นายกสมาคมคนกรีดยาง รับ’เจ็บช้ำน้ำใจ’เกษตรกรหนี้ท่วม โวยตลาดกลางเป็นองครักษ์พิทักษ์พ่อค้า

ยางรายย่อยไม่เชื่อใจผู้ประกอบการเคาะราคาขึ้น 9 องค์กรเครือข่ายจับมือ 12 เสือใต้เตรียมบุกตลาดกลางเพื่อเฉือนราคา รับทุกโครงการ รบ.สร้างหนี้ครัวเรือนเพิ่ม

วันที่ 10 มิถุนายน นายมนัส บุญพัฒน์ นายกสมาคมคนกรีดยางและชาวสวนยางรายย่อย กล่าวถึง สถานการณ์ราคายางพาราในท้องถิ่นว่าหลังจากที่ทาง สคย. ให้เวลา กยท. 2 วัน เพื่อพูดคุยกับผู้ประกอบการ ก่อนที่จะนำน้ำยางสดขึ้นมาราดหน้า กยท.ว่า วันที่ 8 และ 9 มิ.ย. ราคายางแผ่นรมควันขึ้น กก.ละบาทกว่า เป็นการเคาะราคาของพ่อค้าที่พวกเราไม่มีความเชื่อมั่นแต่อย่างใด มาตรฐานไม่ชี้ชัด ไม่มีอะไรที่แน่นอน ขึ้นอยู่กับความพอใจของพ่อค้า นี่คือสิ่งที่พวกเราไม่มีความไว้วางใจแต่อย่างใด

“พวกเรากำลังหารือกับเครือข่าย 9 องค์กรยาง กลุ่ม 12 เสือใต้ และผู้แปรรูปกลางน้ำภาคใต้ได้จัดประชุมแต่ละกลุ่มหาแนวทางแก้ปัญหาราคายางตกต่ำ ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่มาจากเรื่องการตลาดและความไม่ชัดเจนของนโยบายของภาครัฐและ กยท.ต้องแก้ไขเร่งด่วนให้ผู้มีอำนาจมารับปัญหาและความต้องการของพวกเราไปแก้ไขและป้องกันก่อนที่ราคาจะตกต่ำไปกกว่านี้ เป็นการพูดคุยกันในระดับล่าง เบื้องต้นเราจะเชิญผู้ใหญ่ในระดับจังหวัด ซึ่งอาจจะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด มาหารือเพื่อแก้ไขปัญหาเบื้องต้น เพื่อให้ทางตลาดกลางที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนกลางในการดูแลราคายางพารา

แต่วันนี้ตลาดกลางกลับเป็นเหมือนองครักษ์ในการพิทักษ์ผลประโยชน์ให้กับพ่อค้า บริการตั้งแต่นำรถมาบรรทุกยางไปส่งถึงที่ แล้วยังให้พ่อค้ามาฮั้วปั่นราคากันอีก ตลาดกลางต้องเข้าข้างชาวสวนดูและผลประโยชน์ชาวสวน วันนี้ตลาดกลางจะต้องหาเงินทุนมาสักก้อนเพื่อจ่ายเงินแทนพ่อค้าก่อนที่พ่อค้าจะคืนเงินให้ พวกเราไม่ต้องการรอพ่อค้า เอายางไปเอาเงินมา ไม่ต้องข้ามวันข้ามคืน ตกเป็นเบี้ยล่าง วันดีคืนดีกดราคา วันดีคืนดีจ่ายเงินช้าเกินกว่ากำหนด พวกเราจนแล้วจนอีก ที่สำคัญต้องกำหนดเพดานราคายางให้ชัดเจนว่าต้องซื้อในราคาที่ไม่ต่ำกว่า 60 บาท ต้องไม่ลืมว่ายางมีน้อย เพราะฉะนั้นราคาซื้อขายล่วงหน้าจะต้องไม่ต่ำกว่านี้”

นายมนัส กล่าว วันนี้เกษตรกรชาวสวนยางรายย่อยเจ็บช้ำน้ำใจเป็นอย่างมาก เพราะทุกครัวเรือนเป็นหนี้ภาคการเกษตร ตั้งแต่ให้กู้ยืมเพื่อจ่ายเงินกู้นอกระบบ โครงการกู้ยิมเพื่อประกอบอาชีพรายละไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท แม้กระทั่งเงินกู้เพื่อคนมีรายได้น้อย 5 หมื่นบาท นี่ยังไม่รวมอื่นๆอีก ช่วงปิดกรีดมักจะตรงกับช่วงเปิดเทอมถามว่ายางตัดไม่ได้ โรงเรียนเปิดแล้วจะเอาเงินมาจากไหนซื้ออุปกรณ์การเรียนให้กับลูก ก็ต้องกู้เงินดอกรายวันร้อยละ 20 ยืม 1 หมื่นบาท จ่ายดอกวันละ 200 บาท ตกเดือนละ 6,000 บาทเฉพาะดอกอย่างเดียว ยังไม่รวมต้น นี่เป็นตัวอย่างที่ชาวสวนยางกำลังประสบปัญหาหนี้สินในเวลานี้

ต่อข้อถามโครงการต่างของรัฐบาลที่จะสนับสนุนเงินทุนให้กู้เพื่อนำมาประกอบอาชีพว่า ภาพสวยหรูเอาเข้าจริงก็กู้ไม่ได้ เพราะเป็นหนี้เก่าที่ยังค้าง จ่ายไม่หมด ธนาคารตัดทีละรายสองรายก็หมด อานิสงส์จึงตกอยู่ที่พ่อค้าส่งออกรายใหญ่ ได้กู้เงินหลักพันล้าน ชาวสวนกู้อย่างดีรายละไม่เกิน 2 แสน เทียบกันไม่ได้เลย

ต่อข้อถามการเคลื่อนไหวในครั้งนี้มีใบสั่งให้หยุดการเคลื่อนไหวบ้างหรือไม่ว่า สั่งใครผมไม่ทราบ แต่กับผมยังไม่เห็นมีใครสั่ง เราเคลื่อนไหวเรียกร้องราคายางบ่อย ปากท้องประชาชนหากไม่ช่วยกันแล้วใครจะมาช่วยเรา ความถูกต้องย่อมมาก่อน ผมคิดว่ารัฐบาลคงไม่ทำกับเรา แต่รัฐบาลยังหาทางออกไม่พบ พวกข้างๆ จะกันข้อเท็จจริงไว้ก่อนเสมอๆ เราจะไม่ข่มขู่ใครอีกแล้ว เราจะแก้ไขไปทีละชั้น