มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เปิดตัว ‘เจ้าคุณวัน’ งานวิจัยต่อยอดเพิ่มมูลค่าสมุนไพรไทย

มฟล.เปิดตัว ‘เจ้าคุณวัน’ งานวิจัยต่อยอดเพิ่มมูลค่าสมุนไพรไทย พร้อมประกาศจัดตั้งโครงการศูนย์บริการสุขภาพแบบครบวงจรในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง

รศ.ดร.วันชัย ศิริชนะ อธิการบดี มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) เปิดเผยว่า ทางมหาวิทยาลัยได้ตระหนักถึงคุณประโยชน์สมุนไพรไทย จึงทำการศึกษาวิจัยสมุนไพรอย่างครบวงจร ตั้งแต่การรวบรวมพันธุ์พืชสมุนไพร การแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มจนได้ผลิตภัณฑ์ต้นแบบ ด้วยแนวคิด ‘The Power of Nature’ ภายใต้ชื่อแบรนด์ ‘เจ้าคุณวัน’ จำนวน 11 ชนิด

ได้แก่ เจลกากเมล็ดชา ขี้ผึ้งเสลดพังพอน ขมิ้นชัน ยาเขียวหอม ฟ้าทะลายโจร เม็ดอมอดบุหรี่โปร่งฟ้า ยาธาตุบรรจบ และยาหอมเนาวโกฐ โดยผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่เป็นไฮไลต์ คือ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรมะแขว่น ซึ่งเป็นสมุนไพรในกลุ่มเครื่องเทศ ที่มีรสเผ็ดร้อนและมีกลิ่นหอม พบมากในแถบพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย

ทีมนักวิจัย มฟล.ได้ค้นพบว่า ผลมะแขว่นมีฤทธิ์ยับยั้งกระบวนการอักเสบของร่างกาย และบรรเทาอาการปวดได้ และการสูดดมน้ำมันมะแขว่น มีผลต่อการเพิ่มค่าความดันโลหิตและช่วยกระตุ้นระบบประสาทให้ตื่นตัว ทำให้รู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น จึงนำมาพัฒนาในรูปแบบผลิตภัณฑ์สมุนไพร 3 ชนิด ได้แก่ ขี้ผึ้งมะแขว่น น้ำมันมะแขว่น และสเปรย์มะแขว่นไล่ยุง ผลิตโดยโรงงานผลิตยาสมุนไพร มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ตามมาตรฐาน GMP/PICs

รศ.ดร.วันชัย กล่าวว่า แผนงานเป้าหมายของ มฟล.สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ที่กำหนดยุทธศาสตร์ให้จังหวัดเชียงรายและ 3 จังหวัดในกลุ่มภาคเหนือตอนบน ได้แก่ พะเยา แพร่ น่าน เป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบสมุนไพรที่สำคัญของประเทศ เพื่อยกระดับรายได้จากพืชสมุนไพรที่มีคุณภาพแก่เกษตรกร และเพื่อให้ยาและผลิตภัณฑ์สมุนไพรมีศักยภาพในการแข่งขันในทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงกระตุ้นการสร้างรายได้ของจังหวัดและประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1 เท่าตัว ตลอดจนมีการใช้สมุนไพรในระบบสุขภาพเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ มฟล.ได้วางแผนก่อสร้างศูนย์การแพทย์โดยสำนักวิชาแพทยศาสตร์ มูลค่า 6,000 ล้านบาท คาดว่า จะเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2561 ซึ่งจะกลายเป็นศูนย์บริการสุขภาพแบบครบวงจรแห่งภาคเหนือและอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยมุ่งให้บริการด้านการดูแลสุขภาพที่ทันสมัยครบวงจร สำหรับประชาชน นักท่องเที่ยว นักธุรกิจ นักลงทุน และผู้สูงอายุ ในปี 2562 เตรียมเปิดให้บริการโรงพยาบาลขนาด 400 เตียง เพื่อสู้กับภาวะขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์และยกระดับคุณภาพชีวิตด้านสุขอนามัยประชาชนในเขตภาคเหนือตอนบนและกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านในระยะยาว

ขณะเดียวกัน มฟล. มุ่งมั่นใช้นวัตกรรมช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตทางการเกษตร เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรไทย โดย ผศ.ดร.มยุรี กัลยาวัฒนกุล และคณะ ภาควิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง ได้ศึกษาพบว่า รวงข้าวขาวดอกมะลิ 105 ในช่วงระยะแรกของการออกดอก คือ 0 – 7 วัน ก่อนเข้าสู่ระยะที่เมล็ดข้าวแก่เต็มที่ มีปริมาณฟีนอลิครวมสูงที่สุด และมีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระ ต้านเอนไซม์ไทโรซิเนส เอนไซม์อีลาสเตสและคอลลาจีเนสได้ดี

 

นักวิจัย มฟล.จึงนำรวงข้าวขาวดอกมะลิ 105 มาแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มในรูปแบบผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพผิว “ครีมรวงข้าว : ลานาดีน ” ซึ่งเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการพัฒนานวัตกรรมใหม่จากข้าวเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของข้าวไทย โดยเริ่มทดลองวางจำหน่ายที่ M – Store ศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทร.0 – 5391-7020 – 1 หรือ m – [email protected]