ช็อป ชิม “ สับปะรด ” นานาชนิดได้ใน งานเกษตรมหัศจรรย์ 2016

      ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ หากใครว่างอยากชวนมา ชม ช็อป สับปะรดคุณภาพดี รสชาติอร่อย ในงานเกษตรมหัศจรรย์ 2016 ภายใต้ธีมงาน “มหัศจรรย์พันธุ์ข้าวมงคล”  ณ  เอ็มซีซีฮอลล์ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ  ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันอาทิตย์ที่  27 พฤศจิกายน 2559 นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านได้ขนสับปะรดหลากหลายสายพันธุ์ทั้งสับปะรดผลสด หน่อพันธุ์สับปะรด และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสับปะรด เช่น  สับปะรดกวน ข้าวเกรียบสับปะรด รสชาติอร่อย ให้ผู้สนใจเลือกซื้อติดมือกลับไปในราคาไม่แพง

       สับปะรดพันธุ์ฉีกตา ( พันธุ์เพชรบุรี ) ที่เหมาะสำหรับรับประทาน ผลสด ถูกพัฒนาพันธุ์โดย ศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร และสถานีทดลองพืชสวนเพชรบุรี จุดเด่นของสับปะรดพันธุ์นี้คือ มีการเจริญเติบโตดี สามารถปลูกได้ทุกภาคของประเทศไทย สามารถเจริญเติบโตได้ดีแม้ในสภาพอากาศค่อนข้างแห้งแล้ง แต่ไม่ชอบพื้นที่ที่มีน้ำขังแฉะ ให้ ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์ภูเก็ตและสวี ซึ่งอยู่ในกลุ่มพันธุ์เดียวกัน 17.7% และ 23.2% ตามลำดับ  รสชาดหวานอมเปรี้ยว ปริมาณ soluble solids สูงถึง 16.9 องศา Brix และมีปริมาณกรดค่อนข้างต่ำเท่ากับ 0.45 %  มีกลิ่นหอมแรง เนื้อกรอบใกล้เคียงกับพันธุ์สวีและภูเก็ต สีเนื้อเหลืองอมส้มสม่ำเสมอ สามารถแกะแยกผลย่อยหรือตา (fruitlet) ออกจากกันโดยง่าย และรับประทานแกนผลได้

       “ สับปะรด MD2 ” ที่มีรสชาติหวาน หอม เนื้อมีสีเหลืองเข้ม เนื้อตัน แน่น และไม่เป็นโพรง มีวิตามินซีสูงถึง 4 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับสับปะรดพันธุ์อื่นๆ เมื่อรับประทานแล้วไม่กัดลิ้น ทำให้คนรับประทานได้มากขึ้น เมื่อผลแก่จะเปลี่ยนจากผิวสีเขียวเป็นสีเหลืองทองทั้งผล ทำให้เป็นที่ดึงดูดลูกค้า ได้รับการพัฒนามาเพื่อให้เดินทางขนส่งทางเรือได้ โดยไม่เป็น “ไส้สีน้ำตาล” เมื่อต้องอยู่ในห้องเย็นที่อุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส นานเกิน 10 วัน

“ สับปะรดพันธุ์ทองระยอง  ”  ผลไม้เพื่อสุขภาพอีกชนิด ที่สาวกเฮลตี้ไม่ควรพลาด  สับปะรดพันธุ์ทองระยอง เป็นผลไม้เศรษฐกิจพันธุ์ใหม่ของจังหวัดระยอง เกษตรกรชาวจังหวัดระยองได้นำสับปะรดกลุ่ม”ควีน”  มาปลูกและพัฒนาจนได้สายพันธุ์ที่มีคุณภาพและรสชาติอร่อยเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค  แถม สับปะรด “ทองระยอง” ได้รับรางวัลชนะเลิศ ประเภทสับปะรดกินผลสด ในกลุ่มควีน จากการประกวด ผัก ผลไม้ ที่สวนนงนุช จังหวัดชลบุรีเมื่อปี 2558

สับปะรดพันธุ์ทองระยอง  มีลักษณะเด่นอยู่ที่ขอบใบ ต้น จุก จะมีหนามสั้นและแหลมคม มีผลเป็นทรงกระบอก น้ำหนักลูกประมาณ 0.7-1.5 กิโลกรัม ตาสับปะรดนูนไม่แบน  เมื่อผลแก่จัดเปลือกและเนื้อในจะเป็นสีเหลืองทอง มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว รสชาติหวานนำเปรี้ยว เนื้อกรอบ แกนกรอบกินได้หมด  เนื้อแน่นไม่เป็นโพรง   ที่สำคัญ ไม่มีปัญหากัดลิ้นเหมือนกับสับปะรดทั่วไป