ศึกษา “หจก.สมบูรณ์และบุตร” ผู้ส่งออกใบตะไคร้อบแห้ง เชื่อมเกษตรกรสู่ตลาดเยอรมันเพื่อผลิตชา

การจะเป็น Supply ปลูกและผลิตใบตะไคร้อบแห้งให้กับบริษัทสัญชาติเยอรมันเพื่อนำไปเป็นส่วนประกอบในการผลิตชาไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องทำตามมาตรฐาน-คุณภาพต่างๆ ให้เป็นไปตามที่กำหนดอย่างเคร่งครัด จุดประเด็นอันน่าสนใจว่า คุณพัชรพรรณ กลิ่นผา หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.สมบูรณ์และบุตร (บริษัทฯ) มีการบริหารจัดการเครือข่ายเกษตรกรปลูกตะไคร้อย่างไร ให้ประสบความสำเร็จจนสามารถส่งออกสินค้าไปยังประเทศเยอรมนี ยาวนานกว่า 30 ปี

คุณพัชรพรรณ กลิ่นผา หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.สมบูรณ์และบุตร

ธุรกิจครอบครัว (Family Business) จากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก

คุณพัชรพรรณ เผยว่า ธุรกิจ Supply ปลูกตะไคร้เพื่อนำใบมาอบแห้งแล้วส่งออก เริ่มต้นจากคุณพ่อเมื่อประมาณ 40 ปีที่แล้ว โดยอดีตเป็นทหารแล้วลาออกจากราชการ มาทำงานเป็นล่ามที่แอร์อเมริกา ต่อมาได้มาเป็นล่ามให้กับชาวเยอรมันที่จัดซื้อพืชสมุนไพรส่งไปเยอรมัน หลังจากนั้นชาวเยอรมันคนดังกล่าวได้ลาออก คุณพ่อจึงทำหน้าที่ส่งออกพืชสมุนไพรไปเยอรมันแทน

ซึ่งช่วงแรกๆ พืชที่ส่งออกจะเป็นกระเจี๊ยบแดง มียอดส่งออกเยอะมาก มีมะขามแขกบ้าง ได้ทำการส่งออกเรื่อยมาประมาณ 20 ปี ต่อมากระเจี๊ยบแดงในไทยมีราคาสูงขึ้น สินค้าจากโซนภูมิภาคอื่น เช่น ทวีปแอฟริกามีราคาถูกกว่า ทำให้การนำเข้ากระเจี๊ยบแดงจากไทยเริ่มลดน้อยลง ต่อมาบริษัทจากเยอรมันที่นำเข้ากระเจี๊ยบแดงได้ขายกิจการไปให้อีกบริษัทชาติเดียวกัน จึงย้ายการส่งออกของ หจก.สมบูรณ์และบุตร ไปยังบริษัทที่เทกโอเวอร์ด้วย จากนั้นคอมพานีสัญชาติเยอรมันจึงเสนอให้คุณพ่อผลิตใบตะไคร้แห้ง โดยช่วงแรกจะเป็นแบบบดละเอียด ก่อนที่ช่วงหลังจะเปลี่ยนมาเป็นการหั่นยาวประมาณ 1 เซนติเมตรจนถึงปัจจุบัน

“หจก.สมบูรณ์และบุตร คือแหล่งรวบรวมผลผลิตเพื่อส่งออก โดยกระบวนการผลิตต่างๆ ตั้งแต่การปลูกไปจนถึงการอบแห้งจะเสร็จสิ้นมาจากเครือข่ายเกษตรกร จากนั้นบริษัทจะนำมาใส่แพ็กเกจจิ้งแล้วส่งออก”

ต่างประเทศนำ “ตะไคร้อบแห้ง” ไปทำอะไร?

หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.สมบูรณ์และบุตร กล่าวว่า บริษัทที่นำเข้าจากประเทศเยอรมันจะนำตะไคร้ของทางบริษัทและเครือข่ายเกษตรกรไปทำเป็นส่วนประกอบของชาเพื่อชงดื่ม เนื่องจากประเทศทางทวีปยุโรปเป็นเมืองหนาว จึงนิยมดื่มชาซึ่งมีส่วนผสมหลายชนิด มีตะไคร้อบแห้งเป็นส่วนหนึ่งในนั้น ก่อนนำไปผลิตแล้วแพ็กเกจจิ้งเพื่อจำหน่ายเป็นผลิตภัณฑ์ชา โดยส่วนใหญ่บริษัทส่งออกตะไคร้อบแห้งเป็นหลัก จะมีอัญชันบ้างตามออร์เดอร์ที่ลูกค้าสั่ง

ทำอย่างไร? ให้สินค้าได้คุณภาพตามมาตรฐานบริษัทนำเข้าจากเยอรมัน

ในเรื่องนี้ คุณพัชรพรรณ อธิบายว่า บริษัทที่รับซื้อตะไคร้อบแห้งจาก หจก.สมบูรณ์และบุตร จะมีมาตรฐานที่เรียกว่า “มาบาโกรน” (Mabagrown) ซึ่งทางเราและเครือข่ายเกษตรกรจะต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เช่น จะต้องทำอะไร-ดูแลอะไรบ้างทั้งระบบ โดยทุก 3-4 ปี ทางบริษัทนำเข้าจากเยอรมันจะส่งทีมงานมา Audit ที่ไทย โดยจะทำการตรวจสอบทั้งโรงงานที่ลพบุรีและเครือข่ายเกษตรกร นอกจากนี้ ในทุกๆ ปี จะต้องทำ Internal Audit โดยใช้ระบบประเมินผลเกษตรกรรายย่อย (Learning Management System : LMS) ที่ทางเยอรมันส่งมาให้ หากใครไม่ผ่านการประเมิน ต้องทำการแก้ไข

“เกษตรกรที่ปลูกตะไคร้ต้องมีการจดบันทึกทุกอย่าง เช่น ปลูก-ใส่ปุ๋ยวันไหน ปริมาณเท่าไร รดน้ำถางหญ้าวันใด ซึ่งเวลาบริษัทจากเยอรมันมา Audit จะมีการขอดูข้อมูลทั้งจากทางเราและเกษตรกร ซึ่งเกษตรกรที่จะมาทำตรงนี้ต้องมีการปรับตัวมากพอสมควร นอกจากนี้ เวลาที่บริษัทนำเข้ามา Audit จะไม่ได้ตรวจสินค้าหรือขอดูข้อมูลเท่านั้น แต่ยังมีการตรวจสถานที่ผลิต โรงเก็บผลผลิต ดูความสะอาดรอบบ้าน ตรวจสอบรอบแปลงปลูก ให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางชีวภาพ คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมต่างๆ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การจัดการขยะอย่างถูกสุขลักษณะ รวมถึงการจ้างแรงงานอย่างเป็นธรรม ซึ่งนี่ไม่ใช่การซื้อมาขายไปปกติ แต่เป็นสิ่งที่เราต้องทำมาตรฐานให้ได้”

โดยกระบวนการปลูกตะไคร้บริษัทจะเน้นตั้งแต่การเลือกแปลงปลูกต้องมีการเข้าไปตรวจสอบ เช่น ข้างๆ แปลงปลูกมีการปลูกพืชอะไร มีการใช้ยาฆ่าแมลงหรือเปล่า บริษัทต้องเข้าไปบริหารจัดการความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นกับสินค้า ถ้าเลี่ยงไม่ได้ต้องปลูกพืชกันชน ป้องกันยาฆ่าหญ้า-ยาฆ่าแมลงไม่ให้ไหลเข้าหรือลมพัดเข้าแปลงปลูกตะไคร้ ส่วนการรดน้ำที่นั่นจะใช้น้ำบาดาล ถ้าเป็นน้ำคลองอาจมีการปนเปื้อนของสารเคมีต่างๆ นอกจากนี้ ยังต้องตรวจสารตกค้างในดินแล้วส่งผลให้บริษัทจากเยอรมันรับทราบด้วย

