| ที่มา | เกษตรในเมือง |
|---|---|
| ผู้เขียน | องอาจ ตัณฑวณิช อดีตกรรมการสมาคมพฤกษชาติแห่งประเทศไทย |
| เผยแพร่ |
การทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนมีความสุขที่ไม่ต้องรับผิดชอบทั้งกิจการ รับผิดชอบเฉพาะในตำแหน่งหน้าที่เพราะเราไม่ใช่ผู้จัดการใหญ่ ความเครียดก็มีมากน้อยตามตำแหน่ง ยิ่งใหญ่ยิ่งหนาวเหมือนที่เขาว่าไว้ แต่ความเครียดของมนุษย์เงินเดือนก็หาทางออกไม่ค่อยได้เนื่องจากมีเวลาต้องทำงานเป็นเรื่องจำกัด แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถทำได้เสียเลย
คุณนิรันดร์พัชร์ ธนบดีนพคุณ หรือ คุณจิ๊กโก๋ และ คุณดุจภาภร ศรีสุวะ หรือ คุณแข เป็นคู่ชีวิตที่มีความรักในธรรมชาติและเกษตรเหมือนกัน ทั้งคู่ทำงานในโรงงานผลิตฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟเหมือนกัน ที่อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา และโดยพื้นเพทั้งคู่เป็นคนในโคราชแต่อยู่ต่างอำเภอ คุณจิ๊กโก๋ เล่าให้ฟังว่า จบการศึกษาช่างอิเล็กทรอนิกส์ จากช่างกลพณิชยการนครราชสีมา เมื่อปี 2545 และได้มาทำงานที่โรงงานดังกล่าวในตำแหน่งช่างเทคนิค Engineering specialist ที่โรงงานจังหวัดสมุทรปราการ แต่ต่อมาได้ย้ายกลับมาอยู่โรงงานที่จังหวัดนครราชสีมา
แต่โรงงานกับบ้านคือ อำเภอสูงเนิน กับอำเภอด่านขุนทด ไกลกัน ไม่อยากเดินทางจึงหาซื้อที่ดินเปล่าหลังโรงงานที่ทำอยู่ซึ่งมีขนาด 100 ตารางวา เพราะไม่ชอบบ้านจัดสรรรู้สึกไม่เป็นส่วนตัวและไม่เป็นธรรมชาติ จึงซื้อที่ดินดังกล่าวมาสร้างบ้าน เนื้อที่สร้างบ้านทำไป 50 ตารางวา จึงเหลือพื้นที่อีกครึ่งหนึ่งไว้ปลูกพืชผักสวนครัว เพราะตัวเองเป็นคนชอบการปลูกพืช ตอนเริ่มแรกปลูกไม้ดอกไม้ประดับ จำพวก ฟิโลเดนดรอน บอนสี ไม้ด่าง และดอกไม้ต่างๆ
ปลูกผักด้วยความห่วงใยและความสุข
ต่อมาแฟนคือคุณแข มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องภายในต้องผ่าตัด จึงมีความคิดว่า ผักสวนครัวที่เราซื้อมาจากตลาดถึงแม้จะมีการรับรองความปลอดภัยหลายระดับแต่ก็ไม่มีความแน่ใจ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าจริง จึงทดลองปลูกผักกินเอง ตอนแรกๆ ก็ปลูกพืชสวนครัวที่ใช้ในบ้านง่ายๆ เช่น ตะไคร้ โหระพา กะเพรา มะเขือ ผักกวางตุ้ง และกระเจียวซึ่งยายชอบกิน ผิดถูกล้มลุกคลุกคลานในเรื่องการปลูกผัก ก็ลองปลูกไปเรื่อยๆ เนื่องจากเมล็ดผักมีราคาไม่แพง เสียก็ปลูกใหม่ จนกระทั่งประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง จึงเริ่มหัดปลูกผักสลัด โดยเริ่มปลูกในวงล้อยาง ปลูกอยู่หลายครั้ง แรกๆ ไม่ประสบผลสำเร็จ แต่ด้วยความตั้งใจสังเกตว่ามีความผิดพลาดอย่างไร ก็ปรับเปลี่ยนแก้ไขไปจนกระทั่งประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง จึงตั้งใจที่จะปลูกผักสลัดบนเนื้อที่ที่เหลือทั้งหมด
