“FARM•TO” (ฟาร์มโตะ) เปิดมิติตลาดเกษตร สู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ร่วมปลูก ร่วมเป็นเจ้าของ

โดยปกติแล้วภาคเกษตรกรรมไม่ได้ต่างจากภาคธุรกิจอื่นที่จำเป็นต้องยึดกลไกตลาดซึ่งประกอบด้วยผู้ผลิต ผู้ขาย และผู้บริโภค แต่ในภาวการณ์ปัจจุบันถือว่าภาคเกษตรกรรมมีส่วนสำคัญเพราะเป็นแหล่งผลิตอาหารเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิตมนุษย์ทั้งโลก

ขณะเดียวกัน หากผลิตอาหารที่ไม่ปลอดภัยก็อาจนำไปสู่การบั่นทอนสุขภาพ พร้อมกับโรคภัยต่างๆ ตามมา ด้วยเหตุนี้มนุษย์จึงมีความพยายามที่จะใส่ใจต่อสุขภาพร่างกายด้วยการเริ่มต้นที่การบริโภคอาหาร แล้วหันมาใส่ใจแล้วเลือกซื้อกับแหล่งผลิตอาหารต้นทางที่มีความเชื่อถือได้เท่านั้น

แนวทางนี้จึงมีลักษณะสอดคล้องกับความคิดของคนกลุ่มหนึ่งที่ว่า “รู้จักเขา เรามีสุข” ด้วยระบบตลาดของการเกษตรในยุคไทยแลนด์ 4.0 ที่มีชื่อเรียกว่า “FARM•TO” (ฟาร์มโตะ)

คุณอาทิตย์ จันทร์นนทชัย หรือ คุณโต ผู้ดูแล FARM•TO ให้ข้อมูลว่า ฟาร์มโตะคือช่องทางการขายผลผลิตเกษตรรูปแบบใหม่ที่เชื่อมเกษตรกรและผู้บริโภคเข้าหากัน ผ่านวิธีการ “ร่วมเป็นเจ้าของผลผลิตการเกษตร” เพื่อให้ทั้งคู่ได้ช่วยเหลือและดูแลผลผลิตไปด้วยกัน โดยหากผู้บริโภคต้องการใกล้ชิดผลผลิตก็สามารถเดินทางมาเยี่ยมชมแล้วเช็กพิกัดพื้นที่การเพาะปลูกได้จากในระบบ กระทั่งเมื่อถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยว เกษตรกรจะจัดส่งผลผลิตให้ผู้บริโภคตามที่อยู่ที่ได้ลงทะเบียนและบางชนิดสินค้าเกษตรจะมีการนัดรับผลผลิตบริเวณพื้นที่การเพาะปลูก

นอกจากนั้นแล้ว ฟาร์มโตะยังเปิดโอกาสให้เกษตรกรได้ตั้งราคาขายผลผลิตด้วยตัวเองเพื่อแก้ปัญหาภาระหนี้สินและราคาผลผลิตตกต่ำ ทำให้เกษตรกรได้พัฒนาตัวเองและเรียนรู้ที่จะสร้างแบรนด์สินค้าของตัวเองในอนาคต ส่วนผู้บริโภคก็จะได้ความมั่นใจในคุณภาพที่สดใหม่เพราะร่วมดูแลและเห็นการเจริญเติบโตไปจนถึงได้รับผลผลิต

ทั้งนี้ ฟาร์มโตะเชื่อว่าการรับรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเพาะปลูกให้แก่กันจะทำให้คุณค่าผลผลิตที่ได้รับเพิ่มสูงขึ้น เพราะไม่ใช่แค่รสชาติที่อร่อยสดใหม่ แต่มันคือมิตรภาพที่ส่งผ่านจากหัวใจของเกษตรกรถึงมือผู้บริโภค

 

คุณอาทิตย์กับผู้บริโภคที่จองผลผลิตข้าว

การร่วมเป็นเจ้าของและความพิเศษ

คุณโต แจงว่า เมื่อเราร่วมเป็นเจ้าของผลผลิตไปพร้อมเกษตรกร เราก็จะได้เฝ้าดูผลผลิตเติบโตไปพร้อมคนปลูกตัวจริง เพราะเกษตรกรจะส่งภาพผลผลิตจากฟาร์มมาให้ดูอย่างสม่ำเสมอ พร้อมกับมีป้ายชื่อผู้จองปักไว้ หลังจากนั้น เมื่อผลผลิตค่อยๆ เจริญเติบโตงอกงาม ในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งหลายคนอาจไม่เคยได้เห็นต้นข้าวเติบโตจนเป็นสีทอง หรือสตรอเบอรี่ตั้งแต่ลูกจิ๋วจนสุกเป็นสีแดงสดพร้อมกิน ก็จะได้เห็นไปพร้อมกับเกษตรกรผู้ปลูกผ่านระบบออนไลน์ชนิดเรียลไทม์ จึงช่วยให้ผลผลิตมีคุณค่าและน่าไว้วางใจเพิ่มขึ้นสำหรับผู้บริโภคด้วย

“การร่วมเป็นเจ้าของหมายถึง การที่ผู้บริโภคจ่ายเงินซื้อผลผลิตคุณภาพแบบล่วงหน้า แล้วร่วมเป็นเจ้าของผลผลิตไปพร้อมเกษตรกรตั้งแต่เริ่มปลูกจนเก็บเกี่ยว วิธีนี้ช่วยลดภาระหนี้สินให้เกษตรกรเพราะเกษตรกรไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาลงทุน ทั้งยังช่วยแก้ปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ เพราะมุ่งให้เกษตรกรเป็นผู้คำนวณและกำหนดราคาผลผลิตตั้งต้นเอง จึงรู้ต้นทุนที่แท้จริงก่อนกำหนดราคาขายที่เป็นธรรม”

ทั้งนี้ การร่วมเป็นเจ้าของไม่ใช่เพียงแค่ได้เห็นการเติบโตของผลผลิตผ่านภาพที่เกษตรกรส่งมา แต่จะได้รู้อย่างละเอียดว่าสิ่งที่คุณสั่งจองมีแหล่งมาจากไหน ตลอดจนยังสามารถไปเยี่ยมชมผลผลิตได้ถึงสวนและฟาร์มของเกษตรกร วิธีนี้จะทำให้เราได้เห็นว่าพื้นที่ปลูกเป็นแบบไหน ได้เห็นผลผลิตของจริงตั้งแต่แรกปลูกจนเติบโต ทำให้รู้ที่มาที่ไปแล้วบริโภคได้อย่างมั่นใจ แถมยังเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคที่สั่งจองผลผลิตชนิดนั้นได้ร่วมกิจกรรม ตั้งแต่การร่วมลงมือปลูก การดูแลใส่ปุ๋ย หรือแม้แต่การเก็บผลผลิต แล้วอย่างนี้จึงถือว่ามีความพิเศษอย่างที่ไม่เหมือนใคร

ทีมงานที่ช่วยกันผลักดันความสำเร็จ

โดยขั้นตอนง่ายๆ ในการร่วมเป็นเจ้าของผลผลิต จะเริ่มจากให้ท่านเลือกผลผลิตของเกษตรกร ที่ต้องการบริโภค แล้วชำระเงินตามขั้นตอนในระบบ จากนั้นเกษตรกรจะอัพเดตส่งภาพ ป้ายชื่อ และการเจริญเติบโตของผลผลิตในช่วงต่างๆ ส่งตรงถึงท่านทางระบบออนไลน์

ในกรณีที่ท่านมีเวลาว่างแล้วต้องการพบปะพูดคุยกับเกษตรกรรายนั้นก็สามารถเดินทางไปเยี่ยมชม และร่วมกิจกรรมการเพาะปลูก ตามตารางที่เกษตรกรนัดหมาย กระทั่งเมื่อถึงเวลาที่เก็บผลผลิต ผู้บริโภครอรับผลผลิตที่จัดส่งไปให้ถึงบ้าน และบางสินค้าเกษตรไปรับผลผลิต จากมือเกษตรกรที่ฟาร์ม

FARM•TO ทำมานานเกือบ 2 ปี มีเกษตรกรสนใจเข้าร่วมกว่า 10 ราย มีประเภทผลผลิตมากกว่า 20 ชนิด ปัจจุบันมีลูกค้ากว่า 500 ราย ทั้งนี้ เกษตรกรแต่ละราย แต่ละประเภทต้องมีเกณฑ์กำหนดสำหรับการเข้าร่วมเป็นครอบครัวเดียวกับ FARM•TO ไม่ว่าจะพิจารณาจากคุณสมบัติส่วนตัว ลักษณะประเภทของเกษตรกรรมนั้นว่าได้รับการรับรองมาตรฐานอะไรมาบ้าง

สำหรับผลประโยชน์ที่เกษตรกรจะได้รับคืออันดับแรกไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเข้าเป็นสมาชิก เพียงแต่ต้องมีคุณสมบัติและผ่านเกณฑ์การพิจารณา จากนั้นทางทีมงานจะจัดทำแผนการตลาดให้ทุกอย่าง เมื่อได้รับเงินจากลูกค้าแล้วจะแบ่งให้เกษตรกรนำไปลงทุนก่อนจำนวนครึ่งหนึ่ง ของยอดเงินที่ลูกค้าสนใจจองเข้ามา จึงทำให้ไม่จำเป็นต้องไปกู้เงินมาลงทุน เมื่อเก็บผลผลิตส่งขายแล้วจะจ่ายครึ่งที่เหลือให้เมื่อลูกค้าได้รับของแล้ว

คุณโต บอกว่า ผู้บริโภคที่รักสุขภาพรวมถึงชอบการเพาะปลูกจะเหมาะกับลักษณะของ FARM•TO มาก เพราะมีหลายคนชอบและอยากทำเกษตรแต่ขาดโอกาส โดยผู้บริโภคที่เป็นผู้จองสามารถติดต่อพูดคุยหรือแวะเวียนไปพบกับเกษตรกรได้ที่แหล่งผลิต สำหรับธุรกิจที่เห็นว่าเหมาะมากคือร้านอาหารเพราะตอบโจทย์ความต้องการได้ตรงมาก ซึ่งจะได้ของดีมีคุณภาพและมีจำนวนที่ต้องการตลอดเวลา

“แนวทางนี้ถือเป็นมิติใหม่ของตลาดเกษตรเพื่อรองรับการเข้าสู่โหมดไทยแลนด์ 4.0 เพราะที่ผ่านมายังไม่พบว่ามีใครที่สามารถซื้อสินค้าอินทรีย์แบบเข้าถึงตั้งแต่เริ่มปลูกจนเก็บเกี่ยว ดังนั้น เป็นแนวทางที่ช่วยได้ทั้งเกษตรกรและผู้บริโภคให้ต่างได้สมหวังตามที่ต้องการ เป็นการสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างเกษตรกรและผู้บริโภค” คุณโต กล่าวทิ้งท้าย

สอบถามรายละเอียดหรือเข้าไปดูกิจกรรมของ FARM•TO ได้ที่ FARMTO THAILAND COMPANY LIMITED เลขที่ 5/12 หมู่ที่ 8 ตำบลบึงบา อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี โทรศัพท์ (+66) 89-124-1125 หรือ Website www.farmto.co.th หรือ Facebook Fanpage https://www.facebook.com/yourfarmto/