ขณะที่การใส่ปุ๋ยจะต้องแจ้งว่าเกษตรกรใช้ปุ๋ยอะไร มีส่วนผสมอะไรบ้าง มีการดูปริมาณการใช้ว่ามากน้อยเพียงใด ดังนั้น จึงต้องมีการถ่ายรูปถุงบรรจุปุ๋ยส่ง ถ้าข้างถุงไม่บอกส่วนผสมต้องโทร.ไปสอบถามบริษัทจำหน่ายปุ๋ยว่าส่วนผสมมีอะไรบ้าง ต้องขอใบรับรองแล้วส่งให้บริษัทนำเข้าจากเยอรมัน แต่สิ่งที่ห้ามใช้คือ ปุ๋ยที่ทำจากกากตะกอนน้ำเสีย นอกจากนี้ หจก.สมบูรณ์และบุตร ยังต้องมีการเตรียมถุงให้เกษตรกรสำหรับเก็บสินค้า ใช้บรรจุตะไคร้เท่านั้น ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับถุงปุ๋ยใบใหญ่ เนื่องจากบริษัทรับซื้อจากเยอรมันห้ามนำถุงปุ๋ยที่ใช้แล้วนำมาล้างตากแห้งแล้วนำมาใช้ใหม่ ต้องใช้ถุงเฉพาะที่จัดให้เท่านั้น

สำหรับสินค้าที่เราส่งออกทางบริษัทที่รับซื้อจะนำไปสุ่มตรวจสารตกค้างนับ 100 ชนิด แต่สำหรับกระบวนการผลิตตะไคร้อบแห้งนั้น หจก.สมบูรณ์และบุตร จะเป็นผู้ควบคุม เช่น การนำดินไปตรวจ แล้วส่งผลตรวจดินให้ทางบริษัทจากเยอรมันรับทราบ การห้ามใช้ยาฆ่าหญ้า ยาฆ่าแมลงต่างๆ โดยตะไคร้อบแห้งที่ทางเราส่งออกจะมาจากเครือข่ายเกษตรกรที่มีการลงทะเบียนกับบริษัทนำเข้าจากเยอรมัน ไม่ได้รับซื้อโดยทั่วไป

ปัจจุบันมีเครือข่ายเกษตรกรจำนวนเท่าไร

คุณพัชรพรรณ บอกว่า ปัจจุบันมีเครือข่ายเกษตรกร 20 ราย มีพื้นที่ปลูกตะไคร้รวมกัน 80 ไร่ โดยเป็นเกษตรกรในจังหวัดกำแพงเพชร เนื่องจากพื้นที่มีความเหมาะสม มีน้ำตลอดปี ดินร่วนปนทราย อากาศไม่เย็นจนเกินไป ส่งผลให้มีการปลูกตะไคร้ค่อนข้างเยอะ ซึ่งออร์เดอร์จากบริษัทนำเข้าจากเยอรมันจะอยู่ที่ 100 ตันต่อปี โดยเกษตรกรจะมีรายได้จากการปลูกตะไคร้ใบเฉลี่ยประมาณ 10,000 บาทต่อไร่ (ยังไม่หักค่าใช้จ่าย และการบริหารต้นทุนต่างๆ)

“ในไทยตะไคร้จะใช้ลำต้นนำไปประกอบอาหาร แต่ต่างประเทศจะใช้ใบนำไปผลิตชา ดังนั้น ทางเราและเครือข่ายจึงปลูกตะไคร้แบบตัดใบโดยใช้เวลาปลูกประมาณ 3-4 เดือน ก็เริ่มตัดใบเพื่ออบแห้งแล้วนำไปจำหน่ายได้ จากนั้นรดน้ำประมาณ 1 เดือน ตะไคร้ก็จะแตกใบขึ้นมาใหม่ สามารถเก็บเกี่ยวได้ทั้งปี ทำให้มีรายได้สม่ำเสมอ เสมือนเป็นเงินเดือนสำหรับเกษตรกร”

หน้าที่ “หจก.สมบูรณ์และบุตร” คืออะไร?