วิธีการเพาะและดูแลรักษา
เตรียมดินเพาะเมล็ดคือใช้มูลไส้เดือนผสมพีทมอสในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 ใส่ในกระถางดิน แล้วโรยเมล็ดให้ห่างๆ แล้วใช้น้ำจากฟ็อกกี้พ่นให้ชุ่ม ไม่จำเป็นต้องกลบหน้าด้วยวัสดุปลูกใดๆ อีก ส่วนน้ำฝอยฉีดพ่นทุกๆ เช้าและเย็น นำกระถางเพาะมาไว้ในที่ร่ม ใช้เวลาประมาณ 4 วันก็นำกระถางเพาะออกแดดรำไร อย่าให้เกินวันที่ 10 เพราะต้นจะยืดทำให้ปลูกลงถาดเพาะยาก เมื่อถึงเวลาก็ย้ายมาไว้ในถาดเพาะหลุมละต้น โดยใช้ก้านธูปงัดดินขึ้นมาเบาๆ อย่าให้รากขาดและลำต้นช้ำ ดินในถาดเพาะก็จะเป็นมูลไส้เดือนและพีทมอสเหมือนเดิม เวลาปลูกควรพิถีพิถันหน่อยเพราะต้นค่อนข้างบอบบาง เมื่อปลูกครบถาดแล้วก็พ่นน้ำด้วยละอองฝอยไม่ให้กระเทือนทุกเช้าเย็น ช่วงนี้ถาดจะถูกวางไว้ในพื้นที่แดดรำไรอีกประมาณ 10 วัน รวมเป็น 20 วันนับตั้งแต่หว่านเมล็ด
มาถึงขั้นเตรียมแปลงปลูกลงดิน ก็จะใช้ส่วนผสมคือ ดินเดิม มูลวัวหมัก แกลบดำ อย่างละ 1 ส่วน คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนจะปลูกในวันพรุ่งนี้ก็จะฉีดพ่นด้วยน้ำส้มควันไม้ การปลูกก็จะปลูกตอนเช้าหรือเย็นก็ได้ แต่ตอนเช้าไม่ควรปลูกเกิน 9 โมง ส่วนตอนเย็นต้องปลูกหลัง 4 โมงเย็นไปแล้วเพราะแดดช่วงกลางวันค่อนข้างจัด ในพื้นที่การปลูกจะไม่มีการกางซาแรน ให้โดนแดดตรงๆ เลย เนื่องจากมีการติดตั้งเครื่องพ่นหมอกอัตโนมัติตั้งเวลาทุกๆ 2 ชั่วโมงจะพ่นเป็นเวลา 5 นาที จนกระทั่งถึงเย็น ในช่วงกลางคืนงดน้ำ พ่นหมอกแบบนี้เป็นเวลาสัปดาห์เดียว หลังจากนั้นก็จะติดตั้งสปริงเกลอร์สำหรับรดน้ำอัตโนมัติ เช้า สาย บ่าย เย็น สปริงเกลอร์จะทำงานครั้งละ 2 นาที จนถึงวันเก็บเกี่ยวผักสลัด จะใช้เวลาในแปลงอีก 25-30 วัน
การให้น้ำแบบสม่ำเสมอและเพียงพอจะทำให้ผักไม่ขม ส่วนการให้ปุ๋ยเมื่อลงดินได้ 10 วันก็จะพรวนดินช่วงกลางแถวที่ปลูก แล้วโรยปุ๋ยมูลไส้เดือนหรือปุ๋ยมูลจิ้งหรีด และวันที่ 20 ก็จะใส่ปุ๋ยแบบเดิมอีกครั้ง ก่อนวันเก็บผลผลิตจะเริ่มฉีดพ่นน้ำหมักนมสดหรือน้ำหมักปลาทุกๆ 4 วัน เพื่อเพิ่มความกรอบให้ผัก ผักจะเจริญเติบโตไว ใบแข็งแรง ไม่มีศัตรูพืช
ผักที่ปลูกจะมีรสชาติหวานกรอบ ผลผลิตที่ได้ในตอนแรกๆ ขายไม่เป็น จึงนำไปแจกเพื่อนบ้านเพื่อกระชับความสัมพันธ์เนื่องจากมาอยู่ใหม่ ถือเป็นมิตรภาพก็มีการแลกเปลี่ยนกัน ต่อมาได้โพสต์โชว์ภาพผักในเฟซบุ๊กก็มีคนเห็นมีการสั่งผัก โดยจะทำเป็นถุงๆ มีผักสลัดหลายอย่างให้ดูมีสีสัน มีน้ำหนักประมาณ 3 ขีด ราคาขายถุงละ 50 บาท ส่งให้ถึงที่เพราะคนซื้ออยู่ในบริเวณใกล้เคียงหรือเป็นเพื่อนในโรงงานเดียวกัน คนที่เคยสั่งไปกินก็บอกต่อกันไปทำให้ผักที่ผลิตหมดอย่างรวดเร็วทุกครั้งที่ปลูก เพราะลูกค้ามีความเชื่อใจในความปลอดภัยว่าการปลูกไม่ได้ใช้สารเคมีเลย บอกเขาว่าปลูกให้แฟนกินเนื่องจากหลังผ่าตัดต้องมั่นใจในความปลอดภัยของผัก ปัจจุบันคุณจิ๊กโก๋มีรายได้เฉพาะขายผักเฉลี่ยต่อเดือน 4,000 บาท ซึ่งพอจ่ายค่าน้ำค่าไฟและค่าจิปาถะอื่นๆ
ความสุขที่ปลูกได้
คุณจิ๊กโก๊เป็นคนชอบท่องเที่ยวไปในสถานที่ต่างๆ ชอบบรรยากาศแบบรีสอร์ต แต่เนื่องจากเป็นมนุษย์เงินเดือนไม่สามารถไปเที่ยวได้บ่อย จึงคิดว่าทำไมเราไม่ปลูกต้นไม้และจัดภูมิทัศน์บ้านตัวเองให้เป็นรีสอร์ต เราก็จะเหมือนอยู่รีสอร์ตในทุกวัน ไม่ต้องเดินทางไป การมองสลัดเป็นดอกไม้เพราะมีสีสันสวยงามและหลายรูปแบบจึงเป็นแรงบันดาลใจให้จัดหน้าบ้านข้างบ้านเป็นแนวสวน มีการใช้ไม้ไผ่มาจัดเป็นแนวสวนสำหรับปลูกผักสลัด ไม่ใช่คิดจะปลูกตรงไหนก็ปลูก เมื่อจัดวางไว้อย่างดีแล้ว ตอนเช้าเมื่อเปิดหน้าต่างออกมาชมธรรมชาติก็จะเห็นผักสลัดเหมือนไม้ดอกไม้ประดับที่สบายตาทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากนี้ ในช่วงเวลากลางคืนเมื่อเปิดไฟก็จะได้บรรยากาศอีกแบบน่าหลงใหล ในบริเวณสวนผักก็จัดตั้งเก้าอี้โต๊ะไว้เพื่อเวลาเหนื่อยก็มานั่งคุยกัน ชมผักไปด้วยดื่มกาแฟไปด้วย หรืออาจมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บ้าง วันหยุดทั้งวันทำให้ไม่ต้องไปเที่ยวไหนเลยเพราะบ้านเราคือรีสอร์ต เดินไปดูผักตรงโน้นตรงนี้ ถอนหญ้าบ้าง ก็ทำให้สมองผ่อนคลายจากความเครียดจากการทำงาน
ฝากถึงหลายๆ คนที่อยากปลูกผัก คุณจิ๊กโก๊ บอกว่า ในอินบ็อกซ์ก็มีถามมาเยอะว่าเริ่มแบบไหน ก็แนะนำว่าให้เริ่มจากดินก่อน เราจะละเลยดินไม่ได้เพราะทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นจากดิน ถ้าใครว่าดินไม่ดีก็จะอธิบายว่าให้หากระถางหรือกระบะมาแล้วผสมดินขึ้นมาใหม่ ใช้ดินในบริเวณบ้าน มูลวัว และแกลบดำอย่างละ 1 ส่วน การที่ให้ใช้ดินที่บ้านตัวเองเพราะต้องการให้เห็นคุณค่าดินของเราเอง บอกวิธีทุกอย่างตั้งแต่การเริ่มเพาะ การดูแลรักษา จนกระทั่งเก็บผลผลิต และอธิบายอย่างไม่รำคาญด้วย มีแฟนคลับบางคนท้อ ก็แนะนำให้ปลูกต้นเดียวในกระถางก่อน แม้กระทั่งเมล็ดผักยังเคยส่งไปให้ฟรีๆ หากสนใจปลูกผักแล้วยังไม่มีแรงบันดาลใจสามารถติดต่อคุณจิ๊กโก๊ได้ทางเฟซบุ๊กชื่อ นิรันดร์ ราชา และต้องขออภัยล่วงหน้าเนื่องจากยังทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่ ในกรณีทำงานอยู่ไม่สามารถตอบคำถามได้
เผยแพร่ออนไลน์ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2566
