เตือนดู “บอลโลก” ระวังโรคอ้วน

เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน นพ. ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การแข่งขันฟุตบอลโลกปีนี้จะมีการถ่ายทอดสดให้ชมช่วงเย็นและดึกติดต่อกันนานหลายวัน ซึ่งเป็นช่วงเวลานอนหลับพักผ่อน หากไม่มีการเตรียมตัวที่ดีอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะเรื่องการกินอาหาร หากไม่มีการควบคุมอาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่ม และร่างกายเสื่อมโทรม เพราะการนอนหลับไม่เพียงพออาจทำให้เกิดการอ่อนเพลีย เจ็บป่วยได้ง่าย อีกทั้งยังมีผลต่อฮอร์โมนในร่างกายที่ควบคุมความอยากอาหาร จะกระตุ้นให้เกิดความหิวจนนำไปสู่โรคอ้วนได้

“การชมฟุตบอลผ่านจอโทรทัศน์ควรให้อยู่ในระดับสายตา ไม่ควรนั่งชมในที่มืด ต้องเปิดไฟลดความจ้าของแสงโทรทัศน์เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดกับตา หากชมเป็นเวลานานๆ ควรนั่งอย่างถูกวิธี หากนั่งบนเก้าอี้ควรห้อย

ขาลง หากนั่งพื้น ไม่ควรนั่งพับเพียบ ขัดสมาธิ หรืองอเข่านานๆ หากรู้สึกเมื่อยก็ควรเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ ด้วยการลุกขึ้น หรือยืดเหยียดแขน ขา ลำตัว คอ บ่า ไหล่ อย่างง่ายๆ เพื่อเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อทุกส่วน” นพ.ดนัย กล่าว

พญ. นภาพรรณ วิริยะอุตสาหกุล ผู้อำนวยการสำนักโภชนาการ กล่าวว่า อาหารที่ได้รับความนิยมช่วงการชมฟุตบอลโลก ส่วนมากเป็นขนมขบเคี้ยวที่มีไขมันและโซเดียมสูง ซึ่งให้พลังงานมาก แต่มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายน้อยและไม่ดีต่อสุขภาพ อาทิ ป๊อปคอร์น มันฝรั่งทอดกรอบ ข้าวเกรียบทอด ไก่ทอด ไส้กรอก รวมถึงน้ำอัดลม ชาเขียว เครื่องดื่มชูกำลังต่างๆ

“การดื่มชาเขียวรสน้ำผึ้ง 1 ขวด ขนาด 500 มิลลิลิตร ให้พลังงาน 250 กิโลแคลอรี มีน้ำตาล 14 ช้อนชา คู่กับมันฝรั่งทอดกรอบ 1 ถุงใหญ่ ขนาด 57 กรัม ให้พลังงาน 320 กิโลแคลอรี ทำให้ร่างกายได้รับพลังงานทั้งหมดถึง 570 กิโลแคลอรี และการดื่มน้ำอัดลม 1 ขวด ขนาด 500 มิลลิลิตร ให้พลังงาน 200 กิโลแคลอรี คู่กับไส้กรอก 1 ถุง ขนาด 150 กรัม ให้พลังงาน 500 กิโลแคลอรี ร่างกายจะได้รับพลังงานทั้งหมดถึง 700 กิโลแคลอรี ส่วนเบียร์ 1 กระป๋อง ขนาด 350 มิลลิลิตร จะได้รับพลังงาน 137 กิโลแคลอรี ไวน์ 1 แก้ว ขนาด 100 มิลลิลิตร ให้พลังงาน 75 แคลอรี ดังนั้นหากได้รับในปริมาณที่มากเกินความต้องการของร่างกายจะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนและโรคอื่นๆ ตามมา” พญ.นภาพรรณ กล่าว

ที่มา : ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน