มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ พัฒนาชีวิตชนบท ร่วมสร้าง “พลเมืองดีคุณภาพของสังคม”

“โครงการสนับสนุนทุนการศึกษานักเรียนในพระราชานุเคราะห์ฯ ที่มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 20 เป็นโครงการที่สร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับนักเรียนศิษย์เก่าโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาเท่าเทียมกับเยาวชนในเมือง พร้อมกับการเสริมสร้างทักษะชีวิต ทักษะอาชีพ เพื่อให้เยาวชนเติบโตเป็นคนดี คนเก่ง และมีศักยภาพในการนำองค์ความรู้กลับไปพัฒนาชุมชนตนเองให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น”

คุณอาภาพร เจ๊กกลัด หรือ น้ำ เจ้าหน้าที่ฝึกอาชีพและส่งเสริมอาชีพ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท บอกถึงความมุ่งมั่นของโครงการที่ตัวเธอเองก็ได้รับโอกาสเช่นเดียวกันนี้ ทำให้นักเรียนทุนเครือเจริญโภคภัณฑ์อย่างเธอ ได้ศึกษาในสาขาส่งเสริมการเกษตร มหาวิทยาแม่โจ้ และได้กลายเป็นหนึ่งในทีมงานผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ “โครงการสนับสนุนทุนการศึกษานักเรียนในพระราชานุเคราะห์ฯ” หลังจากที่ได้เข้าฝึกงานกับโครงการทุนเครือฯ และได้ช่วยงานที่มูลนิธิฯ ในโครงการศูนย์ฝึกอาชีพเยาวชนเกษตร จนเมื่อจบการฝึกงานกับทุนเครือฯ เธอได้ฝึกงานสหกิจของมหาวิทยาลัยต่อที่นี่อีก 4 เดือน ตลอดเวลากว่าครึ่งปีกับการฝึกงานกับมูลนิธิฯ น้ำได้เปิดโลกทัศน์และมุมมองใหม่ๆ ในการทำงานช่วยเหลือสังคม จนกลายเป็นแรงบันดาลใจที่อยากส่งต่อโอกาสดีๆ ที่เคยได้รับให้คนอื่น และมีส่วนร่วมสร้างพลเมืองดีคุณภาพของสังคม

คุณนิติธร วรศิลป์ธนโชติ หรือ น้องซองอุ๊ ที่จบการศึกษาเกียรตินิยมอันดับ 1 ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.69 จากคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาวิชาศิลปะและการออกแบบ มหาลัยราชภัฏเพชรบุรี เล่าถึงจุดเริ่มต้นว่า หลังจากได้รับการคัดเลือกให้รับทุนการศึกษาในโครงการตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษา จึงได้เข้ามาอยู่ในศูนย์ฝึกอาชีพเยาวชนเกษตร อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ที่นี่นักเรียนทุกคนจะได้รับการฝึกทักษะ 4 ด้าน ทั้งการเรียน ทักษะชีวิต ทักษะอาชีพ รวมถึงทักษะความเป็นผู้นำและคุณธรรม นอกจากได้รับโอกาสในการเรียนต่อแล้ว ยังได้ฝึกฝนทักษะอาชีพหลากหลาย ทั้งปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ ที่สำคัญคือได้รู้จักระเบียบวินัย ซึ่งเป็นโอกาสที่หาที่ไหนไม่ได้แล้ว ขอฝากน้องๆ เมื่อได้รับโอกาส อย่าทิ้งไป ขอให้ตั้งใจเรียน ให้คิดถึงคนทางบ้านและตัวเราเอง เมื่อมีโอกาสก็อยากให้กลับไปช่วยเหลือหมู่บ้าน หรือนำความรู้ที่มีไปสู่สังคม

ส่วน คุณวรวุธ ขันอาสา หรือ น้องท็อป บัณฑิตป้ายแดงจากสาขาเทคโนโลยีไฟฟ้า คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี อีกหนึ่งความภูมิใจของมูลนิธิฯ บอกว่า ดีใจมากกับความสำเร็จในครั้งนี้ ที่ทำให้พ่อแม่ภูมิใจ เพราะเป็นคนแรกในครอบครัวที่เรียนจบมหาวิทยาลัย และจะมีวันนี้ไม่ได้ หากไม่ได้รับโอกาสให้เป็นนักเรียนทุนในโครงการ ทำให้ได้มาศึกษาต่อในโรงเรียนวังไกลกังวลในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่คอยช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายทั้งค่าเทอม และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ของครอบครัวซึ่งมีฐานะค่อนข้างยากจน นอกจากนี้ การได้มาอยู่ในศูนย์ฝึกฯ ทำให้ได้ฝึกทักษะหลายอย่าง ตั้งแต่การทำเกษตร จนถึงการทำอาหาร ที่กลายเป็นทักษะติดตัวจนถึงทุกวันนี้

“โครงการสนับสนุนทุนการศึกษานักเรียนในพระราชานุเคราะห์” เป็นหนึ่งในโครงการสนองแนวพระราชดําริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชหฤทัยมุ่งมั่นช่วยเหลือเด็กเยาวชนที่ขาดโอกาสในถิ่นทุรกันดารให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยมูลนิธิฯ ร่วมกับสำนักงานโครงการส่วนพระองค์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน โรงเรียนวังไกลกังวล ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกันสนับสนุนการศึกษาแก่นักเรียนที่จบการศึกษาภาคบังคับ หรือเท่าที่มีการเปิดการเรียนการสอนในโรงเรียนสังกัดตำรวจตระเวนชายแดน (ร.ร.ตชด.) ด้วยการให้ทุนการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 เข้าศึกษาในโรงเรียนวังไกลกังวลฯ โดยมูลนิธิฯ สนับสนุนที่พักค้างประจำ ณ ศูนย์ฝึกอาชีพเยาวชนเกษตร ภายในศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี และมีพี่เลี้ยงจากมูลนิธิฯ ดูแล

นับตั้งแต่ปี 2546 จนถึงปัจจุบัน มีเยาวชนเข้าร่วมโครงการมากกว่า 200 คน ช่วยสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับนักเรียนศิษย์เก่า ร.ร.ตชด. ได้รับการศึกษาทัดเทียมกับเยาวชนในเมือง และสามารถนำความรู้ไปประกอบสัมมาชีพ เป็นคนดีพลเมืองดีชายแดน กลับไปพัฒนาชุมชน จนถึงวันนี้โครงการได้สนับสนุนให้เด็กและเยาวชนทั้งรุ่นที่จบการศึกษาไปแล้วและกำลังศึกษาอยู่ ได้ร่วมเป็นกลไกขับเคลื่อนชุมชนที่เข้มแข็ง เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ และมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ยังคงเดินหน้า “สร้างคนดี พลเมืองดี อาชีพดี ชุมชนสิ่งแวดล้อมดี” ตามปรัชญา 3 ประโยชน์ของเครือซีพี ที่มุ่งสร้างสรรค์ประโยชน์แก่ประเทศชาติและสังคมต่อไป ดังเช่นที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลากว่า 34 ปีที่ผ่านมา