ใช้ปุ๋ยหมักมูลสุกร-ปลูกแนว 90 องศา เทคนิคปลูกมะม่วง ‘งามเมืองย่า’ ดกทั้งปี

หลังจาก “กิจติกร กีรติเรขา” อดีตข้าราชการครูใน ตำบลสะแกราช อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ได้ผันตัวมาเป็นเกษตรกรปลูกมะม่วงพันธุ์งามเมืองย่า บนเนื้อที่ 44 ไร่ เขาพยายามทุกวิถีทางในการพัฒนาสวนมะม่วงเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี โดยเน้นเรื่องเกษตรอินทรีย์ ในที่สุดเขาเลือกวิธีการให้ปุ๋ยหมักจากมูลสุกรมาฉีดพ้นบริเวณลำต้นและใบ ทำให้ต้นมะม่วงได้รับสารอาหารเต็มที่ และออกผลได้ตลอดทั้งปี

กิจติกร เล่าว่า หลังจากอำลาชีวิตครูมาเป็นเกษตรกรเต็มตัวแล้ว ได้ตัดสินใจใช้พื้นที่ 44 ไร่ ที่อยู่ใน ตำบลสะแกราช อำเภอปักธงชัย มาปลูกมะม่วงพันธุ์งามเมืองย่า เป็นมะม่วงที่มีคุณสมบัติพิเศษ ลูกใหญ่ มีน้ำหนักกว่า 1 กิโลกรัม รสชาติหอม หวาน อร่อย ปัจจุบัน กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะแถบรัสเซีย รวมถึงตลาดระดับบนของประเทศไทยด้วย โดยเฉพาะในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ

เขาเล่าอีกว่า มะม่วงงามเมืองย่า จะเน้นเกษตรอินทรีย์ หรือระบบออร์แกนิก ไร้สารเคมีในทุกขั้นตอน ทำให้เป็นสินค้าเกษตรยอดนิยม และสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศกว่า 28 ล้านบาท ต่อปี แต่ปัจจุบันปุ๋ยอินทรีย์ที่ใช้ในกระบวนการผลผลิตมะม่วงงามเมืองย่ากำลังประสบปัญหาสารปนเปื้อน ประกอบกับใกล้ช่วงฤดูฝนลำต้นเกิดเชื้อราจากอากาศที่ชื้นและยังก่อให้เกิดการเน่าในภายในลำต้น ทำให้ต้องเร่งพัฒนาปุ๋ยเพื่อเป็นภูมิคุ้มกันให้แก่ต้นมะม่วง กระทั่งพบว่าการนำปุ๋ยหมักจากมูลสุกรมาฉีดพ้นบริเวณลำต้นและใบ จะทำให้ต้นมะม่วงได้รับสารอาหารเต็มที่ ออกผลได้ตลอดทั้งปี

“ปัจจุบันการปลูกมะม่วงงามเมืองย่า ผมได้คิดค้นการเพาะปลูกแบบใหม่ คือ ปลูกแบบระยะชิด คือ 2×2 เมตร พื้นที่ 1 ไร่ ปลูกได้ 400 ต้น ปลูกเอียงในแนว 90 องศาตะวันออก ซึ่งในแนวทางนี้จะทำให้ต้นมะม่วงออกผลมากกว่าเดิมเกือบเท่าตัว และความสูงของต้นเมื่อเก็บผลก็จะสะดวกกว่าต้นที่ปลูกแบบตั้งปกติ ซึ่งแนวทางนี้ได้ใช้ระยะเวลานานกว่า 15 ปี” กิจติกร กล่าว

เรื่องการดูแลสวนมะม่วงพันธุ์งามเมืองย่า อยากให้เกษตรกรหันมาปรับเปลี่ยนในเรื่องของเคมี ให้มาเป็นเกษตรอินทรีย์ โดยการใช้น้ำมูลสุกรนำมาฉีดพ่นที่ลำต้นและใบของมะม่วง ซึ่งจะทำให้มะม่วงออกผลตลอดทั้งปี โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีในการลดหรือการเร่งออกผลแต่อย่างใด จากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน ที่มีผลวิจัยออกมาว่า น้ำมูลสุกรมีปริมาณไนโตรเจนที่สูง ดังนั้น เมื่อนำมารดต้นมะม่วงงามเมืองย่าก็จะทำให้ต้นมะม่วงติดผลอยู่เรื่อยๆ และอีกวิธีหนึ่งที่ได้นำผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ดีปลี และพริกไทย มีสารในการช่วยป้องกันและการจัดการของโรคแอนแทรกโนส หรือ โรคเน่าใน จึงนำดีปลีมาปลูกไว้ที่บริเวณใต้ต้นมะม่วง เพื่อให้สารจากดีปลีซึมเข้าไปยังในเปลือกของมะม่วง ทำให้มะม่วงไม่เน่าเสีย ยังสามารถเก็บผลของดีปลีและพริกไทยไปจำหน่ายในกิโลกรัมละ 100 บาท

ซึ่งแต่ละปีทำให้สวนมะม่วงงามเมืองย่า สามารถเก็บผลดีปลีและพริกไทยที่ปลูกใต้ต้นมะม่วงจาก 400 ต้น กว่า 4,000 กิโลกรัม รวมมูลค่ากว่า 4 แสนบาท เป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับเกษตรกรที่ปลูกมะม่วงเอาแนวอย่าง “กิจติกร กีรติเรขา” ทั้งเอาปุ๋ยหมักจากมูลสุกรมาฉีดต้นมะม่วง และการปลูกในแนว 90 องศา เพราะพิสูจน์ได้ระดับหนึ่งแล้วว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจ

วันอังคารที่ 17 มีนาคม พ.ศ.2563


สำหรับแฟนๆ นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน หากต้องการนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านรายปักษ์ ส่งตรงถึงบ้าน รวดเร็วทันใจอ่านได้ในทุกๆ 15 วัน สามารถสมัครสมาชิกได้ที่ คลิกลิ้ง https://shorturl.asia/0zJwQ 📲- Line: @matichonbook หรือ สำนักพิมพ์มติชน เลขที่ 12 ถนนเทศบาลนฤมาล หมู่บ้านประชานิเวศน์ 1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 ติดต่อฝ่ายขาย 02-589-0020 ต่อ 3354