เลิกทำพืชไร่ หันมาปลูกหน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์ มีรายได้ดี ปลดหนี้ได้สบาย

“หน่อไม้ฝรั่ง” ชื่อก็บอกชัดเจนว่าไม่ใช่หน่อไม้ของไทย เป็นพืชดั้งเดิมทางทวีปเอเชียและยุโรป ภายหลังหน่อไม้ฝรั่งเข้ามาในไทยได้มีการปรับปรุงพันธุ์ให้มีความสอดคล้องและเหมาะสมกับสภาพพื้นที่และสภาพอากาศ สามารถปลูกได้หลายพื้นที่ทั่วประเทศ

หน่อไม้ฝรั่งที่ตัดตามขนาดแล้วแพ็กใส่ห่อ

ผลผลิตหน่อไม้ฝรั่งมีราคาดีในช่วงแรก จนต้องสนับสนุนและส่งเสริมปลูกในพื้นที่หลายแห่ง กระทั่งราคาหล่นลงมา จากนั้นชาวบ้านก็ปลูกหน่อไม้ฝรั่งเช่นเดียวกับผักชนิดอื่นโดยนำไปขายตามตลาดทั่วไปในราคาไม่แพง

แต่ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งที่ตำบลท่าดินดำ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี รวมตัวกันปลูกหน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์เพราะมองว่าน่าจะมีราคาสูงเพราะไม่ค่อยมีขาย ทั้งที่มีตลาดผู้บริโภคต้องการ โดยเฉพาะตลาดสุขภาพในและต่างประเทศ

คุณสมบัติ กับเจ้าหน้าสำนักงานเกษตรอำเภอชัยบาดาล

ขณะเดียวกัน แนวทางอินทรีย์เป็นเรื่องยุ่งยาก กับยังต้องใช้เวลามากกว่า จึงทำให้ตลาดของสินค้าชนิดนี้ไม่มีคู่แข่ง ผลจากความสำเร็จของชาวบ้านกลุ่มนี้ช่วยให้พวกเขามีรายได้ดีจากการขายหน่อไม้ฝรั่ง แล้วบางรายสามารถปลดหนี้สินที่มีมายาวนานได้

คุณสมบัติ เตร์มี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ที่ 5 ตำบลท่าดินดำ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี หนึ่งในชาวบ้านที่ประสบความสำเร็จจากการปลูกหน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์ ช่วยให้ครอบครัวมีสถานะการเงินที่ดีขึ้น แล้วยังสามารถทยอยปลดหนี้ที่มีอยู่ได้อย่างสบาย

ก่อนมาปลูกหน่อไม้ฝรั่ง คุณสมบัติเคยผ่านการทำไร่อ้อยในพื้นที่ 700 กว่าไร่ ยิ่งทำนานวันพื้นที่ยิ่งลดลงเพราะประสบปัญหาขาดทุน กระทั่งในท้ายที่สุดต้องกู้เงินมาทำ แล้วไปต่อไม่ได้จึงทำให้มีหนี้สินถึง 2 ล้านบาท

คุณสมบัติ ตัดหน่อไม้ฝรั่งในแปลง

จากนั้นเปลี่ยนมาทำเกษตรแบบพอเพียง เก็บพืชผักขายพอมีกิน มีใช้ แต่เคลียร์หนี้ไม่ได้ ครั้นไปเห็นเพื่อนบ้านปลูกหน่อไม้ฝรั่ง แต่ช่วงแรกยังไม่สนใจเพราะไม่แน่ใจว่าจะเสี่ยงหรือไม่ จนมาพบแปลงหน่อไม้ฝรั่งของประธานกลุ่มที่จัดทำแปลงปลูกได้มีระเบียบ สะอาด จัดการปลูกได้มีประสิทธิภาพจนทำให้ได้ผลผลิตสมบูรณ์ มีรายได้สูง จึงเปลี่ยนความคิดคุณสมบัติให้หันมาลองปลูกหน่อไม้ฝรั่ง

ชาวบ้านในกลุ่มจัดเตรียมแปลงปลูกแบบร่องคู่

 

คุณสมบัตินำเทคนิคหลายอย่างมาปรับปรุงวิธีปลูกหน่อไม้ฝรั่งของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประสบการณ์จากการปลูกพืชไร่ ได้พัฒนาวิธีปลูกแบบร่องคู่เป็นรายแรกในพื้นที่ เพราะแนวทางนี้จะได้จำนวนต้นมากกว่า แล้วเน้นให้ความสำคัญกับระยะปลูกและความลึกเป็นพิเศษ

คุณสมบัติปลูกหน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์มา 4 ปี บนพื้นที่ปลูก 3 ไร่ ตอนปลูกเริ่มแรกไปเก็บเมล็ดพันธุ์จากเพื่อนบ้านมาปลูกก่อน ใช้พันธุ์บร็อคอินพรู๊ฟปลูก พันธุ์นี้ได้รับการปรับปรุงเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพอากาศในไทย มีคุณสมบัติแข็งแรง ขนาดใหญ่ และทน

“ไม่ได้ซื้อเมล็ดพันธุ์ แต่ใช้ผลแก่สุกสีแดงของหน่อไม้ฝรั่งที่เพื่อนบ้านปลูกนำมาบี้แล้วล้างเปลือกให้แตกออกจะพบว่าด้านในมีเมล็ดขนาดเล็กซึ่งเป็นเมล็ดพันธุ์อยู่ผลละ 3-4 เมล็ด นำเมล็ดพันธุ์แช่น้ำแล้วล้างดึงเปลือกหุ้มออก นำไปผึ่งแดดจัด 1 วันเต็ม แล้วจึงนำไปเพาะเป็นต้นกล้า ถ้าหากใช้ไม่หมดที่เหลือห่อไว้แล้วเก็บอย่าให้โดนแดดหรือความร้อน”

เมล็ดพันธุ์ให้นำไปเพาะเป็นต้นกล้าในแปลงที่ยกร่อง นำปุ๋ยคอกอย่างปุ๋ยมูลไก่ มูลหมู หรือปุ๋ยหมักมาผสมดินเพื่อให้ต้นกล้าแข็งแรง ใช้คราดลากไป-มา นำเมล็ดพันธุ์ฝังลงในดิน จากนั้นใช้ไม้กวาดก้านมะพร้าวกวาดกลบเมล็ดพันธุ์แล้วรดน้ำด้วยสปริงเกลอร์ขนาดเล็ก ใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือนเพื่อให้ต้นกล้าเจริญเติบโตแข็งแรง

โดยต้นกล้าที่แข็งแรงให้สังเกตจากลักษณะลำต้นมีขนาดใหญ่กว่าไม้จิ้มฟัน มีความสูงประมาณ 25-30 เซนติเมตร เมื่อบีบเบาๆ ตรงกลางลำต้นจะแข็ง แล้วจึงย้ายลงแปลงปลูก ซึ่งเตรียมดิน ใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ใช้ผาลตีดินให้ร่วนซุยเรียบร้อยแล้ว

คุณสมบัติออกแบบแปลงปลูกหน่อไม้ฝรั่งแบบเป็นร่องคู่ซึ่งต่างกับรายอื่น เขาชี้ว่าข้อดีของการทำร่องคู่ในพื้นที่ 3 ไร่จะช่วยให้ได้ผลผลิตมากขึ้น การชักร่องกำหนดให้มีระยะระหว่างร่องห่าง 50 เซนติเมตร แล้วให้เว้นพื้นที่ออกไปอีก 1.40-1.50 เมตร จึงให้ชักเป็นร่องคู่ชุดต่อไป โดยใช้ระยะห่างระหว่างต้น 40 เซนติเมตร เป็นระยะที่เหมาะสมช่วยให้กอมีขนาดสมบูรณ์ ควรใช้เพียงต้นหรือเหง้าเดียวเท่านั้นเพื่อให้ได้หน่อใหญ่ที่มีความสมบูรณ์ เพราะถ้าปลูกหลายหน่อจะแย่งอาหาร ต้นจะเล็กไม่แข็งแรง

“ต้นกล้าที่ลงดินจำเป็นต้องให้รากมีลักษณะแผ่ออกโดยรอบจะได้รับอาหารอย่างเต็มที่ อย่าให้รากทั้งหมดเอียงหรือหันไปด้านใดด้านหนึ่ง จากนั้นจึงกลบดินด้วยการกดให้แน่นบริเวณรอบต้น คุณสมบัติชี้ว่า เทคนิคบริหารจัดการปลูกที่มีประสิทธิภาพเหล่านี้ จะช่วยให้ผลผลิตมีความสมบูรณ์ มีขนาดใหญ่เป็นเกรด A

