รมว.ยุติธรรม ขอบคุณชาวบ้าน 4 จังหวัดพื้นที่ภาคใต้ ในงาน “พืชกระท่อมสร้างเศรษฐกิจไทย ใช้อย่างไรให้มีคุณค่าและยั่งยืน”

หวังชาวบ้านริเริ่มพัฒนาต่อยอดกระท่อม อัพเกรดผลิตภัณฑ์สร้างอาชีพเป็นรายได้ ขอบคุณชาวใต้เปลี่ยนใบไม้เป็นเงิน “สมบัติ” ยันช่วยหนุนสร้างโอกาสพัฒนาพืชเกษตร แนะ อว. ร่วมมือ มหาวิทยาลัยวิจัยยกระดับนวัตกรรมให้มากขึ้น เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร

จากการจัดงานพืชกระท่อมสร้างเศรษฐกิจไทย ใช้อย่างไรให้มีคุณค่าและยั่งยืน 4 จังหวัด ได้แก่ สงขลา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และพัทลุงนั้น นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า การปลดล็อกกระท่อมได้ดำเนินมา 8-9 เดือนแล้ว แนวทางการปลดล็อกมีพี่น้องประชาชนช่วยกันผลักดัน มี 152 หมู่บ้านที่อนุรักษ์ไว้เพื่อให้เราศึกษา วันนี้คนมีความต้องการใบกระท่อมมากขึ้น ไม่ใช่เฉพาะชาวใต้เท่านั้น แต่ภาคเหนือและอีสานก็ต้องการเช่นกัน แต่ตนเองเกรงว่าหากปลูกมากไป สักวันหนึ่งราคาจะตก เราจะทำยังไงให้กระท่อมมีมูลค่าเพิ่ม แนวทางของการเพิ่มมูลค่ายังต้องทำต่อไป วันนี้เราต้องพึ่งมหาวิทยาลัยในการทำวิจัย เพื่อให้รู้ว่าจะต่อยอดแล้วทำอย่างไรต่อไป ซึ่งประเทศไทยเป็นพื้นที่เหมาะสมมากในการเพาะปลูก มีความพร้อม เราจะขยายให้กระท่อมเดินไปข้างหน้าได้

“ประเทศเราขาดโอกาสพัฒนาพืชเกษตรให้มีคุณภาพสูง อย่างเนเธอร์แลนด์ มีพื้นที่เพาะปลูกน้อยกว่าเรา 10 เท่า แต่สามารถทำมูลค่าเพิ่มจากพื้นที่ได้ถึง 7.5 เท่า ผมคิดประเทศเรายังใช้มหาวิทยาลัยน้อยในการวิจัยนวัตกรรมต่างๆ เราคงต้องใช้มหาวิทยาลัย และกระทรวง อว. ให้มากขึ้น โอกาสของไทยยังก้าวไปได้อีกเยอะ และเราจะเดินไปด้วยความระมัดระวัง รักษาคุณภาพและต้องซื่อสัตย์ เราจะเดินหน้าไปได้ และขอขอบคุณพี่น้องทุกคนที่ช่วยกันผลักดัน”

“ผลการตอบรับจากการจัดกิจกรรมกระท่อมสัญจรที่ผ่านมา ชาวบ้านรู้สึกดีมาก เห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้นจากกระท่อมที่ขายปลีก ขีดละ 60 บาท ก็ตกกิโลกรัมละ 600 บาท จากวันที่ 24 สิงหาคม 2564 ถึงวันนี้ เริ่มมีการปลูกมากขึ้น หากถ้า supply มีมากเกินไป demand ก็คิดว่าราคาคงตก แต่ว่าราคาก็ไม่ตก ก็แสดงว่า demand เพิ่มมากขึ้นเหมือนกัน เพราะถ้าราคาตกปุ๊บเราก็จะผลักดันให้ส่งออก ก็รอเวลาสักระยะหนึ่งเมื่อมีคนปลูกกระท่อมมากขึ้น ก็จะเอาปริมาณส่วนเกินจากการบริโภค ส่งออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ผมคำนวณดูจาก ปปส. บอกว่าวันนี้เขามีไม่น้อยกว่า 40,000 ไร่ ที่ปลูกนะ ไร่หนึ่งจะมีอยู่ประมาณ 25 ต้น ต้นหนึ่งก็ 160 กิโลกรัม เก็บได้ประมาณ 1 ปี ใบที่ขายได้ กินได้ ก็ 4 ตัน 4,000 กิโลกรัม ถ้ากิโลละ 500 บาท ก็คือ 2 ล้านบาทต่อไร่ แต่ถ้าปลูกมากๆ จากกิโลละ 500 บาท เหลือ 5 บาท 4,000 กิโลกรัมก็ได้ 20,000 บาท ต้องก้าวไกลไปสู่ภาคอุตสาหกรรม” นายสมศักดิ์ กล่าว

ติดตามข่าวสารและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.oncb.go.th

#พืชกระท่อม   #สำนักงานปปส.  #มุ่งมั่นแก้ไขขจัดภัยยาเสพติด   #กระทรวงยุติธรรม