“ว่าน” ไม้ประดับนามมงคล สายมูต้องปลูกเพิ่ม “ความเฮง”

การปลูกต้นไม้ นอกจากการหวังผลชื่นชมความงาม สร้างความร่มรื่นแล้ว คนไทยส่วนหนึ่งยังมีความเชื่อเรื่องปลูก “ว่าน” ไม้มงคลเสริมโชคลาภ เสริมบารมี เสริมอำนาจวาสนา เสริมดวงชะตา สร้างความเฮงอีกด้วย จึงขอแนะนำ ว่านไทย ไม้มงคลที่ได้รับความนิยมเพื่อเป็นเกร็ดความรู้ในการเลือกว่าน ไม้มงคลมาประดับ “บ้าน” เสริมความเฮง

ว่านแสงอาทิตย์ หรือ ว่านกุมารทอง ลักษณะดอกสีแดง รูปทรงกลมสวยสะดุดตา ลักษณะของดอกบานคล้ายลำแสงของพระอาทิตย์ ดอกจะบานอยู่ได้นาน 7-10 วัน ว่านแสงอาทิตย์เป็นดอกไม้มงคลที่นิยมนำมาปลูกไว้ในบ้าน โดยเชื่อว่าจะช่วยคุ้มครองผู้ปลูก และคนในครอบครัวให้พ้นจากภัยอันตรายต่างๆ ปลูกลงกระถางตั้งไว้หน้าร้านค้าเสริมเสน่ห์มหานิยม เรียกลูกค้าเข้าร้านไม่ขาด ทั้งเป็นว่านเสี่ยงทาย ผู้ใดปลูกขึ้นดีไม่ตาย ออกดอกเมื่อไหร่ตำราว่านว่าไว้ ผู้ปลูกจะมีโชคลาภ จะออกปีละครั้งในช่วงเดือนพฤษภาคม  ถ้านำดอกว่านไปเคี่ยวน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันถั่วไว้ทาตัวจะทำให้อยู่ยงคงกระพันชาตรี

ว่านแสงอาทิตย์
ถุงเงินถุงทองด่าง

ว่านถุงเงินถุงทอง เป็นว่านที่มีชื่อเป็นมงคล นิยมปลูกไว้ในบ้าน เพราะคนโบราณถือว่ามีเงินเป็นถุงเงินถุงทองในบ้านเรือน นิยมปลูกใส่กระถางลายครามสวยๆ ตั้งบนโต๊ะรับแขก ให้เด่นสะดุดตาเพื่อเสริมบารมีให้กับผู้ปลูกมากยิ่งขึ้น ว่านชนิดนี้ดูแลรักษาง่าย ดูแลให้น้ำเช้าเย็น นำออกตากแดดอ่อนๆ ก็พอ

ว่านทุ่งเศรษฐี (ชุนเช่า, ซุ้มกระต่าย, ต้นเมียหลวง, เศรษฐีเรือนแก้ว) ถือเป็นว่านเสี่ยงทาย ในชุดว่านเศรษฐี นิยมปลูกเพื่อเสริมสิริมงคล หากว่านเจริญงอกงามดี ทำให้มีเมตตามหานิยม นำลาภผลมาให้แก่เจ้าของ กลายเป็นเศรษฐีมั่งมีเงินทองสมชื่อ นิยมปลูกไว้หน้าบ้าน ร้านค้า ช่วยให้ค้าขายดี และนิยมใช้ในงานพิธีแต่งงาน ชาวจีนเรียกว่า ต้นชุนเช่า เป็นไม้มงคล จะทำให้คู่สมรสครองรักกันจนแก่เฒ่า มีลูกมีหลานเต็มบ้าน

ว่านทุ่งเศรษฐี ว่านเมียหลวง
ว่านขุนแผนเรียกทรัพย์

ว่านเสน่ห์ขุนแผน (คล้าขุนแผนเรียกทรัพย์ หรือ สามกษัตริย์) เป็นไม้ล้มลุกที่มีลำต้นอยู่ใต้ดิน ลักษณะใบเป็นรูปวงรี มีลายเส้นก้างปลาพาด ออกดอกสีขาว ถ้านำมาปลูกไว้ในกระถางจะมีขนาดพอดี หากนำมาปลูกไว้ก็จะนำความเจริญรุ่งเรือง เสริมสร้างเสน่ห์ให้กับผู้ปลูก นิยมตั้งกระถางในบริเวณที่มีแสงแดดรำไร รดน้ำให้ชุ่มแต่อย่าแฉะเพื่อป้องกันเชื้อรา

ว่านทิพยเนตร หรือ เอื้องคำ ออกดอกช่วงปลายฤดูฝนถึงต้นฤดูหนาว ชอบแสงแดดรำไร น้ำปานกลาง  อยู่ในกลุ่มว่านมงคลด้านเมตตามหานิยมที่นิยมปลูกเลี้ยงไว้หน้าบ้าน

ว่านทิพย์เนตร
ว่านมรกต หรือ ว่านกำเบ้อ

ว่านกำเบ้อ หรือ ว่านมรกต เป็นพืชวงศ์ขิงข่า มีหัวใต้ดิน ออกดอกก่อนออกใบ ดอกสีขาว ปลายกลีบปากเป็นสีเหลือง ต้นเหง้าใช้ตำรักษาแผลสด เป็นว่านเสริมเสน่ห์มงคล ใช้ในทางคงกระพัน

ว่านสาวหลง หรือ “แหน่ง” ในภาษาล้านนา เป็นพืชที่อยู่ในวงศ์ ขิง ข่า อยู่ในสกุลเดียวกับกระวาน นิยมปลูกในบ้านเรือนเพื่อเสริมเสน่ห์ สร้างสิริมงคลแก่สถานที่ เชื่อว่าว่านมงคลที่ช่วยเรียกลูกค้า หากเอาเหง้ามาฝนผสมกับสีผึ้งทาปากหรือน้ำมันจันทน์ทาตัว ทาผม หรือเพียงแต่เอาเหง้าถือติดตัวไป ผู้คนจะหลงรักใคร่ และนิยมใช้ทำพระเครื่อง เป็นส่วนผสมของน้ำยาว่าน 108 นิยมนำเหง้าใส่ในตู้เสื้อผ้าเพื่อกันแมลงและอบเสื้อผ้าให้กลิ่นหอม ปัจจุบันมีการพัฒนาน้ำมันหอมระเหยจากว่านสาวหลงมา ใช้การนวด สปา  หลังพบว่า น้ำมันหอมระเหยจากส่วนใบและรากของว่านสาวหลง มีสรรพคุณช่วยบำรุงผิวพรรณจากการต้านอนุมูลอิสระ เมื่อสูดดมช่วยผ่อนคลาย

ว่านสาวหลง
ว่านมหานิยม

ว่านมหานิยม ตระกูลเดียวกับว่านดอกทอง มีอานุภาพเรื่องเสน่ห์เมตตามหานิยม เชื่อว่าหากนำหัวว่านไปรับประทานจะทำให้เป็นคงกระพันชาตรี เหมาะสำหรับปลูกตามบ้านเรือนและร้านค้า ทำให้เป็นสิริมงคลดีลูกค้าเข้าร้านอย่างต่อเนื่อง ว่านมหานิยมเติบโตได้ดีในดินร่วนหรือดินปนทราย และได้รับน้ำเช้าเย็น ไม่ชอบน้ำขัง และควรให้ว่านได้รับแสงแดดแต่เพียงรำไร หากโดนแดดจัดๆ จะเฉาตายได้ง่าย การขยายพันธุ์ ด้วยวิธีการแยกหน่อ

ว่านมหาลาภ เป็นว่านให้พุทธคุณด้านเมตตามหานิยม เสริมโชคลาภ เงินทอง และความร่ำรวยแก่ผู้ปลูกและครอบครัว เชื่อว่าจะได้ลาภจากการเสี่ยงโชค นิยมปลูกไว้บริเวณหน้าบ้านคู่กับว่านมหาโชค หากเดินทางไปค้าขายให้จุดธูปหนึ่งดอกอธิษฐานตามความต้องการ นอกจากในเรื่องของความเชื่อแล้วว่านมหาลาภยังมีสรรพคุณทางยาที่ช่วยถอนพิษแมลงสัตว์กัดต่อย รักษาแผล ฝี หนอง โดยใช้หัวสดหั่นเป็นแว่นนำไปพอกบริเวณที่โดนแมลงมีพิษกัด ช่วยถอนพิษ

ว่านมหาลาภ
ว่านมหาโชค

ว่านมหาโชค เป็นไม้มงคลที่มีความเชื่อกันว่า หากเลี้ยงว่านให้เจริญงอกงามดี ผู้เลี้ยงจะมีโชคลาภในทุกๆ ทาง ไม่ว่าจะเป็นลาภ ยศ สรรเสริญ บารมี จะมีเข้ามาในบ้านตลอดไม่เสื่อมคลาย วิธีการนำไปปลูก ควรปลูกในดินปนทราย รดน้ำแต่ปานกลางพอให้ดินชุ่ม และให้ได้รับแสงแดดรำไร

อีกกลุ่มเป็น ว่านมงคลที่นิยมใช้เป็นวัตถุดิบมวลสารใส่ในตะกรุด เช่น เพชรหน้าทั่ง ฆ้องหน้าทั่ง กลุ่มว่านสำหรับใช้เป็นมวลสารทำพระ เช่น ว่านพยาอึ่ง กล้วยไม้ดิน ซึ่งสายมู-สายเมตตามหานิยม นิยมนำว่านมงคลมาอบแห้งใส่ตะกรุด พกติดตัว ที่สามารถแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อสร้างอาชีพและรายได้อย่างยั่งยืน

อ้างอิงข้อมูล

https://www.royalparkrajapruek.org/News/news_detail?newsid=668

https://www.wisdomking.or.th/th/tree-knowledge

https://www.panmai.com/Warn/Warn_AMARYL_05.shtml