แปลงหน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์ของคุณสมบัติ

เมื่อปลูกเสร็จแต่ละแถวควรเปิดน้ำที่เป็นระบบสายน้ำหยดทันที ช่วงเริ่มต้นควรให้ทุกวันเป็นเวลา 15 วัน วันละครั้ง รดพอดินเปียกไม่ต้องชุ่มแฉะเพื่อให้ต้นกล้าฟื้นตัวกลับมาแข็งแรง แล้วรดเฉพาะน้ำไม่ต้องใส่ปุ๋ยอะไร เพราะต้นกล้าได้อาหารจากดินแล้ว หลังจากครบ 15 วันจึงเว้นให้น้ำ 3 วันครั้ง”

หน่อไม้ฝรั่งใช้ปลูกเวลา 4 เดือนจึงเริ่มเก็บผลผลิต แต่ในช่วง 7 วันก่อนครบ 4 เดือน ให้พรวนดินบริเวณแถวที่เว้น 1.50 เมตร ด้วยเครื่องจักรหรือแรงงาน พร้อมกับดึงดินไปกลบโคนต้นให้สูงไม่ต่ำกว่า 10 เซนติเมตร เพื่อต้องการให้ตาดอกที่กำลังแตกได้รับธาตุอาหารเสริมสร้างความแข็งแรงต่อไป

สำหรับผลผลิตรุ่นแรกหรือที่เรียกกันว่า “มีด” แรกนั้น หน่อยังไม่ใหญ่เท่าไร ส่วนมากเป็นเกรด B, C แต่พอเป็นมีดสอง หน่อไม้ฝรั่งในแปลงของคุณสมบัติล้วนแต่เป็นหน่อขนาดใหญ่ สมบูรณ์ เป็นเกรด A ที่มีขนาดเส้นรอบวงไม่ต่ำกว่า 8 มิลลิเมตร

แพ็กห่อเรียบร้อยนำใส่ตู้เย็นเพื่อควบคุมคุณภาพ

ผลผลิตจะเก็บ 2 เดือน แล้วหยุดเพื่อถอนต้นเก่าออก รอเวลาประมาณ 1 เดือนเพื่อรอหน่อใหม่ที่จะแตกขึ้นแทนแล้วจึงเริ่มเก็บรอบใหม่ แล้วเว้นไปอีกเดือนก็เก็บอีกรอบคือ เก็บ 2 เดือน พัก 1 เดือน ทำเช่นนี้ไปเรื่อย จึงทำให้ในช่วง 12 เดือน มีเวลาเก็บผลผลิต 8 เดือน พัก 4 เดือน

สำหรับเรื่องวัชพืชสำคัญมากอย่ามองข้าม มีชาวบ้านมาบ่นว่าปุ๋ยก็ใส่ ดูแลก็ดี แต่ทำไมหน่อไม้ฝรั่งไม่ค่อยสมบูรณ์ พอไปดูพบว่าแปลงที่ชาวบ้านรายนั้นปลูกเต็มไปด้วยวัชพืช เพราะวัชพืชไปแย่งอาหาร แทนที่หน่อไม้ฝรั่งจะได้กินอาหารเต็มที่ จึงทำให้ไม่สมบูรณ์ ขนาดเล็ก

สำหรับแปลงของคุณสมบัติจะหมั่นเก็บวัชพืช ไม่ปล่อยให้โตมาก ถ้ากำจัดไม่ทันก็จะจ้างแรงงานมาทำในพื้นที่ 3 ไร่ใช้เวลาวันเดียวจบ นอกจากนั้น ขณะที่คุณสมบัติและภรรยาเก็บหน่อไม้ฝรั่งจะสวมเสื้อเอี๊ยมที่มีกระเป๋าด้านหน้า พอตัดหน่อไม้ฝรั่งแล้วมองเห็นต้นหญ้าก็จะเด็ดใส่กระเป๋าเอี๊ยม ทำเช่นนี้เพื่อป้องกันไม่ให้วัชพืชขยายตัวเร็ว ทั้งยังเป็นการช่วยประหยัดค่าแรงงานทางอ้อมด้วย

แปลงปลูกหน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์ของคุณสมบัติเป็นไปตามมาตรฐาน มีแนวกั้นทางธรรมชาติ

