นายหัวนิคม เมฆรัตนะ คนเกษตรระดับตำนานของจังหวัดสุราษฎร์ธานี

สะสมที่ดินทำสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน ในนาม “สวนประชาราษฎร์” ร้องรัฐบาลแก้ไขปัญหาราคาตกต่ำมานานแล้ว ทางรอดต้องรวมกลุ่มแปรรูปเท่านั้น!!

มีโอกาสได้สนทนาแลกเปลี่ยนกับนายหัวภาคใต้ที่มีชื่อเสียงด้านการทำสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมัน เจ้าของสวนประชาราษฎร์ บ้านตะปาน อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี

เขาชื่อ คุณนิคม เมฆฉาย ปัจจุบันเปลี่ยนนามสกุล เมฆรัตนะ หลายคนเรียกชื่อ นายหัว เพราะความสนิทสนมและมีอัธยาศัยดี ที่สำคัญประกอบอาชีพหลายอย่างที่ผ่านมาจนมีฐานะดีคนหนึ่งในถิ่นภาคใต้
คุณนิคม หรือนายหัว ของบรรดาพี่ๆ น้องๆ ที่ชอบคบค้าสมาคมกันมาช้านาน ถ้าไม่สนิทกันจริงก็ไม่เคยเล่าชีวประวัติให้ฟัง

ไม่อยากเอ่ยถึงสถานะราคายางพารากับราคาปาล์มน้ำมัน สุดจะขมขื่นของคนใต้ที่ประสบมาทุกครัวเรือน แม้กระทั่งสวนประชาราษฎร์ที่มีพื้นที่ปลูกหลายร้อยไร่ก็ถูกหางเลขไปกับเขาด้วย

แรงงานกรีดยางพาราหายากเพราะยางราคาถูก คนกรีดยางไม่ทำแล้ว
ปาล์มน้ำมันมาส่งหน้าโรงกลั่นราคาถูก เดือนเมษายน-พฤษภาคม เหลือกิโลกรัมละ 1.70-1.80 บาท

เพราะฉะนั้น คนเราจะประกอบอาชีพอะไรมันเหมือนแทงหวย จะออกตรงกับเราแทงหรือเปล่า สินค้าเกษตรเอาแน่นอนไม่ได้ เพราะอย่างช่วงราคาดีเมื่อเกือบ 20 ปี คนใต้ร่ำรวยจากยางกันเยอะ ถึงกับลงทุนไปขยายสวนทางภาคอีสานกันหลายจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดเลยและบุรีรัมย์ เดี๋ยวนี้คงทนอยู่อย่างกล้ำกลืน ต่างรู้สึกเสียดายเงินที่ลงทุนไป
ใครมาเป็นรัฐบาลในช่วงเศรษฐกิจขาลง (มานาน) คงต้องฟื้นฟูอีกหลายปี เพื่อนบ้านไปไกลแล้ว แม้แต่ สปป.ลาว เวียดนาม ที่อยู่ใกล้ เขาก้าวไปไกลแล้ว ส่วนฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย หลังเผด็จการลงหลุมหมดแล้ว

ประเทศเขาเจริญก้าวหน้าดีกว่าไทยแล้ว ถ้าไม่ไปเห็นมาด้วยตาตัวเองคงเขียนไม่ได้ สมัยเผด็จการครองเมือง และหลังเผด็จการหมดอำนาจ บ้านเมืองของเขาเปลี่ยนแปลงผิดหูผิดตา เวียดนาม สปป.ลาว ประเทศเขาปกครองด้วยระบอบสังคมนิยม หรือคอมมิวนิสต์ เจริญไปอีกแบบ กฎหมายเขาเข้มแข็ง คนเขามีความเกรงกลัวกฎหมาย

แต่ที่ไม่กล้ากล่าวถึงก็คือ ประเทศเมียนมา กับกัมพูชา ยิ่งนานไปยิ่งแปลกใจ ใครไปเอาแบบกันมาใช้กับไทย ดูไม่เหมือน แต่คล้ายกันนะ
กลับมาดูภูมิหลังของนายหัวนิคม กันดีกว่า คุณนิคมเป็นชาวตะปาน อำเภอพุนพิน โดยกำเนิด เมื่อเรียนจบก็ไปสมัครเข้าเรียนได้ที่ศูนย์อนามัย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เรียนได้ครบหลักสูตรปีครึ่งก็จบมาเป็นหมอนิคมทันที เพราะความเป็นคนใต้ หน้าตาหล่อเหลา ผมหยักโศก เรียกว่าเป็นพระเอกหนังได้

ด้วยความขยัน เอาการเอางานมา เขาเอาความหนุ่มมาทุ่มเทกับงานจนก้าวหน้ามีรายได้ดีก็นำเงินมาซื้อที่เพิ่มได้ทุกปี เพื่อเอาไว้ทำสวนในบั้นปลายชีวิต ด้วยเหตุนี้คนไข้มาติดต่อรักษากับหมอรูปหล่อไม่ได้ขาด ว่ากันยังงั้น

โชคได้เข้าข้างเขามาตลอด แต่หลังจากเขาประสบอุบัติเหตุขับรถคว่ำ ต้องตัดแขนไปข้างหนึ่ง จึงตัดสินใจลาออกจากงานที่อนามัยปราจีนบุรี เพื่อเปลี่ยนแปลงอาชีพใหม่ เขากลายเป็นคนพิการแขนขาด และเพราะมีพี่น้องหลายคน จึงตัดสินใจรวบรวมกันจัดตั้งบริษัทขึ้นมาที่ย่านคลองเตย ใกล้กรมศุลกากร ถนนพระรามที่ 4 เป็นบริษัทชิปปิ้งจัดส่งของให้ลูกค้า ส่งสินค้าไปนอก เพราะอยู่ใกล้ท่าเรือคลองเตย และรับสินค้าที่ส่งมาออกมาจากท่าเรือมาบริการให้ลูกค้าจนมีงานชุกมาก

เขาโชคดีมีภรรยาเก่ง และพี่น้องมาร่วมมือกันทำงานอย่างสามัคคี และเป็นธุรกิจที่เขาตั้งตัวได้ มาสร้างฐานะจนมีพื้นที่ปลูกยางพาราและปาล์มน้ำมัน ในแถบริมแม่น้ำตาปี บ้านเกิด ติดกับนักการเมืองชื่อดัง

ยางแผ่นรมควัน
ต้นปาล์มน้ำมันรุ่นใหม่ในสวนประชาราษฎร์

เมื่อนำเงินมาลงทุนทำสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน สร้างฐานะทั้งสองทางเพราะอาชีพชิปปิ้งคิดว่าคงแก่ตัวทำต่อไม่ไหว จึงคิดโอนให้น้องชายไปทำต่อ เพราะขณะนั้นต้องขึ้นล่องจากกรุงเทพฯ ไปสุราษฎร์ธานี เพื่อดูแลกิจการงานทั้งสองอย่างให้ได้ทั่วถึง

ด้วยความมีประสบการณ์ทำอาชีพหลายอย่าง หลังจากเลิกธุรกิจชิปปิ้งไปแล้ว ก็ยังไปๆ มาๆ กรุงเทพฯ ลูกๆ ยังร่ำเรียนอยู่หลายคน จนเรียนจบมหาวิทยาลัยมาหลายปีแล้ว

สวนประชาราษฎร์ ที่เขาตั้งชื่อไว้นานแล้ว เขาวางแผนให้ลูกชายคนเดียวที่ไปเรียนจบจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เขาหวังว่ากิจการสวนประชาราษฎร์ที่มีพื้นที่หลายแปลง สมัยนั้นเขาเลี้ยงแพะ หวังไว้ต้อนไปกินหญ้าในสวนยางพารา และเคยเลี้ยงวัวมา แต่ปัญหาเรื่องการดูแลไม่มีเวลาเลยหยุดไป เหตุแรงงานหายาก

เคยเลี้ยงแพะเพื่อเอาไว้กินหญ้าในสวนยางพารา ที่ริมน้ำตาปี

เขาหันมาปลูกพืชสวน ทำบ่อเลี้ยงปลา ทำทุกอย่างเพื่อที่จะกอบกู้สวนยางพาราที่มาประสบกับราคาถูกลงติดต่อมาหลายปี และหวังให้ลูกชายที่จบจากแม่โจ้ มาสานต่อจากผู้เป็นพ่อที่ปูทางไว้แล้ว

หลังจบการศึกษาไม่นานฝ่ายลูกชายและสะใภ้ได้ไปหาประสบการณ์ก่อนเพื่อไปประกอบอาชีพค้าขายที่ศูนย์โคออฟสหกรณ์ในเมืองสุราษฎร์ธานี จากนั้นก็จะมาดูแลที่สวนประสานราษฎร์สืบแทนต่อไปตามประสงค์ของผู้เป็นบิดาในอนาคตที่ยังรออยู่

ในส่วนความคิดเห็นของนายหัวนิคม ผู้มีอาชีพทำสวนและประกอบอาชีพค้าขายมาก่อน เห็นว่าอนาคตยางพาราไทยและปาล์มน้ำมันนั้น ถ้าจะให้เกษตรกรอยู่รอดได้ควรมีโรงงานแปรรูป เพื่อเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ยาง แม้ว่าราคายางตลาดโลกจะตกลงมาทั่วโลกที่ค้ายางพารา หรือปลูกยางในย่านอาเซียนมีหลายประเทศได้เพิ่มมากขึ้น

ยางแผ่นดิบ กิโลกรัมละ 53 บาท เดือนพฤษภาคม

แต่ก่อนนั้นมีประเทศไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ที่มียางมากสุด ปัจจุบัน มีเวียดนาม สปป.ลาว และกัมพูชา ต่างหันมาปลูกเพิ่มมากขึ้น ปริมาณการผลิตยางพาราก็เลยสูงขึ้น จนทำให้ยางล้นตลาดโลกอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้

อีกกรณีที่ราคายางเริ่มตกมาหลายปี คนกรีดยางต้องลาออกเพราะส่วนแบ่งในการกรีดยางได้เงินน้อยลง และไม่พอเลี้ยงครอบครัว บางรายเป็นแรงงานต่างด้าวต้องลาออกไปเปลี่ยนอาชีพรับจ้างอย่างอื่นที่มีรายได้ดีกว่า จึงเป็นปัญหาเท่าทุกวันนี้

นายหัวนิคม นอกจากจะเป็นหมอเก่า เป็นนักชิปปิ้ง มีบริษัทชื่อเสียงโด่งดังมาก่อน และอาชีพทำสวนยางพาราและปาล์มน้ำมันแล้ว ยังมีพืชสวนทั้งเงาะ มังคุด ไม้ประดับที่สะสมไว้นาน ความรู้พิเศษที่เป็นเสน่ห์แก่นายหัวก็คือ การจัดสวน หรือ Landscape มือสมัครเล่น และเป็นคนออกแบบบ้านที่สร้างมาแล้วเกือบ 20 ปี ใครผ่านหมู่บ้านตะปาน ต้องจอดดู เพราะลงมือเขียนแบบเอง จัดสวนเอง โดยไม่เคยเรียนมาก่อนด้านภูมิทัศน์

ต้นโกโก้ ปลูกแซมสวน
อีก 30 ปี โลกจะขาดแคลนโกโก้ที่จะไปทำช็อกโกแลต เพราะปลูกน้อยลง

กระทั่งข่าวไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี หรือนักการเมืองอย่าง คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่มีสวนยางติดกันที่ริมน้ำตาปีต่างเคยมาแวะเยี่ยมชมและรับประทานร่วมกันที่บ้านหลังงามพร้อมสวนที่จัดอย่างสวยงามถูกอกถูกใจท่านผู้ว่าราชการและนายอำเภอ ถึงกับเอ่ยปากอยากให้นายหัวนิคมไปตกแต่งสวนภูมิทัศน์ให้กับสถานที่ราชการ นายหัวนิคมถึงกับพูดถ่อมตัวว่า ไม่มีความรู้และไม่เคยเล่าเรียนในด้านสถาปัตยกรรม และภูมิทัศน์ ถึงกับตอบปฏิเสธไป

หวังว่าสวนประชาราษฎร์ที่เคยไปเยี่ยมเยียนมาช้านานคงจะได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมอีก แม้จะนานเกิน 10 ปี ก็ยังอยากจะไปชมและพักมาแล้วด้วยความสุขใจยิ่งนัก

แปรรูปเป็นน้ำมันปาล์มเพื่อสร้างมูลค่า
นายหัวนิคมมีพรสวรรค์ในการออกแบบสร้างบ้านใหม่ และสวนเมื่อ 20 ปี จนผู้ว่าราชการจังหวัดมาเห็นขอให้ไปจัดที่ทางราชการบ้าง

ใครที่สนใจแลกเปลี่ยนกันถึงสถานการณ์ยางพาราและปาล์มน้ำมัน หรือการจัดสวนหย่อม หาความรู้เป็นแนวทางสร้างสรรค์ ติดต่อกับ นายหัวนิคม เมฆรัตนะ สวนประชาราษฎร์ เลขที่ 35/5 หมู่ที่ 1 บ้านตะปาน อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84130 โทร. (077) 270-229, (087) 703-6446

นายหัวนิคมฝากบอกพี่น้องที่คิดจะทำสวนอะไรก็แล้วแต่ ต้องหมั่นเอาใจใส่ต่องาน อย่าทิ้งงานให้คนอื่นดูแลหรือทำแทน ผลจะเกิดขึ้นกับความเสียหายได้ทุกเวลา คำเตือนนายหัวนิคมก่อนที่จะไปธุระต่อ ขอบคุณแทนชาวสวนทุกคน…สวัสดี