วิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกกาแฟบ้านหนองแคน ต้นแบบการรวมกลุ่มสู่ความเข้มแข็ง สร้างแบรนด์สินค้าเอง ดันรายได้เพิ่ม 60,000 บาท/ครัวเรือน/ปี

ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงแนวทางการดำเนินงานของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟบ้านหนองแคน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการรวมกลุ่มเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จ  กลุ่มเกษตรกรมีความเข้มแข็ง มีการพัฒนาด้านการผลิต การแปรรูป และการตลาดในพื้นที่ที่มีศักยภาพ โดยปัจจุบันวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟบ้านหนองแคน พื้นที่หมู่ 9 บ้านหนองแคน ตำบลนาด้วง อำเภอนาด้วง จังหวัดเลย มีสมาชิกเกษตรกร 20 ครัวเรือน  พื้นที่เพาะปลูกกาแฟพันธุ์โรบัสต้า ประมาณ 300 ไร่ ให้ผลผลิตที่เป็นสารกาแฟแล้ว  24,000 กิโลกรัม

ทางกลุ่มจะจำหน่ายในรูปของสารกาแฟ จำนวน 23,000 กิโลกรัม (ราคา 73 บาท/กก.) ส่วนที่เหลืออีก 1,000 กิโลกรัม จะนำมาแปรรูปเป็นการแฟคั่วบด กาแฟซองดีฟ  สบู่กาแฟสมุนไพร และชาดอกกาแฟ  ในชื่อแบรนด์ “ชื่น-เลย คอฟฟี่” ซึ่งมียอดสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ของกลุ่มฯ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้สมาชิกมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเพาะปลูกกาแฟและแปรรูปกาแฟเฉลี่ยครัวเรือนละ 60,000 บาท/ปี นอกจากนี้ ทางกลุ่มได้พัฒนาการแปรรูปผลผลิตเพื่อจำหน่ายเพิ่ม และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของตลาด อีกทั้งยังเป็นศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) อำเภอนาด้วง เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับเกษตรกรผู้ที่สนใจต่อไปอีกด้วย

ด้านนางเพ็ญศิริ  วงษ์วาท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 3 จังหวัดอุดรธานี (สศท.3) กล่าวเสริมว่า สศท.3ได้ลงพื้นที่พูดคุยกับนางสุปราณี มืดทับไทย ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟบ้านหนองแคน ทราบว่า 30 กว่าปีที่แล้ว นางสุปราณีและครอบครัวได้ทำสวนกาแฟอยู่ที่จังหวัดชุมพร จึงมีความรู้ด้านการเพาะปลูกและการดูแลสวนกาแฟ จนกระทั่งปี 2552 นำต้นกาแฟพันธุ์โรบัสต้าจากทางใต้ มาลองปลูกที่จังหวัด เริ่มทดลองปลูกจำนวน 100 ต้น และชวนเพื่อนอีก 7 ราย ให้มาทดลองปลูก ซึ่งให้ผลผลิตดี

 

แต่ในขณะนั้นจังหวัดเลยไม่มีแหล่งรับซื้อ จึงต้องขนไปขายที่จังหวัดชุมพร  ภายหลังต่อมาได้ขยายพื้นที่ปลูก และรวมกลุ่มตั้งวิสาหกิจชุมชนขึ้นในปี 2554 เพื่อขายเมล็ดกาแฟสดที่ทางกลุ่มสมาชิกผลิตได้ และได้พัฒนาเรื่อยมา มีการริเริ่มการคั่วบดเมล็ดกาแฟด้วยมือ เป็นกาแฟสำหรับชง (กาแฟโบราณ) เพื่อจำหน่ายในชุมชน และหน่วยงานภาครัฐ อาทิ พัฒนาชุมชนจังหวัด เกษตรจังหวัด ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานต่างๆ ได้เล็งเห็นศักยภาพ จึงเข้ามาสนับสนุนทั้งในด้านวิชาการ งบประมาณ วัสดุอุปกรณ์ ที่จำเป็นมาจนปัจจุบัน ซึ่งนับเป็นอีกตัวอย่างของวิสาหกิจชุมชนจากการรวมกลุ่มของเกษตรกรเพื่อพัฒนาผลผลิต สร้างรายได้ และยังเป็นแหล่งเรียนรู้ร่วมกัน หากเกษตรกรและผู้สนใจสามารถขอรับคำแนะนำหรือศึกษาดูงานได้ที่ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟบ้านหนองแคน ติดต่อประธานกลุ่มได้โดยตรงที่ เบอร์ 095 541 2945