จะทานผักกาดดองสักมื้อ ควรเลือกซื้อที่ปลอดภัยต่อสุขภาพดีไหม  

การดองผักเป็นภูมิปัญญาของคนโบราณเพื่อถนอมอาหารให้สามารถเก็บไว้ทานได้นาน หรือเก็บไว้ทานในยามที่อยู่นอกฤดูกาลของอาหาร ทั้งนี้ ชาวเอเชียหลายประเทศนิยมทำผักดองไว้เป็นเครื่องเคียง หรือเป็นส่วนหนึ่งในเมนูอาหารได้หลากหลายชนิด ภูมิปัญญาดังกล่าวได้ตกทอดมาหลายรุ่นจนถึงปัจจุบันที่ยังคงนำเมนูอาหารนี้เผยแพร่จนได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้รักสุขภาพ

เกี่ยมฉ่ายกับข้าวต้มร้อนๆ

“ผักกาดดองไร้สาร by From Farm to Fork” แบรนด์ผักกาดดองเพื่อสุขภาพ จากผักกาดเขียวในสวนที่ปลูกอย่างมีคุณภาพสู่กระบวนการผลิตที่เอาใจใส่ควบคุมอย่างใกล้ชิด สร้างความเปรี้ยวตามธรรมชาติ ด้วยกรรมวิธีผลิตแบบดั้งเดิมและปลอดภัย บรรจุในแพ็กเกจที่สะอาด ได้มาตรฐาน ยืดอายุการจัดเก็บด้วยเครื่องสุญญากาศโดยไม่ต้องใส่สารกันเสีย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “สด สะอาด อร่อย ปลอดภัย ไร้สาร”

ครอบครัวผักกาดดองไร้สาร by From Farm to Fork
คุณหญิงดูแลการผลิตด้วยตัวเอง

คุณสุชาดา วรรณวรรค หรือ คุณหญิง เจ้าของแบรนด์ เผยว่า จุดเริ่มต้นที่ก้าวมาสู่ธุรกิจผลิตผักกาดดองไร้สารเกิดจากแต่เดิมครอบครัวมีอาชีพเกษตรกรรมปลูกผักกาดเขียวส่งโรงงานแปรรูปเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมผักกาดกระป๋องอยู่นานแล้ว แต่จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ครอบครัวและชาวบ้านร่วมอาชีพได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถขายผลผลิตอย่างที่เคยทำมาได้

กระทั่งตัวเองเดินทางกลับมาดูแลแม่แล้วพบเห็นปัญหาจึงชวนกันผลิตผักคุณภาพ ใช้กระบวนการหมักแบบโบราณ เอาใจใส่และตระหนักในทุกกระบวนการผลิตจนออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ผักกาดดอง by From Farm to Fork ยึดหลักสดจากสวนสู่โต๊ะอาหาร ที่ขายอยู่ตอนนี้มีทั้งหมด 5 ชนิด ได้แก่ 1. ผักกาดดองไร้สารสูตรโบราณ 2. ผักกาดดองสามรส (เกี่ยมฉ่าย)   3. เกี่ยมฉ่ายยำ 4. เกี่ยมฉ่ายน้ำมันงา และ 5. ผักกาดดองแห้ง (หั่มช้อยกอน) เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับทุกเพศวัย แต่ที่นิยมส่วนมากเป็นลูกค้าสายสุขภาพ ผู้สูงอายุ หรือคนป่วย มีขายทางออนไลน์ และร้านสุขภาพบางแห่ง

ใจผักสำหรับผลิตเกี่ยมฉ่าย

คุณหญิง ให้รายละเอียดวิธีการปลูกผักกาดเขียวว่า ครอบครัวใช้พื้นที่ปลูกผักกาดเขียวรวมทั้งสิ้น 30 ไร่ บริหารการปลูกแบบหมุนเวียนเพื่อให้มีผลผลิตไว้ตลอดต่อเนื่อง ใช้เมล็ดพันธุ์ปลูก ซื้อมาจากร้านเกษตรเก่าแก่ในพื้นที่ เริ่มปลูกด้วยการตีหน้าดินชักร่องความสูง 10 เซนติเมตร ความกว้าง 150 เซนติเมตร ระยะปลูกของต้นห่าง 30 เซนติเมตร ให้หยอดเมล็ดพันธุ์ลงในหลุมแล้วคลุมฟาง

ความสมบูรณ์ของผักกาดเขียว

รดน้ำช่วงเช้าและเย็นจนกว่าจะงอก เมื่อต้นโตได้ 11 วัน ใส่ปุ๋ยสูตร 46-0-0 และเมื่อถึง 20 วัน ใส่ปุ๋ยสูตร 16-20-0 จนถึง 30 วัน ใส่ปุ๋ยสูตร 46-0-0 การให้น้ำเป็นระบบสปริงเกลอร์ รดน้ำเช้า-เย็น เป็นเวลา 45 วัน ใช้เวลารด 7-10 นาที หลังจาก 45 วันแล้ว รดเวลาใดเวลาหนึ่งจนกว่าผักจะได้ตัด หลังปลูกใช้เวลาประมาณ 55-57 วัน จึงเก็บผลผลิต

ตัดผลผลิตลำเลียงออกมาจากแปลง

หลังจากตัดผลผลิตแล้วนำมาล้างทำความสะอาด ตัดแต่งใบที่ไม่สมบูรณ์ออก แล้วนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ผักกาดดองจำนวน 5 ชนิด เริ่มจากชนิดแรก ผักกาดดองไร้สารสูตรโบราณ หมักเกลือโดยเป็นการดองแบบโบราณจะใส่ผักกาดเขียวลงในโอ่ง ใส่ให้เต็มแล้วเทน้ำพร้อมใส่เกลือลงในโอ่ง ในขั้นตอนการดองด้วยเกลือเป็นการถนอมอาหารตามวิธีเก่าแก่เพื่อให้เก็บรักษาไว้ได้นาน

จากนั้นใช้ไม้ไผ่กดทับผักไว้เพื่อต้องการให้จมน้ำแล้วปิดฝาโอ่งทิ้งไว้ 2 วัน เมื่อได้กำหนดนำผักออกมาล้างเพื่อลดโซเดียมลง ไม่ต้องการให้ผักมีความเค็มมากเพื่อความปลอดภัยของลูกค้า แล้วนำไปแช่โอ่งต่อเพื่อหมักด้วยน้ำดองที่ใช้น้ำซาวข้าว น้ำตาล และเกลือเป็นส่วนผสมถือเป็นการปรุงรส ให้ซึมเข้าไปในเนื้อผักสร้างความอร่อย โดยสูตรการดองเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ต่างกันในแต่ละแห่ง ให้ทิ้งระยะเวลาดองปรุงรสไว้ประมาณ 4 วัน ภายหลังจากการดองปรุงรสแล้วผักจะมีรสเปรี้ยว ถ้ายิ่งอากาศร้อนมากเท่าไรผักจะมีรสเปรี้ยวเร็วขึ้น

รดน้ำด้วยสปริงเกลอร์ให้ความชุ่มชื้นทั่วแปลง

เมื่อได้กำหนดเวลาดองปรุงรสจึงนำมาแพ็กใส่ถุงสุญญากาศ แล้วซ้อนด้วยถุงพลาสติกหนาอีกชั้นเพื่อความปลอดภัยระหว่างขนส่ง บรรจุขนาดเดียว 500 กรัม ราคาขายห่อละ 55 บาท (ไม่รวมค่าส่ง)

ผลิตภัณฑ์ชนิดที่สอง ผักกาดดองสามรส (เกี่ยมฉ่าย) เมนูนี้คุ้นเคยกันมากบนโต๊ะอาหารเช้าเคียงคู่กับข้าวต้มร้อนๆ การผลิตเกี่ยมฉ่ายใช้ใจผักของผักกาดเขียวซึ่งไม่ได้มีทุกต้น โดยผักกาดเขียว 100 ต้น จะพบต้นที่มีใจผักเพียง 20 ต้นเท่านั้น ถ้าหากในช่วงอากาศหนาวจะได้มากขึ้น ดังนั้น การนำใจผักมาผลิตเป็นเกี่ยมฉ่ายสำหรับครอบครัวคุณหญิงจะทำเฉพาะช่วงที่มีใจผักเท่านั้น ไม่ได้ทำตลอด จึงมีขายจำนวนไม่มาก

