให้บริษัทได้รับความไว้วางใจในระยะยาว ซึ่งแนวคิดนี้ส่งผลดีไปยังธุรกิจของคู่ค้าให้เติบโตด้วยกัน “หัวใจสำคัญที่ทำให้เราได้รับความเชื่อมั่นในธุรกิจปศุสัตว์และฟาร์มสุกรได้ยาวนาน คือ เราเป็นทั้งผู้จำหน่ายเวชภัณฑ์และเป็นเกษตรกรที่ทำฟาร์มสุกรด้วยตัวเอง เราค้นคว้า ทำความเข้าใจ ทดสอบ ฝึกอบรมการใช้งานทุกผลิตภัณฑ์ในฟาร์มเอง จนมั่นใจในคุณภาพ และที่สำคัญคือมีทีมงานที่พร้อมทำความเข้าใจในความต้องการของลูกค้า และค้นหาวิธีการใหม่ ๆ เพื่อแก้ปัญหาของลูกค้าได้ตรงจุด” สิ่งที่ทีมแอมโก้ฯ ยึดมั่นมาโดยตลอด คือ “บุกเบิก เคียงข้าง สร้างความสำเร็จ” เราทำธุรกิจแบบเดินไปพร้อมลูกค้า วิเคราะห์ปัญหาของลูกค้าอย่างรอบด้านที่สุด โดยมีการระดมสมอง หาวิธีสร้างโซลูชั่น เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า มุ่งเน้นการแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับลูกค้า

น.สพ.นิธิทัศน์ แนวทางการทำงานของทีมสัตวแพทย์ของเรา ไม่ใช่การเข้าไปรักษาสุกรป่วย ด้วยวิธีจ่ายยาเพียงอย่างเดียว เพราะหลายครั้งที่ฟาร์มสุกรมีผลผลิตไม่เป็นไปตามแผน ปัญหาอาจจะไม่ใช่แค่เรื่องสุขภาพเท่านั้น เราเชื่อว่าการทำฟาร์มปศุสัตว์ในยุคใหม่ ต้องอาศัยองค์ความรู้หลากหลายมิติ ทั้งด้านการบริหารจัดการฟาร์มที่ดี โปรแกรมการดูแลสุขภาพ เวชภัณฑ์ และโภชนาการที่เหมาะสม มีสายพันธุ์ดี ให้ผลผลิตสูง รวมถึงการออกแบบฟาร์มที่ดีเพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยทางชีวภาพ

ทั้งนี้  ‘แอมโก้กรุ๊ป’ มุ่งสู่โมเดล Integrated Solutions รับฟัง วิเคราะห์เพื่อหาสาเหตุของปัญหา และจัดทำโซลูชั่นเพื่อตอบโจทย์สินค้าและบริการ ให้กลุ่มลูกค้าของฟาร์มอย่างครบวงจร ตลอด 40 ปีที่ผ่านมา เราเคียงข้างลูกค้าและพร้อมให้คำปรึกษาในทุกมิติ เพื่อผลผลิตที่ดีที่สุดของเกษตรกร เรามีกลุ่มลูกค้าในทุกระดับ ตั้งแต่กลุ่มเกษตรกรรายย่อย หรือธุรกิจ SME จนถึงผู้ประกอบการขนาดใหญ่

เราเชื่อว่าการทำธุรกิจให้ยั่งยืน ต้องให้ความสำคัญกับภาพใหญ่ โดยเราต้องการให้ทั้ง Supply Chain ที่ทุกภาคส่วนของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกันต้องได้รับประโยชน์ทั้งหมด โดยเริ่มจากพัฒนาสายพันธุ์สุกรให้เหมาะกับการเติบโตในสภาพแวดล้อมของประเทศไทย เพื่อให้ได้แม่พันธุ์สุกรที่มีสุขภาพแข็งแรง ให้ความรู้เกษตรกรเรื่องการจัดการฟาร์มที่มีประสิทธิภาพ แนะนำเทคนิคการลดต้นทุนการเลี้ยง ทำให้เกษตรกรมีกำไร ได้ผลผลิตเนื้อคุณภาพสูงและอร่อย สามารถตอบโจทย์ความต้องการของ Stakeholders ทุกกลุ่ม ซึ่งมี 3 ส่วนสำคัญตั้งแต่ กลุ่มเกษตรกร กลุ่มธุรกิจแปรรูปเนื้อ และกลุ่มผู้บริโภค เช่น ผู้บริโภคในเอเชีย เราชื่นชอบการรับประทานเนื้อหมูที่มีลักษณะนุ่ม มันแทรกพอดี ไม่มีส่วนไขมันหนาเกินไป นิยมรับประทานเนื้อส่วนสามชั้นและสันใน เราจึงคัดเลือกและพัฒนาสายพันธุ์ที่ให้เนื้อสามชั้นที่มีคุณภาพสูงจำนวนมาก ลักษณะสวย มีสัดส่วนเนื้อแดงและชั้นไขมันพอดี เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค

ขณะเดียวกัน การพัฒนาสายพันธุ์สุกร ต้องมองไปที่มุมของเกษตรกรด้วย เช่น ปัจจุบันวัตถุดิบอาหารสัตว์มีราคาสูงเป็นประวัติการณ์ เราจึงเน้นพัฒนาสายพันธุ์ที่แข็งแรง เลี้ยงง่ายและโตไว ที่สำคัญคือมีอัตราการแลกเนื้อที่มีประสิทธิภาพสูง (FCR) ซึ่งสายพันธุ์แดนบริด (DANBRED) เป็นสายพันธุ์สุกรมีอัตราแลกเนื้อที่คุ้มค่าที่สุดในโลก โดยมีค่าเฉลี่ยเพียง FCR = 2.2-2.3 เท่านั้น ทำให้เกษตรกรยังคงมีกำไร แม้วัตถุดิบอาหารสัตว์ยังคงอยู่ในสภาวะผันผวน

อีกปัจจัยของความสำเร็จของ ‘แอมโก้กรุ๊ป’ คือความใส่ใจรอบด้าน และมุ่งสร้างโมเดลธุรกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยจัดการระบบต่าง ๆ เพื่อให้สอดรับกับความต้องการของธุรกิจและชุมชน โดย คุณศุภณัฐ เผยว่า การลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและป้องกันโรค แม้จะลงทุนสูง แต่ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการดำนินธุรกิจให้มั่นคงในระยะยาว หลักการออกแบบฟาร์ม คือ เราตั้งเป้าหมายว่าฟาร์มที่ดีต้องออกแบบให้มั่นคงใน 2 มิติพร้อมกัน คือ 1.ด้านการป้องกันโรคระบาด และ 2.ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม หลักการดังกล่าว เป็นปัจจัยที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน จึงเริ่มการออกแบบฟาร์มด้วยการจัดพื้นที่อย่างเหมาะสม พร้อมกับการวางแปลนเพื่อความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity) ให้รัดกุมที่สุด และลงทุนกับระบบจัดการของเสียอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในระบบนิเวศของการทำธุรกิจฟาร์ม

เราคำนึงเรื่องปริมาณ-ความหนาแน่นในการเลี้ยงที่พอดี ให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพสัตว์ มีแนวทางควบคุมโรคที่รัดกุม และออกแบบให้มีการใช้ระบบอัตโนมัติในจุดที่จำเป็น เพื่อลดภาระและสวัสดิภาพที่ดีของพนักงานในฟาร์ม เพื่อให้สัตวบาลและพนักงาน มีเวลาโฟกัสมากขึ้นในการเลี้ยงและดูแลสุขภาพสุกร เนื่องจากเป็นหน้าที่ที่ต้องใช้ความใส่ใจและความละเอียดสูง อีกมิติที่เราให้ความสำคัญ คือ รักษาสิ่งแวดล้อมและใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่ามากที่สุด จึงมีระบบจัดการน้ำเสีย MCL Biogas ร่วมกับระบบบำบัดและหมุนเวียนน้ำ เพื่อนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ภายในฟาร์มที่เป็นระบบปิดโดยสมบูรณ์ เพื่อใช้ทรัพยากรน้ำอย่างคุ้มค่า และระบบการบำบัดแก๊สแอมโมเนีย (NH3 Scrubber) ในอากาศ ทำให้สามารถกำจัดกลิ่นรบกวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรามีเป้าหมายว่าเราต้องการสร้างธุรกิจฟาร์มที่อยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืน เป็นฟาร์มที่มีประสิทธิภาพและเป็นฟาร์มสีเขียวที่รักษาสิ่งแวดล้อมเฉกเช่นในประเทศในแถบแสกนดิเนเวีย

Business & Transformation ปรับตัว เพื่อไปต่อ ในธุรกิจที่ดำเนินการมายาวนาน ย่อมมีโอกาสเผชิญความเปลี่ยนแปลงจากหลายปัจจัย ซึ่ง ‘แอมโก้กรุ๊ป’  เตรียมการเพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ เป็นอย่างดี ด้วยการวางแผนงานเพื่อรองรับความเสี่ยงต่าง ๆ ล่วงหน้า ทำให้ธุรกิจไม่เกิดการสะดุดจากอุปสรรคที่ไม่คาดคิด คุณศุภณัฐ “เราได้รับการปลูกฝังมาโดยตลอดว่า ธุรกิจการเกษตร…มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และเราต้องปรับตัวให้ทัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิกฤตโรคระบาด ปัจจัยจากผู้เลี้ยง หรือพฤติกรรมของผู้บริโภค การวางแผนที่ดี จึงต้องยืดหยุ่น พร้อมปรับตัวกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้” ทุกครั้งเราที่เจอข้อจำกัด และต้องพยายามมองหาแนวทางในการแก้ปัญหา แน่นอนว่า หนึ่งในสินทรัพย์สำคัญที่สุดในบริษัทฯของเรา คือ พนักงานที่มีประสบการณ์สูงและมีทัศนคติที่เชื่อในความเป็นไปได้ ทำให้เมื่อมีการประชุมระดมสมองในการวางแผนธุรกิจ เราจึงได้ข้อมูลและไอเดียใหม่ๆมาประกอบการตัดสินใจอยู่เสมอ การปรับตัวจึงสามารถทำได้สำเร็จตามแผนที่วางไว้

น.สพ. นิธิทัศน์ ทิศทางของธุรกิจว่า ‘แอมโก้กรุ๊ป’ มีแนวทางแบบบูรณาการ โดยเชื่อว่า ความสำเร็จในการทำปศุสัตว์ เกิดได้จากหลายแนวทางและไม่มีสูตรตายตัว เราจึงนำเสนอโมเดล
การจัดการแบบ Integrated Solutions ที่สามารถมอบผลิตภัณฑ์และบริการให้ลูกค้าได้อย่างครบรอบด้าน จุดเด่นของ ‘แอมโก้กรุ๊ป’ คือ เราเป็นบริษัทฯที่ทำครบวงจร ตั้งแต่การนำเข้าสายพันธุ์ ผลิตและพัฒนาสายพันธุ์ ทำฟาร์มสุกร และยังมีสินค้าและบริการที่ครอบคลุม ตั้งแต่ อาหาร ยาและวัคซีน รวมถึงยังเป็นที่ปรึกษาเรื่องการจัดการสุกรและระบบต่าง ๆ ในฟาร์ม ที่สามารถตอบโจทย์เกษตรกรได้ทุกมิติ
จึงทำให้ทีมงานของเราทุกคนมีความรู้และเข้าใจจริง จึงสามารถเข้าถึงปัญหาของลูกค้า และช่วยแก้ปัญหาให้สอดรับกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง

พันธกิจ…เพื่อก้าวต่อไปของฟาร์มสุกรไทย นอกจากพันธกิจหลัก คือการส่งมอบ Integrated Solutions ที่สนับสนุนคู่ค้าได้อย่างครอบคลุมทุกความต้องการ ยังตั้งเป้าเป็นผู้นำการฟื้นฟูธุรกิจฟาร์มสุกรให้กับเกษตรกรไทย หลังการระบาดของโรค ASF (African Swine Fever) “แม้ว่าเราจะเป็นองค์กรขนาดกลาง แต่มั่นใจว่าด้วยองค์ความรู้ ประสบการณ์ และทรัพยากรที่มี จะช่วยให้เกษตรกรกลับมาเริ่มทำฟาร์มสุกรได้อย่างยั่งยืน การช่วยสนับสนุนด้านทรัพยากรและองค์ความรู้ จะทำให้ทุกภาคส่วน (Stakeholder) ก้าวเดินอย่างมั่นคงไปพร้อมกัน” ทำให้ AMCOGROUP คือ ผู้บุกเบิก เคียงข้าง สร้างความสำเร็จ ส่งผ่านสิ่งที่ดีที่สุดไปยังลูกค้า เพื่อความมั่นคงในอาชีพของเกษตรกร และเพื่อความสุขของผู้บริโภคมากว่า 40 ปี

ติดตามอ่านเรื่องราวดีๆ รวมไปถึงบทความที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่จะช่วยให้ข้อคิด แนวคิด และเคล็ดลับในการบริหารธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้ที่ www.Bangkokbanksme.com

รู้จัก  “AMCOGROUP” ได้ที่ https://www.amcovet.com/