เปิดมุมมองทายาทธุรกิจสานต่อแนวคิด Business Transformation

เปิดมุมมองทายาทธุรกิจสานต่อแนวคิด Business Transformation ของผู้ผลิตฉลากบรรจุภัณฑ์คุณภาพ จาก ‘ถาวร เลเบิล แอนด์ ริบบอน’

‘บริษัท ถาวร เลเบิล แอนด์ ริบบอน จำกัด’ ผู้สร้างสรรค์งานพิมพ์คุณภาพและได้มาตรฐาน ทั้งยังพัฒนาคุณภาพระบบการผลิต ควบคู่ไปกับบุคลากร ประกอบกับความพร้อมของอุปกรณ์ทันสมัยที่ใช้ในกระบวนการผลิตชิ้นงาน จึงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าให้ผลิตฉลากติดชิ้นงานทุกประเภท ตั้งแต่สินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภค ไปจนถึงสินค้าเกี่ยวกับยานยนต์

คุณเชาว์วิทย์ ชลชลาธาร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ถาวร เลเบิล แอนด์ ริบบอน จำกัด เปิดเผยว่า ในอดีตธุรกิจครอบครัว (Family Business) ของตนเอง ดำเนินกิจการเกี่ยวกับโรงงานผลิตป้ายติดเสื้อผ้า หรือริบบิ้นไซส์เสื้อผ้า เพื่อซัพพลายอุตสาหกรรมผลิตเสื้อผ้าภายในประเทศ ต่อมา เมื่ออุตสาหกรรมผู้ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป ทยอยย้ายฐานการผลิตจากประเทศไทยออกไปตั้งโรงงานในต่างประเทศ จึงนำมาสู่การสร้างธุรกิจใหม่ (Business Transformation) โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจ ไปรับงานผลิตสติ๊กเกอร์ฉลากสินค้าที่ใช้กับบรรจุภัณฑ์ ซึ่งในขณะนั้น กลุ่มอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์สินค้าในประเทศไทยกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น บริษัทจึงตัดสินใจลงทุนเครื่องจักรและเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตสติ๊กเกอร์ฉลากสินค้าเพื่อรองรับดีมานด์ดังกล่าว โดยสามารถผลิตงานพิมพ์คุณภาพ ที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้าชั้นนำในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ได้อย่างครอบคลุม อาทิ ยารักษาโรค เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เครื่องดื่ม น้ำมันเครื่อง และยางรถยนต์ เป็นต้น

เรื่อง ‘ยุทธศาสตร์’ สร้างความสามารถในการแข่งขัน : เนื่องจากในช่วงที่บริษัทปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจมารับงานผลิตฉลากสินค้า อุตสาหกรรมนี้มีตลาดที่ใหญ่และเริ่มมีดีมานด์เพิ่มสูงขึ้น สอดคล้องกับบริษัท มีการลงทุนด้านการพัฒนาระบบบริหารจัดการที่ได้มาตรฐานคุณภาพระดับสากล เช่น ISO 9001 ซึ่งเป็นมาตรฐานระบบคุณภาพที่กำกับดูแลทั้งการออกแบบ และพัฒนาการผลิต การติดตั้ง และการบริการ การันตีถึงคุณภาพและประสิทธิภาพที่ดีของการดำเนินงานภายในองค์กร รวมทั้ง มีมาตรฐาน HACCP / GMP การันตีถึงการควบคุมกระบวนการผลิต และการจัดการด้านสุขลักษณะของอาคาร สถานที่การผลิต ตลอดจนเครื่องจักรและอุปกรณ์ ทั้งนี้ ด้วยการมีมาตรฐานสากลดังกล่าว ทำให้บริษัทได้รับการยอมรับว่ามีระบบการทำงานที่มาตรฐานและเป็นมืออาชีพ ส่งผลให้บริษัทสามารถจับกลุ่มตลาด B2B หรือลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ได้เป็นอย่างดี เพราะลูกค้าเหล่านี้มีความเชื่อมั่นในมาตรฐานการดำเนินงานของบริษัทด้วยดีเสมอมา

