เผยแพร่	วันพุธที่ 22 ธันวาคม พ.ศ.2564

‘สปริงเกลอร์’ อุปกรณ์รดน้ำชิ้นสำคัญประจำสวน จากแนวคิด ‘หัวใจของการทำเกษตรคือน้ำ’ โดย คุณสุรศักดิ์ วงศ์ชินศรี เจ้าของบริษัท สุ แอนด์ สุ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ระบบน้ำเพื่อการเกษตรรายใหญ่ที่จะมาช่วยตอบโจทย์กับเทคโนโลยีตัวช่วยทุ่นแรงให้กับพี่น้องชาวสวนในการประหยัดเวลา หมดปัญหาเรื่องระบบน้ำ ด้วยประสบการณ์ที่ครองใจเกษตรมายาวนาน กว่า 25 ปี

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

‘สุ แอนด์ สุ’ ผู้ช่วยเกษตรยุคใหม่ 

คุณสุรศักดิ์ เล่าว่า บริษัท สุ แอนด์ สุ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด ก่อตั้งเมื่อปี 2539 จากความฝันในวัยเยาว์ และความรักในธุรกิจเกษตร จึงตัดสินใจแยกออกจากธุรกิจกงสีของที่บ้าน เพื่อเปิดร้านขายปลีกภายใต้ชื่อ สุ แอนด์ สุ จำหน่ายอุปกรณ์การเกษตร ต่อมาธุรกิจมีการเติบโต จึงขยายตัวจากร้านค้าปลีกเป็นธุรกิจค้าส่ง มาเป็นผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่าย อุปกรณ์สำหรับระบบน้ำในการเกษตรรายใหญ่ในประเทศไทย

“เรียนรู้และพัฒนาตัวเองมาทำอุปกรณ์ระบบน้ำเพื่อการเกษตร คือ สปริงเกลอร์ จากที่เราซื้อมาขายไป เริ่มจากการจ้างผลิต จนกลายเป็นโรงงานผลิตสปริงเกลอร์ ท่อส่งน้ำ อุปกรณ์ระบบน้ำ ในขณะเดียวกันเราก็เป็นเอเย่นต์สินค้าชั้นนำของประเทศหลายตัว เช่น ก๊อกน้ำซันวา ผมเป็น Top 10 ของประเทศไทย”

คุณภาพดี ราคาเหมาะสมมีที่ ‘สุ แอนด์ สุ’  

ความสำเร็จตลอดระยะเวลากว่า 25 ปี ที่ผลิตสินค้าเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกร ด้วยการยึดคำมั่นให้สินค้ามีคุณภาพ พร้อมทั้งตอบโจทย์เรื่องราคาที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย

คุณสุรศักดิ์ บอกว่า การผลิตให้มีคุณภาพเหมาะกับราคา บางครั้งผลิตของออกมาดีมากแต่ต้องขายในราคาที่แพง และต้องดูว่าราคาเหมาะสมกับตลาดหรือไม่ เพราะฉะนั้นสินค้าดีราคาเหมาะสมมีที่ สุ   แอนด์ สุ

ขณะที่ปัญหาน้ำแล้งถือเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นยาวนาน ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน รวมทั้งเศรษฐกิจของประเทศ ยิ่งภาคการเกษตรยิ่งต้องหาตัวช่วยในการบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอ เพราะพืชแต่ละชนิดต้องการน้ำไม่เท่ากัน ดังนั้นหากต้องการตัวช่วยภาคการเกษตรเกี่ยวกับระบบน้ำ สุ แอนด์ สุ สามารถตอบโจทย์ครบในที่เดียว

“วิธีแก้ปัญหาให้ใช้น้ำน้อยลงต้องใช้สปริงเกลอร์ เนื่องจากจะคอนโทรลปริมาณน้ำได้ดีกว่าและประหยัดน้ำได้เยอะ ถ้าใช้สปริงเกลอร์เมื่อไหร่เกษตรกรจะใช้น้ำน้อยมาก และบริหารจัดการระบบน้ำได้ดีขึ้น”

ภาคเกษตรพื้นฐานปัจจัย 4

แม้จะเผชิญกับวิกฤตในประเทศอยู่หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นภาวะฟองสบู่แตกเมื่อปี 2540 จนกระทั่งปัจจุบันการระบาดของโควิด-19 ก็ไม่ได้กระทบ สุ แอนด์ สุ แต่กลับกลายเป็นว่าขายดีเติบโตท่ามกลางวิกฤต

หากย้อนกลับไปเมื่อปี 2540 ประเทศไทยต้องประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจหรือที่เรียกว่า ‘ฟองสบู่แตก’ ทำให้ธุรกิจหลายภาคส่วนต้องปิดกิจการลง ส่งผลให้พนักงานส่วนใหญ่ต้องหันหลังกลับบ้าน อาชีพเกษตรคือสิ่งที่ต่อทุนชีวิตให้อยู่รอด

เมื่อผู้คนอยากทำการเกษตรมากขึ้น ผลที่ตามมาคือคนต้องการอุปกรณ์ในการเกษตรเพื่อช่วยทุ่นแรงในเกษตรยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสปริงเกลอร์ หรืออุปกรณ์ระบบน้ำอื่นๆ อีกมากมาย

ทำให้ปี 2540-2543 สินค้าของ สุ แอนด์ สุ ขายดีมากผลิตเท่าไหร่ก็ไม่พอขาย จนประสบความสำเร็จในการเข้าไปอยู่ในสต๊อกโกดังของสินค้าเพื่อการเกษตรทั่วประเทศ

ปัจจุบันบริษัทสุ แอนด์ สุ ผลิตสินค้าตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด ซึ่งในตอนนี้ก็ผลิตแทบจะไม่ทันกันเลยทีเดียว

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ สุ แอนด์ สุ สามารถเข้าไปอยู่ในใจพี่น้องชาวเกษตรกรได้เป็นอย่างดี แม้กระทั่งการระบาดโควิด 19 ก็ยังขายดี เนื่องจากการทำเกษตรคือพื้นฐานของสังคมไทย อุปกรณ์การเกษตรจึงเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่ง แม้ประเทศจะเจอวิกฤตโรคระบาดก็ตาม ด้วยเหตุนี้ คุณสุรศักดิ์ จึงมองว่าธุรกิจเกี่ยวกับเกษตรยังเติบโตไปได้อีกไกล

M&A สร้างความสำเร็จ SME ก็ทำได้

ตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา คุณสุรศักดิ์ บอกถึงเคล็ดลับการเติบโตทางธุรกิจ ด้วยการเข้าไปซื้อกิจการบริษัทที่กำลังประสบปัญหาทางด้านสภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ไม่สามารถพยุงกิจการต่อไปได้ เคล็ดลับการสร้างความสำเร็จสำหรับ สุ แอนด์ สุ ที่ได้เรียนรู้จากบริษัทที่กำลังล้มเลิกกิจการ ด้วยการแทรกตัวเข้าไปในสมรภูมิให้ตนเองต่อยอดธุรกิจให้เติบโตไปในระยะยาว ซึ่งทำให้เห็นว่า SME ก็สามารถทำ M&A (Mergers & Acquisitions) ได้

“ผมเข้าซื้อกิจการ ซื้อเครื่องจักร แม่พิมพ์ ขณะเดียวกันก็เอาบุคลากรที่มีค่ามาด้วย ทั้งทีมฝ่ายขาย ทีมการตลาด ซึ่งทำให้ได้ลูกค้า และยังได้ Know How ในการผลิตมาด้วย นี่จึงเป็นเคล็ดลับที่เร่งโตให้ธุรกิจได้เป็นอย่างดี”

Outsource สู่ชุมชน สร้างรายได้ เกื้อหนุนธุรกิจ

นอกจากคุณภาพในการผลิตที่ตอบโจทย์ภาคเกษตร คุณสุรศักดิ์ เล่าว่า เพื่อที่จะสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก บริษัทสุ แอนด์ สุ มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยในกระบวนการผลิตปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนโดยรอบ พร้อมทั้งยังยึดมั่นอย่างหนักแน่นที่จะสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ผู้คนในท้องถิ่น โดยสนับสนุนการจ้างงานในชุมชน เพื่อสร้างรายได้ให้คนในพื้นที่ ขณะเดียวกันก็เป็นการลดต้นทุนแรงงานของธุรกิจ ถือเป็นการเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน

โดยการสนับสนุนจ้างงานในชุมชนในขณะนี้มีอยู่ประมาณ 10 ชุมชน กับอีกกว่า 30 ครัวเรือน เป็นการส่งผลิตภัณฑ์ของโรงงานเพื่อประกอบอุปกรณ์สปริงเกลอร์ โดยส่งผ่านหัวหน้าชุมชนเป็นหลัก ซึ่งชุมชนที่ส่งไปส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ ซึ่งจะทำให้กลุ่มผู้สูงอายุมีงานทำและมีรายได้เพิ่มขึ้น

สร้างธุรกิจให้เหนือชั้นด้วยข้อมูลลูกค้า

การศึกษาความต้องการของลูกค้ามีความสำคัญต่อธุรกิจเป็นอย่างมาก สามารถรู้ว่าต้องพัฒนาสินค้าไปในแนวทางใดถึงจะถูกใจลูกค้า นอกจากจะได้เปรียบคู่แข่งขันยังช่วยให้สินค้าขายดีขึ้น สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญต่อความสำเร็จของธุรกิจ

คุณสุรศักดิ์ กล่าวว่า สิ่งที่บริษัทสุ แอนด์ สุ มีดีเหนือกว่าคู่แข่งคนอื่นคือ การรีเสิร์ชกับผู้บริโภคด้วยการลงพื้นที่ หาฟังก์ชันของแต่ละสวนให้เจอ เพราะการได้ลงสำรวจพูดคุยกับเกษตรกร ทำให้รับรู้ความต้องการที่แท้จริง ซึ่งนำมาสู่การผลิตสินค้าที่มีคุณภาพตามความต้องการมากขึ้น

“ต้องถามลูกค้าว่าอยากได้สปริงเกลอร์แบบไหน อยากได้องศาน้ำหรือปริมาณน้ำแบบไหน เช่น สวนกล้วยไม้อยู่ใต้สแลนไม่มีกระแสลม ต้องการน้ำที่มีความสม่ำเสมอเพื่อจะได้รดต้นกล้วยไม้ให้ทั่วถึง เราก็ต้องออกแบบสปริงเกลอร์ให้เหมาะสม”

เพิ่มเทคโนโลยีใหม่ ช่วยลดต้นทุนการผลิต

นอกจากนี้การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างเครื่องจักรเข้ามา ทำให้ทางบริษัทลดต้นทุนไปได้มากกว่าเมื่อก่อน ไม่ว่าจะประหยัดค่าไฟรวมทั้งการใช้ทรัพยากรแรงงานคนก็สามารถลดจำนวนลงไปได้ด้วย

จากเมื่อก่อนในการผลิตสปริงเกลอร์จะผลิตวันละ 28,000 ชิ้น ต้องใช้เครื่องจักร 3 เครื่อง แต่เมื่อมีการนำเครื่องจักรใหม่ แม่พิมพ์ใหม่ รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ เครื่องจักรเครื่องเดียวในตอนนี้ให้ประสิทธิภาพเทียบเท่าเครื่องจักร 3 เครื่องในเมื่อก่อน ทำให้ลดต้นทุน เพราะประหยัดค่าไฟ ทั้งยังเป็นระบบออโต้และเซมิออโต้ ช่วยทุ่นแรงงานคนไปอีกด้วย ซึ่งในตอนนี้ทางบริษัทมีการผลิตอย่างเต็มประสิทธิภาพตลอด 24 ชั่วโมง

“เมื่อก่อนผมมีเครื่องจักรประมาณ 20 เครื่อง ค่าไฟเดือนละประมาณ 300,000 บาท ตอนนี้ สุ แอนด์ สุ มีเครื่องจักรประมาณ 30 เครื่อง ค่าไฟก็อยู่ประมาณ 300,000 บาท เราผลิตมากกว่าเดิม แต่ค่าไฟไม่เพิ่มขึ้น เป็นเพราะเครื่องจักรใหม่ประหยัดไฟมาก แล้วเครื่องจักรใหม่ก็ให้กำลังผลิตที่มากกว่าเครื่องจักรเก่า” 

คุณสุรศักดิ์ เชื่อว่าราคาของสินค้าต้องมีราคาที่เหมาะสมและเน้นประสิทธิภาพในการผลิต เพราะสุดท้ายแล้วหากสินค้าแพงเกินไปก็จะเข้าถึงยาก จึงต้องใช้เทคโนโลยีการผลิตมาจัดการด้านต้นทุน