ผลิตภัณฑ์ผักกาดดองไร้สาร by From Farm to Fork

ขั้นตอนการผลิตเกี่ยมฉ่าย คุณหญิง บอกว่า เมื่อพบผักกาดเขียวต้นที่มีใจผักอยู่ด้านใน จะดึงใบหุ้มออกให้หมด แล้วให้นำไปดองเค็มเพื่อรักษาคุณภาพก่อนแล้วนำมาล้างความเค็มออกก่อนจะนำไปหมักปรุงรสด้วยน้ำดองที่มีสูตรดองแบบสามรส แล้วแช่ทิ้งไว้ 4 วัน เกี่ยมฉ่ายสามรสบรรจุขนาด 500 กรัม ขายราคาห่อละ 130 บาท คุณหญิง ชี้ว่า ราคาขายเกี่ยมฉ่ายจะสูงกว่าผักกาดดองใบเนื่องจากใจผักมีน้อย รวมถึงขั้นตอนการทำที่ยุ่งยากกว่า

สำหรับผลิตภัณฑ์เกี่ยมฉ่ายมีแตกไลน์ประเภทออกไปอีก 2 อย่าง คือ เกี่ยมฉ่ายยำ จะชูรสชาติจัดจ้านด้วยการใส่พริกสดในขั้นตอนหมักปรุงรสเพื่อสร้างรสเผ็ด ถือเป็นการยำเผ็ดให้ลูกค้าสำเร็จรูปเลย พอลูกค้าซื้อไปสามารถทำเป็นผักยำได้ทันทีอย่างเกี่ยมฉ่ายยำกระเพาะหมู แต่หากความเผ็ดยังไม่พอลูกค้าสามารถปรุงรสได้ตามใจชอบ และอีกชนิดเป็น เกี่ยมฉ่ายคลุกน้ำมันงา ด้วยการนำเกี่ยมฉ่ายยำมาใส่น้ำมันงาขาวคั่วให้หอม ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ขายดีเป็นอันดับสองรองจากผักดองโบราณ

ผักกาดดองเปรี้ยวแบบโบราณเสริมจุลินทรีย์โพรไบโอติก ปลอดภัยด้วยวิธีการดองแบบออร์แกนิก ไม่ใส่วัตถุกันเสีย สารปรุงรส และกรดน้ำส้ม
“เคาหยก” เมนูที่ใช้สามชั้นตุ๋นผักกาดดองแห้งหรือใช้ขาหมูแทนมีรสอร่อยล้ำเลิศ

ผลิตภัณฑ์ตัวสุดท้ายเป็น ผักกาดดองแห้ง บรรจุขายเป็นแพ็กขนาด 115 กรัม ราคา 70 บาท เป็นผักกาดดองแห้งสูตรโบราณหรือที่เรียก (หั่มช้อยกอน) โดยนำผักกาดดองมาตากแห้ง ซึ่งต่างกับการนำผักกาดสดมาคลุกเกลือตากแห้งแบบกับที่วางขาย เมนูยอดฮิตที่รู้จักกันดีคือ “เคาหยก” ที่นำผักกาดดองแห้งมาปรุงร่วมกับหมูสามชั้นหรือขาหมู สร้างรสชาติให้มีความอร่อยล้ำเลิศ สินค้าชนิดนี้เมื่อผลิตเสร็จแล้วน้ำหนักจะลดลงมามาก ผักสด 2 กิโลกรัม เมื่อทำเป็นผักดองเหลือ 1 กิโลกรัม พอนำไปทำผักดองแห้งเหลือเพียง 1 ขีด จึงทำให้มีราคาสูง

จัดเก็บด้วยเครื่องสุญญากาศโดยไม่ต้องใส่สารกันเสีย

ผักกาดดอง by From Farm to Fork นับเป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่ไม่เพียงเกิดจากความตั้งใจสร้างสรรค์ความอร่อยแบบสูตรโบราณให้กับผู้บริโภค แต่ยังมุ่งหวังให้เป็นเมนูจากฟาร์มสู่โต๊ะอาหารที่มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคเพื่อสุขภาพที่สมบูรณ์อย่างแท้จริง

หมักด้วยเกลือ แนวทางถนอมอาหารแบบโบราณ
ผักกาดดองแห้งตากในโรงเรือนที่ปลอดภัย

สนใจต้องการสั่งซื้อผักกาดดองและเกี่ยมฉ่ายแบรนด์ by From Farm to Fork ได้ที่ คุณหญิง โทรศัพท์ 098-252-9064 ที่อยู่ 117/6 หมู่ที่ 1 ตำบลทุ่งทอง อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี  หรือดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์ได้ทาง FB: ผักกาดดอง by From Farm to Fork