ทวาย ตลาดยังไม่วาย

ยำทวายและมะม่วงทวาย นั่นคือนามที่หลายคนอาจนึกถึงเมื่อเอ่ยชื่อ “ทวาย” แต่คงมีมิใช่น้อยคนอยู่เหมือนกันที่นึกถึงเมืองทวาย ของประเทศพม่าหรือสหภาพเมียนมาร์ ทวายอยู่ในแขวงตะนาวศรีทางภาคใต้ของพม่า ติดเขตแดนจังหวัดกาญจนบุรีของไทย

แผงขายปลาในตลาดสดทวาย

เป็นเมืองที่ฉันใฝ่ฝันมานานว่าอยากมาเยือนสักครั้ง เช่นเดียวกับเมืองมะริดที่เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมานาน โดยเฉพาะเมื่อคนไทยพลัดถิ่นแถวประจวบคีรีขันธ์เล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อนนี้พวกเขาอยู่กันที่มะริด ทวาย ตะนาวศรี ก่อนที่จะหลีกลี้หนีความลำบากของประเทศพม่าข้ามมาฝั่งไทย

และในที่สุด ณ เพลานี้ฉันก็ได้มีโอกาสมาเดินเตร็ดเตร่ไปตามถนนหนทางของเมืองทวาย สมดังฝัน ได้ชื่นชมบ้านเรือนเก่าๆ แสนงามมีเอกลักษณ์มีรถม้าเสียงดังกึงกังแล่นผ่าน ความจริงน่าจะนั่งรถม้าวนรอบเมืองสักเที่ยวแต่ไม่ได้นั่งไม่ใช่เพราะมีจิตใจสงสารสัตว์ แต่เพราะกลัวเอวเคล็ดจากการโขยกเขยกของม้ามากกว่า

แม้ประเทศพม่ากำลังพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด แต่ตามต่างจังหวัดยังมีรถม้ารับผู้โดยสารให้เห็น  ทว่าคงจะลดน้อยลงไปเรื่อยๆ เหมือนรถสามล้อถีบบ้านเราที่ต้องหลีกทางให้รถเครื่อง รถตุ๊กๆ และแท็กซี่

ชาวบ้านหมู่บ้านประมงอวดผลงานวิจัยพันธุ์ปลา

ทวายกับไทยนั้นไม่ห่างไกลกันเลย ในประวัติศาสตร์ทวายเคยตกอยู่ภายใต้ราชอำนาจของกรุงศรีอยุธยาและหงสาวดี ขึ้นอยู่กับว่าช่วงไหนเมืองใดมีความเข้มแข็งมากกว่ากัน แต่ครั้นเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เมืองทวาย มะริด ตะนาวศรี ก็ตกอยู่ภายใต้การปกครองของพม่า สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีเคยยกทัพไปตีกลับคืนมาได้ แต่พอสมัยรัชกาลที่ 1 ต้นกรุงรัตนโกสิทร์ทวายกลับแข็งข้อ

ทว่าประจวบเหมาะกับเวลานั้น พระเจ้าปดุงบีบบังคับให้เมืองทวายส่งส่วย กระทั่งสร้างความเดือดร้อนแก่ชาวเมืองทวายไปทั่ว มังจันจ่าเจ้าเมืองทวายในเวลานั้นจึงนำชาวเมืองขอเข้าสวามิภักดิ์ต่อสยาม

ชาวทวายเหล่านั้นจึงได้เข้าสู่พระนครและตั้งบ้านเรือนอยู่ริมคลองด้านหลังวัดสระเกศ ก่อนจะพระราชทานที่หลวงให้ตั้งถิ่นฐานอยู่ถาวรตรงตอนใต้ของพระนครบริเวณวัดคอกควาย  ต่อมาชาวทวายได้สร้างวัดของตัวเองขึ้นชื่อวัดดอนทวาย ซึ่งสมัยรัชกาลที่ 4 ได้เปลี่ยนชื่อให้เป็นวัดบรมสถล

นี่เป็นเพียงประวัติศาสตร์ที่ฉันคัดย่อสั้นๆ มาพอให้เห็นภาพเท่านั้น

เด็กในหมู่บ้านชาวประมงชายฝั่งทะเลอันดามัน ทวาย

เมืองทวาย ในปัจจุบันกลับมาเป็นที่สนใจแก่ชาวสยามอีกครั้ง  โดยเฉพาะในหมู่นักทำงานด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยว่ารัฐบาลและบริษัทเอกชนของไทยเราเข้าไปเกี่ยวข้องกับโครงการใหญ่ยักษ์ในทวาย ที่จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมหาศาล

นั่นคือโครงการเศรษฐกิจพิเศษทวาย ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ พ.ศ. 2551 เมื่อรัฐบาลไทยและพม่าต้องการพัฒนาอ่าวทวายให้เป็นประตูการค้า เชื่อมต่อประเทศไทยผ่านพม่าไปยังจีน อินเดีย บังคลาเทศ โดยมีบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวลล็อบเม้นต์ จำกัด มหาชน ได้รับสิทธิ์เป็นผู้พัฒนาโครงการ

พื้นที่เขตเศรษฐกิจทั้งหมด 250 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 156,250 ไร่ ขนาดใหญ่กว่านิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดราว 10 เท่า ชาวทวายที่ได้รับรู้ข้อมูลปัญหามลพิษที่ส่งผลต่อชาวมาบตาพุดอย่างยากที่จะแก้ไข ต่างหวาดวิตกไปตามๆ กัน

เรือและแม่น้ำทวาย

เขตเศรษฐกิจพิเศษทวายตามแผนที่วางไว้นั้น จะมีทั้งท่าเรือน้ำลึก โรงไฟฟ้าถ่านหิน  โรงงานอุตสาหกรรมทั้งหนักทั้งเบา และสิ่งก่อสร้างอื่นๆ อีกมากมาย แม้ตอนนี้จะเห็นความคืบหน้าเพียงถนนสายที่ตัดจากกิโลเมตรศูนย์ทวายเชื่อมไปยังจังหวัดกาญจนบุรีของไทย ทว่าชาวบ้านที่อยู่ในเขตก่อสร้างก็เดือดร้อนกันไปทั่ว ทั้งโดนย้ายออกจากที่อยู่เดิม ทั้งได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างที่อยู่ใกล้ที่อยู่อาศัยและที่ทำมาหากินมากเกินควร

แล้วหากเขตเศรษฐกิจพิเศษรุกคืบการก่อสร้างไปมากกว่านี้จนเต็มพื้นที่ ที่กำหนด   สิ่งใดจะเกิดขึ้นกับชาวทวาย อย่าได้กระพริบตาเลยทีเดียว

ทวายเป็นเมืองที่จัดอยู่ในเขตฝั่งอันดามัน ตัวเมืองทวายห่างจากทะเลอันดามันประมาณ 40 กิโลเมตร ใกล้ชายทะเลเต็มไปด้วยหมู่บ้านชาวประมงที่ออกเรือหาปลาเป็นอาชีพเลี้ยงตัว กุ้งหอยปูปลาที่หาได้นั้นส่งป้อนชาวเมืองทวายได้อย่างอิ่มหนำสำราญ ทั้งยังเหลือพอที่จะส่งออกไปป้อนคนต่างเมือง

ตลาดเช้า

ยามเช้าที่ทวายฉันเดินเอื่อยไปตามถนนชมบ้านเรือนงามไม่ทันเหนื่อยก็ถึงตลาดเช้า   ซึ่งตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำทวาย สายน้ำสำคัญของชาวเมือง กว้างใหญ่สวยงาม เรือที่จอดเทียบฝั่งอยู่นั่นก็ลำใหญ่ ทวายมีทั้งทะเลและแม่น้ำ ข้าวปลาอาหารจึงอุดมสมบูรณ์ครบถ้วน ในตลาดสดมีแผงขายปลาสรรพอาหารจากสายน้ำแยกออกมาต่างหาก คนขายวางแผงอวดโฉมปลาของตัวเองเป็นแถวยาวเหยียด ผู้คนที่มาหาซื้อปลาเบียดเสียดยัดเยียดกันคึกคัก ทำให้มองเห็นว่าปลาเป็นอาหารสำคัญของชาวทวายอย่างยิ่งเลยทีเดียว

นอกจากอาหารที่ได้จากทะเลและแม่น้ำ ผืนดินทวายยังอุดมสมบูรณ์  ระหว่างทางที่เห็นจึงเต็มไปด้วยทุ่งนาและทิวตาลคล้ายทางภาคใต้ของไทย แล้วไหนจะสวนหมาก สวนผลไม้นานาชนิด เท่าที่เห็นวางขายในตลาดนั้นมีทั้งกล้วยอ้อย เงาะ ทุเรียน  มะม่วง  ฯลฯ

ทะเลอันดามันฝั่งทวาย

แม้คนทวายจะบอกว่าผลไม้ของเขายังขาดการพัฒนาด้านเทคนิคการเพาะปลูก  จึงไม่สวยและรสชาติไม่หวานเท่าผลไม้ไทย  และเขาหวั่นเกรงว่าวันหนึ่งเมื่อเปิดเส้นทางการค้าสะดวกสบายขึ้น ผลไม้จากฝั่งไทยจะเข้ามาตีตลาดผลไม้ทวายกระเจิง ก็เป็นความหวั่นวิตกในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ซึ่งชาวทวายยังต้องมีสิ่งที่น่าวิตกกังวลอีกมากเมื่อมองเห็นการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเดินทางมารออยู่เบื้องหน้า

กระนั้นในวันนี้เท่าที่เห็น ยังพออุ่นใจได้ว่าข้าวปลาอาหารประดามีของทวายนั้นยังมั่งคั่งมั่นคง นับจากนี้ขึ้นอยู่กับว่าจะมีแนวทางใดสามารถหยุดยั้งการทำลายแหล่งอาหารของทวาย ไม่ให้ตลาดที่คึกคักด้วยอาหารต้องกลายเป็นตลาดวายไปอย่างไม่สมควร