“รากถั่วพูต้ม” อาหารพื้นถิ่นราชบุรี หากินยาก 1 ปี มีครั้งเดียว กินฝักก็ดี กินรากก็ได้

ไหนใครเคยกิน “รากถั่วพูต้ม” ยกมือขึ้น เรียกได้ว่าเป็นเมนูหากินยาก หลายคนอาจจะไม่ค่อยรู้จัก แต่เป็นของดีจังหวัดราชบุรี 1 ปีมีแค่ครั้งเดียวเท่านั้น! มีจำนวนจำกัด บางคนถึงขั้นสั่งจองข้ามปี ของดีของอร่อยใครจะห้ามใจไหว

ฤดูกาลเก็บเกี่ยวรากถั่วพูคือประมาณปลายเดือนมกราคม-มีนาคมของทุกปี ทำการตัดแต่งรากถั่วพูก่อนนำไปล้างทำความสะอาด รากถั่วพูที่คัดเกรดและตัดแต่งรากแขนงออกเป็นที่เรียบร้อย พร้อมนำไปล้างน้ำทำความสะอาด

การปลูกถั่วพูกินราก

จัดเป็นถั่วพูพันธุ์หนัก ซึ่งเป็นเฉพาะที่สามารถบริโภครากได้ แต่ไม่ใช่ถั่วพูที่ปลูกกินฝักทั่วไป โดยเกษตรกรจะเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้เอง โดยเตรียมแปลงก่อนปลูกโดยหว่านเมล็ดปอเทืองเพื่อบำรุงดินให้ร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี เป็นการเพิ่มธาตุอาหารในดินในรูปแบบปุ๋ยพืชสด

เกษตรบางท่านนิยมปลูกถั่วพูกินรากผสมผสานกับข้าวโพด โดยหยอดเมล็ดข้าวโพดไปพร้อมกันกับถั่วพู ทั้งนี้ เพื่อให้ต้นถั่วพูได้เลื้อยเกาะต้นข้าวโพด ช่วยลดต้นทุนและทดแทนการใช้ไม้ไผ่ในการทำค้าง เมื่อข้าวโพดเจริญเติบโตจนให้ผลผลิตก็สามารถเก็บฝักไปขาย และตัดส่วนยอดไปเลี้ยงโคได้อีกด้วย

วิธีการปลูกถั่วพูกินราก

จะเริ่มในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมของทุกปี เนื่องจากเป็นช่วงต้นฤดูฝน ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการรดน้ำ หลังจากยกร่องดินกว้างประมาณ 1 เมตร และขุดหลุมให้มีระยะห่างกันประมาณ 1 คืบแล้ว หยอดเมล็ดพันธุ์ถั่วพูสายพันธุ์ดั้งเดิม และข้าวโพดลงไปพร้อมกัน 

การดูแลรักษา 

ช่วงแรกจะต้องรดน้ำเช้าเย็น กระทั่งต้นพืชทั้ง 2 ชนิดโต จึงเว้นระยะการให้น้ำตามสภาพอากาศ หรือประมาณ 2 เดือนครั้ง กระทั่งถึงช่วงปลายเดือนธันวาคมหรือต้นมกราคม จึงจะเริ่มขุดดูว่ารากมีขนาดโตพอที่จะนำมาต้มได้หรือยัง 

เมื่อได้ขนาดแล้วก็จะค่อยๆ ทยอยขุดมาต้มจำหน่าย ซึ่งการเพาะปลูกถั่วพูเพื่อเอารากนั้น จะไม่นิยมเก็บฝักไปขายหรือนำมากิน แต่จะทิ้งไว้ให้แก่คาต้น เพื่อนำมาเป็นเมล็ดพันธุ์สำหรับปลูกในฤดูกาลต่อไป

การต้มถั่วพูกินราก

จากนั้นจึงนำรากถั่วพูที่ได้มาตัดแต่ง ล้างทำความสะอาด ก่อนนำไปต้มนานประมาณ 2 ชั่วโมง เมื่อรากเริ่มนิ่มจึงใส่น้ำตาลทรายเพื่อช่วยเพิ่มรสชาติ ต้มต่ออีกประมาณ 1 ชั่วโมง จึงใส่เกลือลงไป ระหว่างนี้จะต้องเพิ่มไฟให้แรงต้มต่ออีกประมาณ 15 นาที เพื่อให้น้ำตาลและเกลือซึมเข้าถึงเนื้อใน ก็จะได้รากถั่วพูต้มรสสัมผัสที่เหนียวนุ่ม รสชาติหวานมัน โดยรากถั่วพูมีสรรพคุณทางยา ช่วยแก้ไอ ขับเสมหะ แน่นหน้าอก อ่อนเพลีย ร้อนใน กระหายน้ำ และไข้กาฬ

หากใครสนใจลิ้มลองรากถั่วพูต้ม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ นายคมสันต์ จันทร์ใหญ่ ประธานกลุ่มแปลงใหญ่ถั่วพู เบอร์โทร. 096-958-8979 และ 032-234-004