ขุนคลัง ชี้เงินต่างชาติเริ่มหยุดไหล ยันไม่แทรกแซงธปท.เรื่องดอกเบี้ย เอดีบีปรับเพิ่มจีดีพีปีนี้ใหม่เป็น 4.2%

“อภิศักดิ์” เชื่อครึ่งปีหลัง ศก.ฟื้น คาดอีก 5 ปีหนี้สาธารณะจะแตะระดับสูงสุดที่ 48% ของจีดีพี เผยเม็ดเงินต่างชาติไหลออกน้อยลง ยันไม่แทรกแซงเรื่องดอกเบี้ย แต่จะใช้นโยบายการคลังแบบผ่อนคลาย เอดีบีปรับเพิ่มจีดีพีปีนี้เป็น 4.2%

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปฐกถาพิเศษเรื่อง “แผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง” ว่า จะยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย ด้วยการจัดทำงบประมาณขาดดุล 4.5 แสนล้านบาท ซึ่งจะไม่กระทบกับฐานะการเงินการคลังแน่นอน ขณะที่การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมองว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าจะทำให้หนี้สาธารณะต่อตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (จีดีพี) ถึงระดับสูงสุดที่ 48% จากปัจจุบันที่ 40.4% ต่ำกว่ากรอบวินัยการเงินการคลังที่ 60% ทั้งนี้ คาดว่าไทยจะเริ่มทำงบประมาณแบบสมดุลได้ในอีก 11 ปีข้างหน้าหรือปี 2572 โดยอยู่ภายใต้สมมติฐานจีดีพีไม่ต่ำกว่า 4%

นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้เริ่มเห็นสัญญาณการหยุดไหลออกของเม็ดเงินต่างชาติที่รุนแรงแล้ว แต่ยืนยันว่าทุนสำรองระหว่างประเทศยังอยู่ในระดับสูง ส่วนการขึ้นดอกเบี้ยนั้นต้องพิจารณา จะเข้าไปแทรกแซงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไม่ได้ นอกจากนี้ รัฐบาลจะต้องเร่งขยายฐานภาษีซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาการเก็บภาษีจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกลุ่มรถจักรยานยนต์ เพื่อดูแล        สิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันการพัฒนาด้านดิจิทัลถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยในเดือนกรกฎาคมนี้จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติแผนการยืนยันตัวตนผ่านระบบออนไลน์ (ดิจิทัลไอดี)

“เชื่อว่าครึ่งปีหลังเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ตามเป้าที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ตั้งไว้ที่ 4.5% โดยเน้นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในอีอีซีที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ ขณะเดียวกันต้องติดตามสถานการณ์สงครามการค้าสหรัฐ-จีน ที่คาดว่าหากสถานการณ์รุนแรงอาจจะส่งผลกระทบกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกลดลง 0.5%” นายอภิศักดิ์ กล่าว

นายยาซูยูกิ ซาวาดะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) เปิดเผยว่า ได้ออกรายงานวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย ฉบับล่าสุดว่า เศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียและแปซิฟิกในปี 2561 และ 2562 จะยังคงแข็งแกร่งแม้ว่าความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้าจะเพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโต 6% ในปีนี้และเติบโต 5.9% ในปี 2562 ทั้งนี้ หากไม่นับรวมเศรษฐกิจอุตสาหกรรมใหม่ของเอเชีย ในฮ่องกง เกาหลี สิงคโปร์ และไต้หวัน คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจภูมิภาคปีนี้จะเติบโตได้ถึง 6.5% และเติบโต 6.4% ในปี 2562 ส่วนประเทศไทยได้ปรับเพิ่ม จีดีพีปีนี้เป็น 4.2% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ 4% ส่วนในปี 2562 ยังคงประมาณการเดิมที่ 4.1%

ที่มา : ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน