คาดผลผลิตอ้อยปีนี้ แตะ 120 ล.ตัน

  • สูงสุดเป็นประวัติการณ์-ค่าหวานพุ่ง
  • 54 รง. เร่งหีบให้เสร็จก่อนสงกรานต์

นายบุญถิ่น โคตรศิริ ผู้อำนวยการสำนักบริหารอ้อยและน้ำตาลทราย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เปิดเผยว่า หลังจากที่โรงงานน้ำตาลทรายทั่วประเทศ 54 โรงงาน ได้เปิดหีบอ้อยประจำฤดูการผลิตปี 2560/61 ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2560 ถึง 13 มีนาคม 2561 หรือคิดเป็นระยะเวลา 103 วัน พบว่ามีปริมาณอ้อยเข้าหีบแล้ว 98 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่า 12 ล้านตัน เฉลี่ยมีกำลังหีบอ้อย วันละ 1.09 ล้านตัน ดังนั้น มั่นใจว่าปริมาณอ้อยเข้าหีบในวันที่ 15 มีนาคม จะแตะระดับ 100 ล้านตัน และจากการประเมินเบื้องต้นคาดว่าปริมาณอ้อยเข้าหีบฤดูการผลิตปี 2560/61 จะแตะระดับ 120 ล้านตันอ้อย ซึ่งถือเป็นปริมาณสูงสุดเป็นประวัติการณ์

“ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาปริมาณฝนตกดีต่อเนื่อง บวกกับนโยบายการส่งเสริมนำแปลงนามาปลูกอ้อย ทำให้ผลผลิตอ้อยสูงขึ้นมาก ขณะนี้ทุกโรงงานยังคงเปิดหีบอ้อยต่อเนื่องและจะพยายามรับอ้อยเข้าหีบจนถึงกลางเมษายน แต่มีบางโรงที่จะรับไปจนถึงพฤษภาคม” นายบุญถิ่น กล่าว

นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี รองประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด กล่าวว่า  โรงงานน้ำตาลทรายทั้ง 54 แห่งยืนยันจะไม่ปิดรับผลผลิตอ้อยจากชาวไร่คู่สัญญาเข้าหีบที่ยังตกค้าง แม้ว่าปีนี้คาดการณ์ปริมาณผลผลิตอ้อยจะสูงกว่าฤดูปีที่ผ่านมา โดยทุกโรงงานมีเป้าหมายหีบอ้อยให้แล้วเสร็จก่อนเข้าสู่ช่วงสงกรานต์ หรือก่อนเข้าสู่ฤดูฝนในปีนี้ เนื่องจากอาจเกิดปัญหาแรงงานตัดอ้อยไม่เพียงพอ อีกทั้งหากเข้าสู่ช่วงฤดูฝนจะทำให้รถบรรทุกและรถตัดอ้อยเข้าไปจัดเก็บผลผลิตยาก และอ้อยจะมีสิ่ง   ปนเปื้อนเพิ่มขึ้น ประสิทธิภาพการผลิตของโรงงานลดลง และทำให้ผลผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อย (ยิลด์)    ลดลงตามไปด้วย

นายสิริวุทธิ์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์หีบอ้อยล่าสุดพบว่า คุณภาพของอ้อยเข้าหีบเมื่อเทียบระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย มีค่าความหวานเฉลี่ย 12.34 ซี.ซี.เอส. จากปีก่อนอยู่ที่ 12.22 ซี.ซี.เอส. และมีปริมาณผลผลิตน้ำตาลทรายต่อตันอ้อย (ยิลด์) อยู่ที่ 107.52 กิโลกรัม ต่อตันอ้อย เทียบกับปีก่อนที่มียิลด์ 106.52 กิโลกรัม ต่อตันอ้อย หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 1 กิโลกรัม ต่อตันอ้อย ส่งผลให้ช่วงระยะเวลา 102 วัน ที่มีการเปิดหีบอ้อย สามารถผลิตน้ำตาลทรายได้แล้วทั้งสิ้นกว่า 10.41 ล้านตัน

ที่มา : ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน