‘โรงคั่วกาแฟ วังน้ำเขียว’ เสิร์ฟความสุข ทุกแก้วโปรด

ยกแก้ว นั่งจิบ ลิ้มรสชาติกาแฟคั่วใหม่ สัมผัสกลิ่นหอมชวนหลงใหล พร้อมกับเสพชีวิตสโลว์ไลฟ์ท่ามกลางธรรมชาติ ทอดกายชิลล์ริมบึงใหญ่ที่มีต้นน้ำจากบนภูเขา บรรยากาศโดยรอบรายล้อมไปด้วยต้นไม้ ทิวทัศน์ภูเขา รวมเป็นส่วนผสมความลงตัวอันแสนสงบและร่มรื่น

ด้วยเอกลักษณ์เหล่านี้ จึงทำให้ ‘โรงคั่วกาแฟ วังน้ำเขียว’ ประสบความสำเร็จในธุรกิจ เป็นที่รู้จักทั้งในไทยและต่างประเทศ กลายเป็นแลนด์มาร์คที่ใครๆ ต่างให้ความสนใจเมื่อมาเยี่ยมเยือน อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

Passion จุดเริ่มต้น ‘โรงคั่วกาแฟ’

ปี 2554 เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ทำให้ธุรกิจนำเข้าอะไหล่คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เสียหายอย่างหนัก ส่งผลให้คุณปกรณ์ เตชสิทธิ์วรโชติ เจ้าของธุรกิจต้องปิดกิจการที่มาพร้อมด้วยหนี้ก้อนโตถึง 50 ล้านบาทหลังจากนั้น คุณปกรณ์ จึงเริ่มมองหาธุรกิจใหม่ ก่อนมีโอกาสได้เดินทางมาที่ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ด้วยความรู้สึกที่อยากพักสมอง อยากทำการเกษตร จึงเริ่มต้นเช่าที่ดินแปลงเล็กๆ ประมาณ 5 ไร่ เพื่อทำเกษตรแบบผสมผสานเขาเล่าว่า วันหนึ่งได้พบกับ ‘กาแฟต้นแรก’ ที่ชาวบ้านปลูกไว้ จึงเกิดความสนใจอยากลองปลูกบ้าง โดยอำเภอวังน้ำเขียว ถือเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ซึ่งเหมาะสมกับการปลูกกาแฟ จึงมีเกษตรกรปลูกกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า และอาราบิก้าจำนวนไม่น้อย เมื่อได้เจอกับกาแฟต้นแรกแล้วเกิดความสนใจ เห็นโอกาสทางธุรกิจ ประกอบกับมีความต้องการสร้างมูลค่าให้กับกาแฟที่นี่ จึงได้ไปศึกษาการแปรรูปกาแฟที่หมู่บ้านดอยช้าง อำเภอแม่สวย จังหวัดเชียงราย

หลังจากนั้นคุณปกรณ์ได้สร้างเพจ ‘โรงคั่วกาแฟ’ ขึ้นมา โดยมีการแชร์วิถีแฮนด์เมดวิธีการปลูกกาแฟของเกษตรกรไปในโลกโซเชียลมีเดีย ทำให้ผู้คนสนใจติดตามโดยเดินทางมาจากต่างประเทศ จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจจริงจัง โดยได้สร้างแบรนด์ ‘โรงคั่วกาแฟ’ ขึ้นมา เพื่อคั่วกาแฟขายแบบคั่วเองขายเอง“ในปี 2555 เริ่มมีการทดลองแปรรูป สร้างคอฟฟี่ช็อปเล็กๆ โดยแปลงมาจากโรงนาเก่า แล้วใช้วิธีผลิตสินค้าด้วยแฮนด์เมดทั้งหมด จากนั้นได้สร้างเพจในเฟซบุ๊ก ซึ่งเรานำกระทะทองเหลืองเก่าไปคั่วกาแฟที่นั่น

‘อาราบิก้า ออริจินัล’ ที่มารสชาติอันเป็นเอกลักษณ์คุณปกรณ์ กล่าวว่า ‘โรงคั่วกาแฟ วังน้ำเขียว’ ได้มีการนำต้นกล้ากาแฟพระราชทานจากในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งก็คือสายพันธุ์ ‘อาราบิก้าออริจินัล’ มาเพาะแล้วขยายพันธุ์ ณ วันนี้ โรงคั่วกาแฟจึงมีเมล็ดกาแฟคั่วจากพันธุ์อาราบิกาออริจินัลที่เป็นพันธุ์ดั้งเดิมไม่ได้ตัดต่อพันธุกรรม นำไปสู่จุดขายที่ว่ากาแฟวังน้ำเขียวหอม ฉุน ละมุนลิ้น และเป็นพันธุ์อาราบิกาออร์ริจินัลของพ่อหลวงจากหนึ่งต้นในตอนนั้นกลายเป็นล้านๆ ต้นในตอนนี้ โดยโรงคั่วกาแฟคอนโทรลการปลูกด้วยวิธีออร์แกนิก จึงมั่นใจในคุณภาพ รสชาติ ‘ขม เปรี้ยว ฝาด มัน หวาน’ 5 คาแรกเตอร์กาแฟอันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครได้“พื้นที่ อำเภอวังน้ำเขียว ขนาบด้วยอุทยานแห่งชาติทับลานกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นอกจากนี้ ยังมีแร่ธาตุโพแทสเซียมจากภูเขาไฟเก่า และด้วยภูมิศาสตร์ที่เป็นเหมือนแอ่งกระทะ ทำให้กาแฟมีรสชาติ-คาแรกเตอร์ หอม ฉุน ละมุนลิ้นต่างจากที่อื่น โดยตอนนี้วังน้ำเขียวได้ GI ทั้งอำเภอ จึงเป็นเครื่องการันตีได้ว่ากาแฟสายพันธุ์โรบัสตาและอาราบิกาที่นี่มีคาแรกเตอร์ของเราเอง”

บริหารเครือข่ายเกษตรกรคุณปกรณ์ เล่าว่า ช่วงเริ่มต้นมีเครือข่ายเกษตรกรประมาณ 4-5 คน จากนั้นโรงคั่วกาแฟทำให้เกษตรกรคนอื่นเห็นว่าเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้จริง จึงทำให้มีผู้สนใจเข้าร่วมเครือข่ายจาก 10 คน กลายเป็น 100 คน ซึ่งโรงคั่วกาแฟจะคัดเลือกเกษตรกรที่ต้องการปลูกกาแฟจริงจัง เพื่อให้สามารถควบคุมคุณภาพได้ ส่วนราคารับซื้อจากเกษตรกรไม่ได้ตั้งขึ้นเอง แต่เป็นราคากลางที่ใช้ทั่วประเทศปัจจุบันมีเกษตรกรผ่านการคัดเลือกประมาณ 30 ราย โดยมีพื้นที่ปลูกกาแฟเฉลี่ยประมาณ 20 ไร่ต่อราย ให้ผลผลิตทั้งหมด 30 ตัน ต่อปี ซึ่งไม่เพียงพอต่อการผลิตเพื่อจัดจำหน่าย ดังนั้น โรงคั่วกาแฟจึงร่วมมือกับหมู่บ้านดอยช้าง จังหวัดเชียงราย รับซื้อเมล็ดกาแฟจากเกษตรกรที่นั่นมา 9 ปีแล้ว นอกจากนี้ยังได้มีการทำบันทึกข้อตกลงเพื่อรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรจังหวัดน่านด้วย

เพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จ

นอกจากกาแฟคั่วแล้วคุณปกรณ์เผยว่า ‘โรงคั่วกาแฟ วังน้ำเขียว’ ยังได้มีการเปิดฟาร์มเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร สถานที่ดื่มกาแฟ รับประทานอาหาร-เบเกอรี่ต่างๆ ให้ผู้คนได้เยี่ยมชมสไตล์ฟาร์ม   เมอร์วิถีชีวิตการทำกาแฟ นอกจากนี้ยังมีช็อปผลิตภัณฑ์ที่มี เมล็ดกาแฟคั่ว คอสเมติกคอฟฟี่ ซึ่งเกิดจากการต่อยอดไอเดียประมาณ 20 รายการ “เป็นเวลา 9 ปีแล้ว นับตั้งแต่ปี 2555 ผลิตภัณฑ์ของโรงคั่วกาแฟมีการเติบโตต่อเนื่อง ทำให้ผมสามารถจ่ายหนี้จำนวน 50 ล้านบาท ได้ในปี 2562สำหรับการตลาด ‘โรงคั่วกาแฟ วังน้ำเขียว’ คุณปกรณ์ บอกเสมอว่า เริ่มต้นจากการถ่ายทอด ‘สตอรี’ ของตัวเองและกาแฟไปด้วยกัน โดยโรงคั่วกาแฟเกิดจากประสบการณ์จริงของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ปลูกกาแฟ ก่อนกลายเป็นคอนเทนต์แล้วถ่ายทอดสตอรีไปถึงลูกค้าให้ได้รับรู้ จนนำไปสู่การแชร์เรื่องราวต่างๆ แล้วเกิดการบอกต่อผ่านโลกโซเชียลมีเดีย รวมไปถึงการบอกต่อแบบปากต่อปาก

แหล่งปั้น ‘บาริสต้า’ แห่งวังน้ำเขียว ปัจจุบันโรงคั่วกาแฟวังน้ำเขียวมีพนักงานเพียง 10 คน ไม่จำเป็นต้องมีพนักงานเยอะแต่เรามีวิธีการทำงานแบบทีมเวิร์คและมีการกระจายงาน เช่น การเพาะปลูกเราจะให้เกษตรกรเป็นคนดูแล แล้วมีการแชร์รายได้แชร์ผลกำไร แบ่งงานกันทำแต่ทุกขั้นตอนมีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีพนักงานจำนวนมาก แต่หากช่วงไหนมีงานเข้ามาเยอะก็จะมีการจ้างพาร์ทไทม์เข้ามาช่วย โดยพนักงาน-เกษตรกรทุกคนเข้าใจกระบวนการทำงานอยู่แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะเป็นบาริสต้า

ขณะเดียวกัน คุณปกรณ์ วาดหวังว่า โรงคั่วกาแฟวังน้ำเขียวจะเป็นแหล่งปั้น ‘บาริสต้า’ แก่คนในพื้นที่นับร้อยคนที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนมาทำงาน แล้วอาจไปขยับขยายเติบโตทำธุรกิจตัวเองซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ทำให้โดยเราผันตัวมา ‘ผู้ผลิต’ ให้สำหรับคนที่ต้องการสร้างแบรนด์ตัวเอง เราจะช่วยซัพพลายวัตถุดิบเพื่อให้ธุรกิจเติบโตไปด้วยกัน

วาด Big Project ในอนาคต

คุณปกรณ์ บอกว่า ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน โรงคั่วกาแฟจึงอยากช่วยเหลือผู้คนว่างงานให้มีอาชีพ ด้วยโปรเจกต์ Driver CarFe หรือร้านกาแฟเคลื่อนที่ เมื่อลูกค้ามาหาเราไม่ได้ เราก็ต้องไปหาลูกค้าเอง โดยจะมีการเปิดตัวเร็วๆ นี้

ที่ผ่านมา โรงคั่วกาแฟวังน้ำเขียวร่วมมือกับโตโยต้า ไทยแลนด์ เพื่อช่วยคนว่างงาน-คนรุ่นใหม่ที่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจโดยไม่ต้องมีเงินสดก็สามารถทำธุรกิจ Driver CarFe ได้ โดยเป็นแฟรนไชส์โรงคั่วกาแฟซึ่งเป็นร้านกาแฟเคลื่อนที่มีการตกแต่งพร้อมด้วยอุปกรณ์การจำหน่ายแบบครบครัน สามารถทำได้ทั้งอาชีพหลัก อาชีพเสริม ซึ่งตอนนี้มีแฟรนไชส์แล้วจำนวน 20 คัน

‘โควิด-19’ ส่งผลอย่างไรกับธุรกิจ

โควิดส่งผลกระทบกับยอดขาย 90% หน้าร้าน ณ ฟาร์มที่โรงคั่วกาแฟ เพราะลูกค้าไม่สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ จากยอดขายเฉลี่ยวันละ 1,000 แก้ว เหลือวันละประมาณ 100 แก้ว จึงต้องมีการเพิ่มยอดขายจากช่องทางออนไลน์ ซึ่งทางโรงคั่วกาแฟได้เริ่มทำช้อปออนไลน์จริงจังตั้งแต่ปี 2558 แล้ว เนื่องจากมองเห็นถึงแนวโน้มในอนาคต ทำให้ปัจจุบันมีรายได้จากออนไลน์ถึง 50%

ดังนั้น การทำเว็บไซต์ออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จ สิ่งสำคัญที่ธุรกิจต้องมีก็คือความน่าเชื่อถือ โปรไฟล์สตอรีที่อยู่ในโซเชียลมีเดียสำคัญมาก และต้องเป็นสิ่งที่ธุรกิจทำจริงๆ เพราะจะสามารถช่วยอัพเกรดเครดิตของธุรกิจ เมื่อทุกคนได้เข้าไปชมก็จะเห็นเรื่องราวต่างๆ ส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นในแบรนด์ดิ้งของเรา

แม้ตลาดกาแฟจะมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ แต่การทำธุรกิจกาแฟให้ประสบความสำเร็จกลับไม่ใช่เรื่องง่าย สังเกตได้จากหลายกิจการที่ต้องปิดตัวลง ดังนั้น คุณปกรณ์ซึ่งเป็น General Manager ‘โรงคั่วกาแฟ วังน้ำเขียว’ จึงสร้างความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์เพื่อมัดใจลูกค้าด้วยการใช้ ‘สตอรี’ เป็น Key Success จนส่งผลให้ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน

ติดต่อ โรงคั่วกาแฟวังน้ำเขียว http://www.wnkcoffee.com
Facebook: โรงคั่วกาแฟ วังน้ำเขียว

Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน 1333