หนุ่มสมุทรปราการ เลี้ยงปลานิลลดต้นทุน ปลาได้คุณภาพ ผลผลิตต่อรอบได้กำไรสูง

การทำประมงในเรื่องของการเลี้ยงปลาเป็นการค้านั้น เกษตรกรได้ให้ความสำคัญในเรื่องของการลดต้นทุนเป็นอย่างมาก เพราะผลกำไรจะได้มากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่ที่กระบวนการจัดการว่าจะเลี้ยงอย่างไรให้มีต้นทุนที่ลดลง การเลี้ยงปลานิลก็เช่นกันมีเกษตรกรให้ความสนใจในเรื่องของการเลี้ยงแบบประหยัดต้นทุน นอกจากปลานิลจะได้คุณภาพแล้ว ไซซ์ขนาดยังได้ตรงตามที่ตลาดต้องการอีกด้วย

คุณวีรยุทธ คล้ายสุวรรณ์ หรือ คุณอาร์ฟ

คุณวีรยุทธ คล้ายสุวรรณ์ หรือ คุณอาร์ฟ อยู่บ้านเลขที่ 252 หมู่ที่ 12 ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ได้มารับช่วงต่อในเรื่องของการเลี้ยงปลาจากครอบครัว โดยเขาได้ประหยัดต้นทุนในเรื่องของอาหาร จึงทำให้การลดต้นทุนต่ำลง และมีผลกำไรเพิ่มขึ้น ทำเป็นอาชีพที่มั่นคงมาถึงปัจจุบัน

คุณอาร์ฟ เล่าว่า เดิมทีการเลี้ยงปลาเนื้อเป็นการค้าทำมาตั้งแต่สมัยคุณพ่อคุณแม่ของเขาแล้ว แต่สมัยก่อนนั้นการเลี้ยงยังไม่ได้ผลกำไรมากนัก เพราะมีการเลี้ยงที่เป็นวิธีการเดิมๆ เมื่อเขาตกลงปลงใจที่จะดำเนินการต่อ จึงได้ขอครอบครัวมาทำการเลี้ยงในแบบวิธีของเขา 1 บ่อ ทดลองเลี้ยงโดยใช้อาหารลดต้นทุน ผลปรากฏว่าประสบผลสำเร็จ และขยายการเลี้ยงออกไปเรื่อยๆ จนครอบครัวไว้วางใจให้ทำทั้งหมด

การคัดไซซ์ปลานิล

“สมัยก่อนที่ครอบครัวเลี้ยง ไม่ได้ใส่ใจในเรื่องของการลดต้นทุน บางช่วงปลานิลขายได้กิโลกรัมละ 35 บาท ทำให้กำไรแทบจะไม่เหลือ หรือบางช่วงขาดทุนก็มี พอผมได้มาสานต่อ ผมก็เลยมาพัฒนา ให้การเลี้ยงมีทางเลือกมากขึ้น เพื่อให้การเลี้ยงปลานิลของครอบครัวมีความมั่นคง ผมก็เลยสืบเสาะหาแหล่งอาหารลดต้นทุน โดยติดต่อจากโรงงานตรง ทำแบบนี้มาก็มากกว่า 6 ปีแล้วครับ การเลี้ยงในแบบของผม”

ปลานิลไซซ์ขนาดที่ตลาดต้องการ

ในขั้นตอนของการเลี้ยงปลานิลให้ได้คุณภาพนั้น คุณอาร์ฟ เล่าว่า หลังจากจับปลานิลขายจนหมดบ่อแล้ว จะทำการเตรียมบ่อด้วยการวิดน้ำให้แห้ง จากนั้นปรับพื้นที่บ่อให้ดีพร้อมกับโรยปูนขาวลงไปในก้นบ่อ ตากบ่อทิ้งไว้ 7-14 วัน จากนั้นนำน้ำใส่ลงในบ่อได้ทันที ก่อนที่จะนำลูกปลานิลลงมาปล่อยเลี้ยง จะทำอาหารให้กับปลาภายในบ่อก่อน โดยทำแซนด์วิชปลาเพื่อให้มีแพลงก์ตอนในช่วงแรก

กุ้งขาวที่เลี้ยงเสริมภายในบ่อปลานิล

เมื่อเตรียมบ่อเลี้ยงเรียบร้อยแล้ว นำลูกปลานิลที่มีอายุ 1 เดือนที่ผ่านการอนุบาลมาลงเลี้ยงในบ่อที่เตรียมไว้ โดยปลานิลที่นำมาปล่อยมีขนาดไซซ์อยู่ที่ 40 ตัวต่อกิโลกรัม ซึ่งบ่อเลี้ยงมีขนาดอยู่ที่ 20 ไร่ ปล่อยปลาเลี้ยงอยู่ที่ไร่ละ 1,000-1,200 ตัว โดยอาหารที่ใช้เลี้ยงในระยะนี้เป็นเศษอาหารที่ซื้อมาจากโรงงาน มีโปรตีนสูงมากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ให้กินประมาณ 1 เดือน วันละ 2 มื้อ ช่วงเช้าและเย็น

แม่ค้ามาจับปลานิลถึงหน้าบ่อ

เมื่อเลี้ยงผ่านไปจนปลานิลได้อายุ 2 เดือนครึ่ง ปลาจะมีขนาดไซซ์อยู่ที่ 7-8 ตัวต่อกิโลกรัม จากนั้นทำการเปลี่ยนสูตรอาหารที่มีเปอร์เซ็นต์โปรตีนลดลง โดยเลี้ยงด้วยเศษอาหารลดต้นทุนควบคู่ไปกับการเลี้ยงอาหารเม็ดให้กินวันละ 2 มื้อ เช้าและเย็นเหมือนเดิม จนปลานิลได้อายุ 3 เดือนครึ่ง จึงจะเปลี่ยนเลี้ยงด้วยอาหารวันละ 1 มื้อ และเปอร์เซ็นต์โปรตีนอยู่ที่ 16 ยืนพื้นการเลี้ยงเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนปลานิลได้อายุ 7-8 เดือน จะได้ไซซ์ขนาดที่จับขายได้

“พอครบอายุเดือนที่กำหนด ปลานิลก็จะได้ไซซ์ขนาดที่ 900 กรัม ถึง 1.2 กิโลกรัม โดยไซซ์นี้เป็นขนาดที่แม่ค้าต้องการ ซึ่งอายุการเลี้ยงก่อนที่ปลาจะครบกำหนดจับได้ ผมก็มีปล่อยกุ้งขาวลงไปเลี้ยงด้วย เพราะว่ากุ้งขาวจะมีอายุการเลี้ยงที่โตไวกว่าปลานิล เราสามารถทำรายได้จากตรงนี้ได้เลย และการเลี้ยงกุ้งก็ไม่เปลืองอาหาร กุ้งจะกินเศษอาหารที่ก้นบ่อของปลา ช่วยกำจัดของเสียไปด้วยในตัว”

การให้อาหารปลานิล

การทำตลาดเพื่อขายปลานิลภายในบ่อ คุณอาร์ฟ บอกว่า ปลานิลที่เลี้ยงภายในบ่อขนาด 20 ไร่ จำนวนปลาที่จับขายได้ทั้งหมดต่อบ่อ น้ำหนักเฉลี่ยน้อยสุดอยู่ที่ 15 ตัน และมากสุดอยู่ที่ 20 ตัน โดยจะมีแม่ค้านำคนเข้ามาจับเองถึงหน้าบ่อ เขาทำเพียงจดตัวเลขหน้าเครื่องชั่งเท่านั้น ซึ่งปลานิลที่จับขายราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 48-49 บาท ราคาในแต่ละช่วงสามารถขึ้นลงได้ตามกลไกของตลาด

การจับปลานิล

จากการที่ลองผิดลองถูกด้วยการเลี้ยงแบบลดต้นทุนนี้เอง ทำให้การเลี้ยงปลานิลของเขา การจับแต่ละรอบการผลิตมีกำไรเหลือเพิ่มมากขึ้น เขามองว่าปลานิลยังเป็นปลาที่ตลาดยังมีความต้องการ หากมีการเลี้ยงแบบประหยัดต้นทุน โดยเฉพาะในเรื่องของต้นทุนอาหาร จะช่วยให้การเลี้ยงไม่เสมอตัวหรือขาดทุน เพราะการเลี้ยงปลานิลต้องมีองค์ประกอบ 3 อย่าง คือ แหล่งน้ำดี ลูกพันธุ์ปลานิลดี และอาหารที่ดีให้อัตราการแลกเนื้อสูง ก็จะทำให้ปลานิลมีคุณภาพเป็นที่ต้องการของตลาด

ลูกพันธุ์กุ้ง

“หลังจากที่ผมประสบความสำเร็จนี้เอง ทำให้ครอบครัวเกิดการยอมรับ ว่าวิธีการเลี้ยงของผมเป็นวิธีที่ดี และสามารถเป็นตัวอย่างให้กับเกษตรกรท่านอื่นๆ ได้ เพราะผมลงมือทำเองจริงๆ ทำให้การเลี้ยงปลานิลถือเป็นอาชีพที่มั่นคงสำหรับผมตอนนี้ คนที่สนใจอยากเลี้ยง ก็จะแนะนำว่า ค่อยๆ ทำและเรียนรู้ไปเรื่อยๆ หาพื้นที่ที่มีแหล่งน้ำดี และลูกพันธุ์ปลานิลต้องผ่านการแปลงเพศอย่างมีคุณภาพ ก็จะช่วยให้การเลี้ยงมีชัยไปกว่าครึ่งครับ”

การจับกุ้งขึ้นมาขาย

สำหรับท่านใดที่สนใจในเรื่องของการเลี้ยงปลานิลประหยัดต้นทุน หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ คุณวีรยุทธ คล้ายสุวรรณ์ หรือ คุณอาร์ฟ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 084-036-8688