แมลงศัตรูที่เจอเป็นหนอนกระทู้ คุณสมบัติสังเกตว่าหนอนกระทู้มักจะออกมากัดกินลำต้นหน่อไม้ฝรั่งในช่วงกลางดึก ดังนั้น เขาและภรรยาจึงออกมากำจัดพวกมันด้วยใช้มือบี้ให้ตาย แต่เรื่องโรคเชื้อราเป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้ แม้แต่เจ้าหน้าที่ราชการก็ยังไม่มีวิธีที่มีประสิทธิภาพ

“ปกติเชื้อรามักจะมาในช่วงหน้าฝนหรือราวเดือนกันยายน คุณสมบัติเจอเชื้อรามา 2 ปีแล้ว มีความเห็นว่าต้องอดทนรอเวลา เพราะหลังเดือนพฤศจิกายนสถานการณ์จะดีขึ้นแล้วกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม”

คุณสมบัติสรุปว่าหัวใจหลักสำคัญที่ทำให้ปลูกหน่อไม้ฝรั่งมีความสมบูรณ์ได้คุณภาพดีมากแล้วเป็นแปลงปลูกต้นแบบให้กับเพื่อนร่วมกลุ่ม เพราะ 1. หมั่นกำจัดวัชพืช ควรทำแปลงปลูกให้สะอาด 2. รดน้ำอย่างสม่ำเสมอตามความเหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา 3. ควรปลูกให้ลึกเพื่อให้รากได้อาหารเต็มที่ 4. ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักตามระยะเวลาที่เหมาะ และ 5. หมั่นกำจัดแมลงศัตรูพืช ฉะนั้น หากปฏิบัติได้ตามนี้การปลูกหน่อไม้ฝรั่งเพียงครั้งเดียวสามารถให้ผลผลิตต่อเนื่องได้ในเวลา 5-7 ปีเลย

ตัดความยาวเท่ากันแล้วบรรจุใส่ห่อชั่งตามน้ำหนักให้เท่ากัน

หน่อไม้ฝรั่งแบ่งขายเป็นเกรดตามคุณภาพและขนาด มีทั้งหมด 6 เกรด ได้แก่ เกรด A แบบตูม/บาน, เกรด B แบบตูม/บาน และเกรด C แบบตูม/บาน ทั้งนี้ ผลผลิตที่เก็บแต่ละครั้งไม่เท่ากัน แต่เฉลี่ยรายได้ครั้งละ 2,000-5,000 บาท หรือแต่ละมีดมีรายได้เฉลี่ย 1.2-1.5 แสนบาท ซึ่งผลผลิตจะเก็บส่งขายให้กับบริษัทรับซื้อเพื่อส่งขายยังต่างประเทศ

ทั้งนี้ มีผลผลิตบางส่วนที่ไม่สามารถขายได้หรือตกเกรด ภรรยาของเขาจะนำไปขายตามตลาดนัดในชุมชน ใส่จานขายราคา 20 บาท (ประมาณครึ่งกิโลกรัม) พอลูกค้าเห็นแล้วรู้ว่าเป็นผักปลอดสารจะรีบซื้อทำให้ขายหมดอย่างรวดเร็ว

แต่กว่าหน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์ที่คุณสมบัติหรือเพื่อนร่วมกลุ่มปลูกจะส่งขายได้ ต้องผ่านเกณฑ์กระบวนการตรวจสอบคุณภาพหลายขั้นตอนจากหน่วยทั้งราชการและเอกชนเพื่อรับรองความปลอดภัยเสียก่อน จึงทำให้ผลผลิตทั้งหมดได้รับมาตรฐาน ORGANIC THAILAND สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค

หน่อไม้ฝรั่งเกรด A

“วิธีเหล่านี้พอคิดแล้วลงมือทำจริงก็ประสบความสำเร็จสามารถปลูกหน่อไม้ฝรั่งได้ดีมีคุณภาพสมบูรณ์มาก ได้ราคาสูง มีรายได้ดีกว่าที่เคยทำไร่อ้อย จึงทำให้ทุกวันนี้สามารถปลดภาระหนี้ได้เกือบ 50 เปอร์เซ็นต์ พร้อมกับวางแผนจะเพิ่มพื้นที่ปลูกอีก 2 ไร่ แล้วนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้เพื่อให้เกิดความรวดเร็วและทุ่นแรงงาน” เจ้าของแปลงหน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์กล่าวในที่สุด