ตนเองเป็นทายาทธุรกิจรุ่นที่ 2 เข้ามาบริหารธุรกิจครอบครัวต่อจากรุ่นก่อตั้ง ซึ่งคุณลุงและคุณพ่อได้เริ่มทำมาตรฐานสากล และระบบบริหารงานคุณภาพเอาไว้ จึงทำให้มีความคล่องตัวในการ Business Transformation ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงการดำเนินธุรกิจหรือการปรับโฉมธุรกิจใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ในการแข่งขันของบริษัทได้ดียิ่งขึ้น ระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา บริษัทจะต้องเจอกับความท้าทาย ทั้งการเกิดขึ้นของผู้เล่นหน้าใหม่ที่มีเพิ่มมากขึ้น หรือการแข่งขันที่มีการหั่นราคา แต่บริษัทยังมีกลยุทธ์ในการทำกำไรและทำให้สามารถฝ่าฟันกับอุปสรรคต่างๆ เหล่านี้ได้ ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมกับมองหาตลาดใหม่ ให้เป็นช่องทางในการสร้างความมั่นคงและเป็นการกระจายความเสี่ยงในธุรกิจด้วย

คุณเชาว์วิทย์ ชลชลาธาร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ถาวร เลเบิล แอนด์ ริบบอน จำกัด

คุณเชาว์วิทย์ กล่าวว่า พร้อมกันนี้ บริษัทยังมีทิศทางการขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่ความยั่งยืนในอนาคต โดยมี 2 เรื่องหลัก ดังนี้

1. ด้านเทคโนโลยี ล่าสุดบริษัทได้พัฒนา Smart label หรือฉลากอัจฉริยะ ซึ่งเป็นการใช้เทคโนโลยีซอฟต์แวร์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลบนแพ็กเกจจิ้ง สร้างประโยชน์ต่อผู้บริโภคให้เกิดความสะดวกสบาย ด้วยการสแกน QR code เพื่อให้รู้ข้อมูลของสินค้ามากขึ้น

2. ด้านความยั่งยืน (Sustainability) บริษัทตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม มุ่งส่งเสริมด้านองค์ความรู้และปลูกฝังให้พนักงานตระหนักถึงเรื่องดังกล่าวไปพร้อมกันด้วย ซึ่งเมื่อนำเอาแนวคิดด้านเทคโนโลยีมาพัฒนาสินค้า ก็จะช่วยให้สอดรับกับเรื่องสิ่งแวดล้อม เกิดเป็นธุรกิจสำหรับจับกลุ่มตลาดใหม่ที่สร้างกำไรได้ดียิ่งขึ้น แม้จะอยู่ในสภาวะการแข่งขันที่รุนแรง

“เพราะเราเชื่อว่าเทรนด์ดิจิทัลที่เข้ามาจะดิสรัปต์ หรือสร้างการเปลี่ยนแปลงในทุกอุตสาหกรรม ไม่เว้น ดังนั้น เราจึงได้พัฒนา Smart Label หรือฉลากอัจฉริยะขึ้นมาเพื่อช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลของสินค้าได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่เจ้าของแบรนด์เอง ก็จะสามารถใช้เป็นช่องทาง Marketing สื่อสารไปหาลูกค้าผ่านฉลากสินค้าได้อย่างสะดวก

โดย Smart Label ที่เราพัฒนาขึ้น ยังมีจุดเด่นในเรื่องการป้องกันการปลอม โดยการใช้สติ๊กเกอร์ QR Code กันปลอม ที่จะมีเพียง 1 เดียวบนโลก เปรียบเสมือนบัตรประจำตัวของสินค้านั้นๆ ทำให้เราสามารถตรวจสอบสินค้าได้ว่าเป็นของแท้หรือปลอมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพียงแค่ใช้สมาร์ทโฟนสแกน  ยังสามารถเพิ่มรูปแบบอื่นๆ ใน QR Code เช่น ข้อมูลและคุณประโยชน์ของสินค้า เป็นต้น”

อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์นั้น ฉลากบรรจุภัณฑ์มีหน้าที่สำคัญอย่างยิ่งในการให้ข้อมูล หรือรายละเอียดเพื่อให้ผู้บริโภครู้จักผลิตภัณฑ์ ทั้งยังช่วยในการส่งเสริมการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีการเกิดขึ้นของฉลากในรูปแบบต่างๆ มากมาย จึงทำให้ลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมมีการปรับเปลี่ยนฉลากที่ใช้ติดบรรจุภัณฑ์ไปตามยุคสมัย ซึ่งปัจจุบันฉลากที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ประกอบด้วย

1. ฉลากสติกเกอร์ รูปแบบนี้ผู้ประกอบการ SME สามารถเข้าถึงได้ง่ายเพราะมีราคาไม่สูงมาก แต่อาจนำบรรจุภัณฑ์ไปรีไซเคิลได้ยาก เพราะสติ๊กเกอร์จะทิ้งคราบกาวไว้ ดังนั้น จึงต้องล้างทำความสะอาดคราบกาวและแกะฉลากออกให้เรียบร้อย จึงจะนำบรรจุภัณฑ์ไปใช้ต่อได้

2. ฉลากฟิล์มรัด ชนิดนี้ทำจากแผ่นฟิล์มพลาสติก PVC หรือ PET เป็นปลอกสวมลงบนบรรจุภัณฑ์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นขวดพลาสติก หรือขวดแก้ว ซึ่งมีข้อดีคือสามารถนำไปรีไซเคิล หรือรียูสได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องล้างคราบกาวที่ติดอยู่บนบรรจุภัณฑ์

3. ฉลากในตัวบรรจุภัณฑ์ หรือที่เรียกว่า In-Mould คือการทำฉลากในตัวบรรจุภัณฑ์โดยเครื่องจักรไดโมจะทำไปพร้อมกับการปั้นแม่แบบเลย ทำให้งานฉลากในตัวมีความพรีเมียมสวยงามมากขึ้น สร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าได้มากขึ้น

“เทรนด์การใช้การออกแบบฉลากบรรจุภัณฑ์ ในปัจจุบัน ลูกค้าเริ่มให้ความสำคัญและต้องการเปลี่ยนจากฉลากแบบสติ๊กเกอร์ไปใช้ฉลากฟิล์มรัด และฉลากในตัวบรรจุภัณฑ์มากขึ้น ดังนั้น ในฐานะซัพพลายเชน จึงมีการปรับตัวและพัฒนาบริการให้สอดรับกับเทรนด์ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เรามีการซัพพลายรูปแบบฉลากแบบ In-Mould ให้กับลูกค้าแล้วหลายราย ส่วนฉลากฟิล์มรัดยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการวิจัยและพัฒนาเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในอนาคต ในขณะที่โรงงานผู้ผลิตสติ๊กเกอร์ต้นทาง มีความพยายามที่จะพัฒนานวัตกรรมการผลิตสินค้าใหม่ให้สอดคล้องกับเทรนด์สิ่งแวดล้อมด้วยเช่นเดียวกัน อาทิ การทำสติ๊กเกอร์ให้สามารถลอกออกง่าย สะดวกต่อการนำบรรจุภัณฑ์ไปใช้ซ้ำอย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนยุ่งยาก”

คุณเชาว์วิทย์ กล่าวในช่วงท้ายว่า ในฐานะทายาทธุรกิจรุ่น 2 เมื่อมีโอกาสได้เข้ามาบริหารกิจการที่เป็นธุรกิจครอบครัว ได้เห็นมุมมองของผู้บริหารรุ่นก่อตั้งที่วางกลยุทธ์ทางธุรกิจไว้เป็นอย่างดี ทั้งยังมีปัจจัยสำคัญหลายอย่างที่ทำให้องค์กรเติบโต และเดินหน้ามาได้ยาวนานถึง 35 ปี ตนเองจึงมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะสืบทอดธุรกิจครอบครัวให้ประสบความสำเร็จ และสร้างความยั่งยืนในธุรกิจรุ่นต่อไป จึงอยากฝากไปยังผู้ประกอบการ SME ท่านอื่นๆ ให้เห็นความสำคัญของการปรับตัว และตามเทรนด์การเปลี่ยนแปลงของโลกให้ทันตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการ Upskill เพิ่มทักษะที่มีอยู่เดิม ด้วยองค์ความรู้ใหม่ๆ นำไปสู่การทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือ Reskill สร้างทักษะขึ้นมาใหม่ที่จำเป็นต่อการทำงาน รวมถึงต้องมีวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจที่กว้างไกล พร้อมเปิดใจรับสิ่งใหม่ให้ทันต่อสถานการณ์ และต้องพร้อมที่จะทรานส์ฟอร์มตัวเองอยู่เสมอ

ตัวอย่างธุรกิจของ ‘คุณเชาว์วิทย์ ชลชลาธาร’ เป็นตัวอย่างให้เห็นได้ชัดว่าผู้ประกอบการธุรกิจ SME ต้องรู้จักศึกษาโมเดล Business Transformation เอาไว้ เพื่อเตรียมความพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงและแสวงหาโอกาสใหม่ให้ได้อยู่เสมอ

สามารถติดตามอ่านเรื่องราวดีๆ รวมไปถึงบทความที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่จะช่วยให้ข้อคิด แนวคิด และเคล็ดลับในการบริหารธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้ที่ www.Bangkokbanksme.com

รู้จัก ถาวร เลเบิล แอนด์ ริบบอน’ เพิ่มเติม https://thavornlabels.com/about/

#SmartLabel #ถาวรเลเบิลแอนด์ริบบอน #BusinessTransformation #bangkokbank #bangkokbanksme #sme #SMEInFocus