เทคนิคการขายง่ายๆ เปรียบลูกค้าเป็นเหมือนญาติ

การให้ความสำคัญกับลูกค้าถือเป็นหัวใจหลักของการขาย คุณสุรศักดิ์เล่าถึงเทคนิคการขายง่ายๆ ที่จะเข้าไปครองใจลูกค้า ด้วยการเปลี่ยนมุมมองในการดูแลลูกค้าให้เหมือนการดูแลญาติผู้ใหญ่ จะทำให้ขายได้ง่ายและชนะคู่แข่งได้เป็นอย่างดี

“พยายามทำอย่างไรให้ลูกค้ากลายเป็นครอบครัว ทำให้เกิดความสนิทสนม ถ้ามีเวลาว่างก็ไปเยี่ยมชาวสวนหรือไปงานสังคมพวกนี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสังคมไทย”

เน้นการตลาดออฟไลน์ กระจายสินค้าส่งออกต่างประเทศ

การตลาดออนไลน์ถือเป็นสิ่งสำคัญในการเข้าถึงลูกค้าได้ แต่สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดของบริษัทสุ แอนด์ สุ ที่เน้นให้ทีมฝ่ายขายเป็นตัวแทนขายกระจายสินค้าไปยังร้านขายส่งวัสดุการเกษตรทั่วประเทศ พร้อมทั้งยังกระจายสินค้าไปยังร้านค้าชั้นนำ เช่น ดูโฮม

ส่วนการตลาดออนไลน์ทางบริษัทมีเว็บไซต์เพื่อไว้รองรับกลุ่มลูกค้าต่างชาติในรูปแบบ Business-to-Business (B2B) เพียงแค่ค้นหาคำว่า ‘สปริงเกลอร์ไทยแลนด์’ สินค้าอุปกรณ์ทางการเกษตรก็จะขึ้นโชว์รายละเอียดทันที

“เดิมเราทำแค่การตลาดออฟไลน์ ตลาดออนไลน์ไม่ได้ทำ แต่ตอนนี้ก็เริ่มพัฒนาเว็บไซต์ไปเรื่อยๆ ถ้าไปเสิร์ชยูทูบ เสิร์ชกูเกิลคำว่าสปริงเกลอร์คุณก็จะเจอผม”   

ไม่เพียงเท่านี้ สุ แอนด์ สุ ยังจัดทีมเจ้าหน้าที่เทคนิคผู้มีความชำนาญในผลิตภัณฑ์ คอยช่วยเหลืออธิบาย และตอบทุกข้อสงสัยในการใช้งานให้กับลูกค้าอย่างจริงใจ อีกทั้งยังรับประกันสินค้าในกรณีที่สินค้ามีการเสียหายชำรุดจากการผลิต ไม่ใช่จากการใช้งาน ก็ยินดีรับเคลมสินค้า 100% ทั้งนี้เพื่อเป็นการันตีคุณภาพของสินค้า และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าทุกท่าน

เพราะเชื่อว่าธุรกิจด้านการเกษตรเติบโตไปได้อีกไกล จนนำมาสู่การมองเห็นโอกาสในการสร้างธุรกิจของ คุณสุรศักดิ์ วงศ์ชินศรี ทำให้บริษัท สุ แอนด์ สุ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด ประสบความสำเร็จในด้านผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ระบบน้ำเพื่อการเกษตรรายใหญ่ในประเทศไทยประสบการณ์ยาวนานกว่า 25 ปี ในการตอบโจทย์แก้ปัญหาเรื่องระบบน้ำของเกษตรกรอย่างครอบคลุม

แม้จะประสบความสำเร็จมากมายขนาดนี้ ก็ไม่ทำให้บริษัท สุ แอนด์ สุ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด หยุดพัฒนายังมุ่งมั่นเพื่อครองใจเกษตรกรกระจายสินค้าส่งออกทั่วโลก

วิกฤตโควิด 19 ยิ่งเป็นตัวเร่งสร้างให้เกิดสิ่งใหม่ในทางการเกษตร นั่นคือเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมที่สามารถอำนวยความสะดวกให้เกษตรกร และยังส่งผลให้ธุรกิจอุปกรณ์ทางการเกษตรเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

 ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.suandsuintergroup.com/

Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333