ลอสแอนเจลิส (ตอนที่ 2)

อเมริกา ก็เหมือน อเมริกา ที่เคยตื่นตาตื่นใจเมื่อปี 2514 คิดว่าบ้านเมืองไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก ก็คงเหมือนกับประเทศในยุโรป หรือในเขตหนาวอื่นๆ ที่อากาศแห้ง ฝนตกน้อย สิ่งก่อสร้าง ถนนหนทางคงทน ไม่ต้องสร้างใหม่ หรือสร้างแล้ว สร้างอีก ไม่รู้จบ ตึกรามบ้านช่องอยู่เป็นหลายร้อยปี จึงไม่ค่อยเห็นการก่อสร้างอะไรมากนักในขณะที่เดินทางไปที่ไหนๆ

ที่ลอสแอนเจลิสนี้ เหมือนบ้านเราอยู่อย่างหนึ่ง คือรถติดยาวเหยียด บนถนนสายหลัก ที่เข้าเมือง ตอนเช้า และออกนอกเมืองตอนเย็น โดยเฉพาะในวันเริ่มต้นสัปดาห์และสุดสัปดาห์ แต่ภายในเมืองก็มีการเดินทางเป็นปกติ ในขณะที่รถติดจะไม่เห็นการแซงออกนอกแถว ไปแทรกเข้าเอาข้างหน้า และตามมาอีกหลายๆ คันเป็นคอขวด ข้อบังคับของเขาคงเข้มงวดมาก ที่ชอบมากๆ อีกอย่างคือ เมื่อรถทุกคันขับมาถึง 4 แยก หรือ 3 แยก แล้วจะต้องหยุดทุกคัน ถ้ามีรถมาจากแยกอื่นก็ให้ไปก่อน หรือผลัดกันทีละคัน

ถึงแยกก่อนไปก่อน ถึงแม้รถจะว่าง ไม่มีรถอื่นๆ เลย ก็ต้องหยุดที่แยกถนนก่อนอยู่ดีทุกคัน สำหรับคนข้ามถนน ต้องข้ามตรงทางข้าม ที่รถทุกคันจะจอดให้เดินข้ามก่อน เป็นการบริการเพื่อนร่วมเดินทางที่สุภาพและยอมรับสิทธิ์ของคนอื่น เป็นไปตามระบบ ได้เคยคุยกับเพื่อนที่อยู่ที่นี่นานๆ แล้วกลับไปอยู่เมืองไทย เขาบอกว่า ระบบที่บ้านเราไม่เหมือนกัน ถ้าเขาจะย้ายที่อยู่กลับบ้านก็ต้องปรับตัว จากความเคยชินเดิมๆ

อยากจะขอแนะนำหลานชายของผมที่มีอยู่ 3 คน เริ่มต้นจากคนที่เล็กสุด ชื่อ โนแลน อายุ 1 ขวบเศษนิดๆ เดินเก่งมาก ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ตาได้พบกับหลาน แต่ยายอยู่ที่นี่ ตอนหลานเกิด แต่ก็ยังไม่ยอมให้ตายายอุ้มในวันแรก เพราะพบกันครั้งแรก ตอนนี้เริ่มคุ้นแล้ว คนที่ 2 ชื่อ แอนดรู อายุ 5 ขวบ เรียนชั้นอนุบาล ซึ่งชื่อนี้เป็นชื่ออาของเขาที่เสียชีวิตในสนามรบตอนก่อนเขาเกิดพอดี จึงตั้งชื่อไว้เป็นอนุสรณ์ และหลานคนโตชื่อ เลียม อายุ 7 ขวบ กำลังจะขึ้นชั้นเรียน สายสามัญ ทั้ง 3 คนนี้ รูปร่างหน้าตาคล้ายกันมาก ท่าทางเป็นเด็กฉลาด เรียนอยู่ขั้นดี และอยู่ในโอวาท เวลาตื่นนอน หลานจะวิ่งมาหาตายาย ให้ตายายกอด เวลานอนก็ต้องหอมแก้มทั้ง 2 คนก่อน (ตายายจึงจะหลับ) สำหรับคนเล็ก ยังนอนข้างเตียงของพ่อแม่

 ตอนนี้ร้อง อ้อแอ้ เริ่มตื่นแล้ว เมื่อคืนนี้ตายายออกไปเดินเล่น หลานคนโตถามหาแล้วร้อง ห่วงตายาย กลัวจะหลงทาง (เฮ้อ!) ซึ่งตอนกลางวันก่อนหน้า หลานทั้ง 3 ได้พาตายายออกไปเดิน นั่งร้านเบอร์เกอร์คิง และไอศกรีมโยเกิร์ต คิดถึงวันจะกลับที่ไม่ทราบว่าจะได้พบกันอีกเมื่อใด คงคิดถึงหลานๆ ทั้ง 3 คนนี้มาก

อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันประกาศอิสรภาพของอเมริกา คือ วันที่ 4 กรกฎาคม ซึ่งเคยมีความประทับใจ เมื่อสมัยมาอเมริกาครั้งแรก เมื่อปี 2514 และในช่วงนั้นกำลังอยู่กับครอบครัวเกษตรกรในชนบท ช่วยทำงานในฟาร์ม เหมือนกับเป็นสมาชิกครอบครัวคนหนึ่งของเขา ซึ่งบรรยากาศเป็นเหมือนในหนังคาวบอยที่เราดูกันตั้งแต่เด็กๆ พวกเราดื่มกินกันทั้งวันคืน สนุกสนาน จำได้ว่าได้ดูขบวนพาเหรดที่ทางหมู่บ้านจัดขึ้นมา และโรดีโอ (แข่งขันขี่ม้าพยศ) ถือว่าเป็นวันพิเศษมากๆ สำหรับชนบทในรัฐโอดาโฮ ครั้งนี้เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ได้อยู่อเมริกา แต่เนื่องจากอายุร่วงโรย ดื่มกินฉลองอะไรไม่ได้ แต่ก็คิดถึงความหลังที่สนุกสนานในครั้งนั้น และครอบครัวที่เคยอยู่ ไม่สามารถจะไปเยี่ยมได้ และไม่ได้ติดต่อกันมาเป็นเวลานานแล้ว

วันนี้ เพื่อนเกษตรรุ่นเดียวกันจะมารับ ขอจบดื้อๆ แบบนี้ก่อน แล้วพบกันใหม่ฉบับหน้าครับ บู๊ คนเคยหนุ่ม