| เผยแพร่ |
|---|
รัฐบาลโดย พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับดูแลการดำเนินงานของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ บจธ. เล็งเห็นความสำคัญในการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรในเรื่องที่ดินทำกิน ซึ่งได้ดำเนินการผ่านโครงการของ บจธ. ในการกระจายการถือครองที่ดิน เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยให้แก่เกษตรกร การป้องกันการสูญเสียสิทธิในที่ดินจากการจำนอง ขายฝาก ตลอดจนส่งเสริมการใช้ประโยชน์ในที่ดินเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
เมื่อวันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ บจธ. เปิดรับฟังความคิดเห็นของภาคประชาชน เกี่ยวกับร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันบริหารจัดการเพื่อการกระจายการถือครองที่ดินที่เป็นธรรม (องค์การมหาชน) ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ถนนหาดเจ้าสำราญ ตำบลนาวุ้ง อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี โดยมี พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน คณะทำงานด้านกฎหมายการสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชน รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม มีภาคประชาชนเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างพระราชกฤษฎีกาฯ ดังกล่าว เป็นจำนวนกว่า 200 คน
นายกุลพัชร ภูมิใจอวด รองผู้อำนวยการปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งธนาคารที่ดิน ว่า นโยบายของรัฐบาลในปัจจุบันให้ความสำคัญอย่างมากเกี่ยวกับการกระจายการถือครองที่ดิน เพื่อให้ประชาชนสามารถมีที่ดินทำกินได้อย่างทั่วถึง จึงได้เร่งรัดให้มีการจัดตั้ง “ธนาคารที่ดิน” ตามที่ปรากฏในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 พ.ศ. 2660-2564 และแผนปฏิรูปประเทศด้านสังคม ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ที่สนับสนุนให้ประชาชาชนมีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง โดยกำหนดให้กระทรวงการคลังและผู้มีหน้าที่รับผิดชอบดำเนินการเสนอร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งธนาคารที่ดิน หรือองค์การอื่นที่มีวัตถุประสงค์ในลักษณะทำนองเดียวกับธนาคารที่ดิน หลังจากที่ได้มีการประชุมร่วมกันระหว่าง บจธ. กับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในปี 2562 สำนักงานเศรษฐกิจการคลังจึงได้ยกร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันบริหารจัดการเพื่อกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม (องค์การมหาชน) พ.ศ. …… หรือ ธนาคารที่ดิน และได้ส่งร่างดังกล่าวมาให้ บจธ. เพื่อนำไปดำเนินการรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ ในเบื้องต้น บจธ. และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้ร่วมหารือถึงแนวทางดำเนินการในการจัดตั้งสถาบันบริหารจัดการเพื่อกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาแล้ว
นายกุลพัชร กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของการรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชน บจธ. ได้ดำเนินการมาแล้ว 5 ภาค คือ ภาคเหนือ (เชียงใหม่) ภาคตะวันออก (ฉะเชิงเทรา) ภาคใต้ (สุราษฎร์ธานี) ภาคกลาง (กรุงเทพมหานคร) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นครราชสีมา) และภาคตะวันตกที่จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นครั้งสุดท้าย โดยเปิดรับฟังความเห็นในประเด็นต่าง ๆ เช่น ชื่อ/วัตถุประสงค์ อำนาจหน้าที่ การดำเนินงาน ทุนและรายได้ องค์ประกอบคณะกรรมการ การรายงาน การกำกับดูแล การโอนอำนาจหน้าที่ และประเด็นอื่นๆ ที่มีการเสนอเพิ่มเติม หลังจากนั้น บจธ. จะรวบรวม สรุปข้อคิดเห็นที่ภาคส่วนต่างๆ เสนอขึ้นมาเพื่อปรับปรุงร่างพระราชกฤษฎีกาฯ นำไปประชุมรับฟังความคิดเห็นร่วมกับส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องภายในเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากนั้นจะนำพระราชกฤษฎีกานี้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายในไม่เกินวันที่ 18 มิถุนายน 2563 เมื่อคณะรัฐมนตรีอนุมัติและประกาศในพระราชกฤษฎีกา กฎหมายนี้ก็จะมีผลบังคับใช้ทันที
นายกุลพัชร สรุปในตอนท้ายว่า เนื่องจากกฎหมายนี้เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ร่างพระราชกฤษฎีกา ฯ นี้ก็ถูกยกร่างด้วยความเห็นชอบของรัฐบาล จึงเชื่อว่าจะผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี และธนาคารที่ดินจะถูกจัดตั้งขึ้น เพื่อเป็นที่พึ่งให้แก่เกษตรกร และผู้ไร้ที่ดินทำกินต่อไป
