“บางคล้า” แหล่งปลูกสุดยอดมะม่วงพันธุ์ดี ด้วยเอกลักษณ์เมือง 3 น้ำ

“บางคล้า” แหล่งปลูกสุดยอดมะม่วงพันธุ์ดี ด้วยเอกลักษณ์เมือง 3 น้ำ ดันมะม่วงขายตึก-น้ำดอกไม้สีทองได้รับความนิยมสูง กลุ่มแปลงใหญ่มะม่วงบางคล้าเร่งผลิตตีตลาดโมเดิร์นเทรดและตลาดออนไลน์ ​
นายสมศักดิ์ วัลลานนท์ ประธานกลุ่มแปลงใหญ่มะม่วงอำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า สภาพพื้นที่ อ.บางคล้า ซึ่งมีแม่น้ำบางปะกงไหลผ่าน ในแต่ละปีจะมีน้ำทะเลหนุนเข้ามาในลุ่มน้ำ ทำให้พื้นที่มีสภาพเป็นพื้นที่น้ำกร่อย ผลผลิตมะม่วงที่ปลูกนั้นจึงมีรสชาติดี หวาน หอม อร่อย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเกษตรกรที่นี่ปลูกมะม่วงหลากหลายพันธุ์ ได้แก่ น้ำดอกไม้สีทอง โชคอนันต์ เขียวเสวย แรด ฟ้าลั่น มันเดือนเก้า และขายตึก
ซึ่งเป็นมะม่วงพื้นถิ่นของ อ.บางคล้า ที่ปลูกกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ แต่ปัจจุบันตลาดมีความต้องการมะม่วงพันธุ์ขายตึกและพันธุ์น้ำดอกไม้สีทองมากกว่าพันธุ์อื่น ดังนั้นทางกลุ่มฯ จึงได้ใช้หลักตลาดนำการผลิต วางแผนปรับเปลี่ยนพื้นที่ของสมาชิกมาปลูกมะม่วง 2 พันธุ์นี้แทน โดยอาศัยความได้เปรียบที่มะม่วงบางคล้าเป็นมะม่วง 3 น้ำ (น้ำจืด น้ำเค็ม น้ำกร่อย) ที่มีรสชาติอร่อยไม่เหมือนใครเป็นจุดขายของกลุ่มฯ ควบคู่กับการพัฒนาศักยภาพการผลิตของสมาชิก เน้นการผลิตสินค้าปลอดภัยได้มาตรฐาน มีการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ทำน้ำหมักชีวภาพจากปลาใช้เอง เพิ่มคุณภาพผลผลิตโดยใช้ถุงห่อมะม่วง ฯลฯ
ถึงตอนนี้มีสมาชิก 30 คนที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP แล้ว สามารถลดต้นทุนและเพิ่มคุณภาพผลผลิตได้ดีขึ้น ส่วนสมาชิกที่เหลือกำลังเร่งปรับเปลี่ยนเพื่อเข้าสู่การผลิตสินค้าเกษตรที่ปลอดภัยต่อไป ในด้านการดำเนินงานของกลุ่ม ที่ผ่านมาเกษตรกรผู้ปลูกมะม่วง อ.บางคล้า จะต่างคนต่างปลูกและหาตลาดกันเอง พอสำนักงานเกษตรอำเภอบางคล้า เข้ามาส่งเสริมให้รวมกลุ่มเป็นแปลงใหญ่มะม่วงอำเภอบางคล้า
ตั้งแต่ปี 2559 ก็ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบจากเกษตรกรรายย่อยมาเป็นกลุ่มแปลงใหญ่ มีคณะกรรมการบริหารและสมาชิกวางแผนการผลิตและการตลาดร่วมกัน ปัจจุบันมีสมาชิกจำนวน 50 คน พื้นที่ปลูกมะม่วงประมาณ 1,200 ไร่ โดยจะมีการระดมหุ้นจากสมาชิกหุ้นละ 10 บาท เพื่อใช้เป็นทุนดำเนินการของกลุ่ม ผนวกกับได้รับเงินสนับสนุนจากโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่
จึงได้นำมาจัดตั้งกองทุนสำหรับจัดซื้อปุ๋ยและสารกำจัดศัตรูพืชมาจำหน่ายให้กับสมาชิกในราคาถูก โดยที่สมาชิกสามารถนำไปใช้ก่อนจ่ายเงินทีหลัง ส่วนผลกำไรจากการขายมะม่วงและปัจจัยการผลิตจะนำมาปันผลให้กับสมาชิกทุกปี ​ด้านนางเทวารักษ์ ฉิมไทย Young Smart Farmer และกรรมการฝ่ายการตลาดของกลุ่มแปลงใหญ่มะม่วงบางคล้า กล่าวว่า เดิมทีการตลาดของกลุ่มแปลงใหญ่ที่นี่ก็ยังเป็นการขายกันเองมีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อถึงสวนได้ราคาดีบ้างไม่ดีบ้าง พอตนเข้ามาเป็นสมาชิกกลุ่มเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ก็เริ่มขยายช่องทางตลาดออนไลน์
โดยรับซื้อผลผลิตจากสมาชิกที่ประสบปัญหาขายผลผลิตไม่ได้หรือมีผลผลิตมากเกินไป ในราคาประกันสูงกว่าตลาดกิโลกรัมละ 5 บาท เพื่อขายผ่านเพจ Facebook “กลุ่มแปลงใหญ่มะม่วงอำเภอบางคล้า” และเพจ “บ้านนี้มีรักฟาร์มสุขสำราญ” โดยผลกำไรหลังหักค่าใช้จ่ายจะส่งคืนเข้ากองทุนของกลุ่ม เช่น ปีที่แล้วขายได้ 3 ตัน จะหักกำไรคืนกลุ่มกิโลกรัมละ 5 บาท เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังได้ช่วยติดต่อประสานนำสินค้าเกรดพรีเมี่ยมมาตรฐาน GAP ไปวางจำหน่ายใน ท็อปส์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งสินค้าของกลุ่มแปลงใหญ่จะติดสัญลักษณ์คิวอาร์โค้ด (QR Code) สามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงที่มาแหล่งผลิตได้ สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคอีกขั้นหนึ่ง
“สมาชิกกลุ่มแปลงใหญ่มีอายุเฉลี่ย 60 ปีขึ้นไป เขามีประสบการณ์การปลูก แต่ด้านการตลาดแล้วบางคนยังยึดติดกับการขายผลผลิตยกเข่งคละเกรด ได้ราคาไม่ดี เราในฐานะยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์จึงอยากเข้ามาช่วยคนที่ไม่มีโอกาสเข้าถึงตลาดออนไลน์ให้เขามีทางเลือกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะช่วงวิกฤติโควิด 2 รอบที่ผ่านมา สมาชิกสามารถขายผลผลิตผ่านตลาดออนไลน์ได้ จึงเริ่มเปลี่ยนมุมมองหันมาให้ความสำคัญตลาดออนไลน์และมีการคัดเกรดสินค้าควบคุมคุณภาพผลผลิตมากขึ้น เพราะเขาก็จะขายผลผลิตได้ในราคาที่สูงขึ้นตามคุณภาพนั่นเอง” นางเทวารักษ์ กล่าว