คุณพัชรพรรณ เล่าว่า บริษัทและเครือข่ายเกษตรกรถือเป็นซัพพลายเชนแข็งแรง โดย หจก.สมบูรณ์และบุตร ไม่ใช่แค่รวบรวมผลผลิต แต่ต้องดูแลเกษตรกร ให้ความรู้ในการทำสิ่งที่ถูกต้อง ควรใช้วิธีอะไร และต้องทำอย่างไรในการปลูกตะไคร้บ้าง สิ่งใดที่ควรทำ และสิ่งใดที่ห้ามทำ

โดยหากเป็นเรื่องใหญ่หรือวาระสำคัญมากๆ ทีมงานจากเยอรมันจะมาทำการอบรมให้ที่ประเทศไทย แต่ถ้าเป็นเรื่องปลีกย่อย หรือสิ่งที่ควรรู้จะมีการส่งเอกสารมาให้ หจก.สมบูรณ์และบุตร แล้วเราก็นำไปอธิบาย-อบรมเกษตรกรต่อ เป็นหัวข้อ Training ที่จะต้องบันทึกไว้เวลาเขามาตรวจ โดยการอบรมต้องมีการบันทึกรายละเอียด เช่น เรื่องอะไร วันที่เท่าไร มีคนเข้าร่วมประชุมกี่คนเป็นใครบ้าง ต้องลงลายมือชื่อไว้ด้วย และเรื่องที่อบรมมีสาระสำคัญอะไรบ้าง เป็นต้น

“สิ่งแวดล้อม” เทรนด์โลก เรื่องใกล้ตัวเกษตรกรไทยกว่าที่คิด

สำหรับเรื่องนี้ คุณพัชรพรรณ ให้ความรู้ว่า ปัจจุบันกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรมีเรื่องที่ต้องปรับตัวและเปลี่ยนแปลงก็คือ เรื่องสิ่งแวดล้อม (Go Zero) ลดการเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เหลือสุทธิเป็นศูนย์ ภายปี 2050 เนื่องจากสหภาพยุโรป (อียู) กำลังให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก มีการกำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่ทางเราต้องปฏิบัติตาม ซึ่งเป็นกฎใหม่ที่เพิ่งออกมาในปีนี้ โดยให้บริษัทนำเข้าจากเยอรมันจะให้ หจก.สมบูรณ์และบุตร วางแผนว่าจะลดการเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของซัพพลายเชนอย่างไร เช่น ใน 10 ปีนี้วางแผนจะทำอะไร และต่อๆ ไป จะวางแผนเช่นไร ซึ่งขณะนี้ทางเราก็ได้มีการขานรับนโยบายดังกล่าวแล้ว เช่น ลดการใช้น้ำมัน เช่น การใช้เครื่องตัดหญ้า เครื่องหั่น (ปรับเปลี่ยนเครื่องใช้น้ำมันมาใช้ไฟฟ้าทั้งหมด) หรือเครื่องสูบน้ำจากใช้น้ำมัน ก็มีแผนจะเปลี่ยนมาใช้พลังงานจากโซลาร์เซลล์ เป็นต้น

จากการเกษตรแบบดั้งเดิมเมื่อต้องเปลี่ยนมาผลิตสินค้าเพื่อให้ตอบโจทย์การเป็น Supply บริษัทนำเข้าตะไคร้อบแห้งสัญชาติเยอรมัน เกษตรกรไทยต้องมีการปรับตัวเยอะพอสมควร นอกจากนี้ ยังต้องมีการบริหารจัดการให้เป็นระบบอย่างจริงจังด้วย ซึ่ง คุณพัชรพรรณ กลิ่นผา หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.สมบูรณ์และบุตร ได้พิสูจน์ให้คอมพานีจากเยอรมันเห็น จนเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจในคุณภาพมาตรฐานการผลิตมายาวนานกว่า 30 ปี ซึ่งในอนาคตยังมีแพลนร่วมกันในการสรรหาพืชชนิดอื่นๆ มาปลูกเพิ่มเติม เพื่อผลิตชารสชาติใหม่ๆ ออกมาตอบโจทย์ความต้องการคอชาทั่วยุโรป

________________________________________

Bangkok Bank SME เราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ

สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพ คลิกหรือสายด่วน 1333