เผยแพร่ |
---|
เมื่อวันที่ 2 เมษายน เจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์ จ.กาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอยางตลาดร่วมกันนำสุนัขสายพันธุ์ต่างๆจำนวน 40 ตัว จากพื้นที่บ้านนาขาม ต.คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งได้รับเชื้อพิษสุนัขบ้า และเจ้าของไม่มีสถานที่กักกันไปส่งยังศูนย์พักพิงชั่วคราวหรือด่านกักกันสัตว์ จ.นครพนม
ด้านนายวันชัย ถวิลไพร ปศุสัตว์ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยในปี 2560 ที่ผ่านมา ตรวจพบสุนัขติดเชื้อพิษสุนัขบ้าจำนวน 33 ตัวอย่าง และสถานการณ์ตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 จนถึงปัจจุบันตรวจพบ 21 ตัวอย่าง ในพื้นที่ 8 อำเภอ ประกอบด้วย อ.กุฉินารายณ์ อ.กมลาไสย อ.ดอนจาน อ.เมืองกาฬสินธุ์ อ.ยางตลาด อ.นาคู อ.ร่องคำ และ อ.นามน พร้อมทั้งประกาศให้ทั้ง 8 อำเภอเป็นพื้นที่โรคระบาดพิษสุนัขบ้าชั่วคราว โดยล่าสุดตรวจพบในพื้นที่บ้านนาขาม ต.คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ได้นำสุนัขที่ได้รับเชื้อพิษสุนัขบ้านจำนวน 40 ตัวส่งไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวหรือด่านกักกันสัตว์ จ.นครพนม ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ส่งสุนัขที่ได้รับเชื้อในพื้นที่บ้านเก่าน้อย ต.ธัญญา อ.กมลาไสย จำนวน 22 ตัว และพื้นที่ ต.หลุบ อ.เมืองกาฬสินธุ์ อีกจำนวน 17 ตัว ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวแล้วเช่นกัน
นายวันชัย กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ได้กำชับให้ทางสำนักงานปศุสัตว์ จ.กาฬสินธุ์เร่งแก้ไขปัญหาตามนโยบายของกรมปศุสัตว์ “สองบวกหนึ่ง” คือการประกาศเขตระบาดชั่วคราวรัศมี 1-5 กิโลเมตร จากจุดที่พบเชื้อ ซึ่งสุนัขทุกตัวต้องฉีดวัคซีน 100 เปอร์เซ็นต์ โดยสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดจะร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งปูพรมฉีดวัคซีนครอบคลุมทั้ง 18 อำเภอ ของ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งปัจจุบันในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์มีสุนัขที่มีเจ้าของและไม่มีเจ้าของรวมทั้งหมด 130,798 ตัว ส่วนแมวมีทั้งหมด 15,925 ตัว รวม 146,723 ตัว โดยขณะนี้ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนสุนัขและแมวไปแล้ว 90,000 ตัว คาดว่าจะสามารถฉีดครอบ 100 เปอร์เซ็นต์ภายในสิ้นเดือนเมษายน 2561 นี้ ส่วนพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรคทางสำนักงานปศุสัตว์จะได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงเวลา 6 เดือน พร้อมออกหน่วยบริการผ่าตัดทำหมั่นให้กับสุนัขและแมวฟรีในพื้นที่ต่างๆ เพื่อควบคุมจำนวนประชากรสุนัขและแมว โดยเน้นสัตว์ที่ไม่มีเจ้าของ สัตว์ด้วยโอกาสและสัตว์ในพื้นที่เสี่ยง รวมไปถึงความต้องการทำหมั้นสัตว์เลี้ยงของประชาชน
นายวันชัย กล่าวอีกว่า สำหรับสิ่งที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดในตอนนี้คือสุนัขถูกสุนัขที่ติดเชื้อกัดแล้ว แต่เจ้าของกลับปล่อยละเลย ขาดความรับผิดชอบ เพราะอาจจะทำให้การแพร่ระบาดของโรคมากขึ้นได้ ดังนั้นพี่น้องประชาชนทุกคนต้องตระหนักและหมั่นดูแลสัตว์เลี้ยงของตนเอง ซึ่งจะต้องรู้จักทำการฉีดวัคซีนป้องกันโรค อย่างไรก็ตามหากพบสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะสุนัขมีความผิดปกติ เช่น คลุ้มคลั่ง ดุร้าย จำเจ้าของไม่ได้ กัด ขากรรไกรแข็ง น้ำลายฟูมปาก น้ำลายไหล เห่าหอน เจ้าของสัตว์จะต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัด ปศุสัตว์อำเภอ หรือสัตวแพทย์และคลินิกที่อยู่ใกล้ทันที ทั้งนี้หากเจ้าของไม่มีสถานที่กักกันสัตว์เลี้ยงของตนเองก็ให้ประสานยังสำนักงานปศุสัตว์ เพื่อที่จะจัดหาสถานกักกันให้ต่อไป
ที่มา : มติชนออนไลน์